จดหมายจากครูใต้ตอบคณะกรรมการสมานฉันท์ | |
จดหมายจากครูใต้ตอบคณะกรรมการสมานฉันท์ โดย เสียงจากแผ่นดินแม่ เมื่อ 5 ธันวาคม 2012 เวลา 22:40 น. จดหมายจากครูใต้ตอบคณะกรรมการสมานฉันท์ เรื่อง ขอยืนยันทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ต่อไป ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เคยชื่นชมนับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านานดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆ ว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีสุด เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกันดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ ดิฉันถือว่า เราต่างคนต่างมีความเชื่อเลยขอเรียนว่า ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณ ที่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่(คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย) ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี 1. ชาวบ้านแท้ เป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวกตาบอดผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ ( เคยถามคนที่ไม่เคยคลุมหัวฮิญาบว่าทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่า ผัวได้บุญ) ในขณะที่ผู้ชาย...ขี้เกียจอ้างศาสนา เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ (มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดีเพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า) เชื่อในชีวิตหน้าชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้ (ตายก็ได้ถ้าผู้นำชี้แนะ ขนาดที่มีลูกสาวสวยผู้นำจะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องให้) 2. ผู้นำที่เลว ใช้ศาสนาทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิด ไม่พูดภาษาไทยไม่คิดว่า ตัวเองเป็นคนไทย ไม่รับรู้โลกภายนอกเพื่อให้ตัวเองเป็นคนสำคัญและมีอำนาจเหนือชาวบ้าน(ผู้ปกครองนักเรียนแอบมาเล่าว่า อยากให้ลูกเรียนสูงๆ บ้าง ทีลูกผู้นำเขาส่งเรียนสูงๆ แต่ลูกเรา เขาบอกให้เรียนปอเนาะได้บุญ)เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย ครูก็ช่วยแล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่า เด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้วเขาไม่รู้จักเรา แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่) 3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่มีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัวไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคนโดยเฉพาะคนนอกศาสนา ถ้าใครให้ เขาจะรับ แต่ไม่ให้ตอบเพราะบาปนักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำศาสนาและชาวบ้าน(เพื่อคะแนนเสียง)โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจากโลกภายนอกทำให้คนพื้นเมืองอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้เพราะโลกหน้าต่างหากที่เป็นของจริงเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจนก็เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแลเมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย...เขาก็ต้องฟังผู้นำ ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในพื้นที่เพราะมีลูกมากและคนไทยอพยพหนีตายจากนั้นก็เรียกร้องขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา...เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่หรือ ? 4. ระยะหลัง เริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติและส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย(ไทยพุทธ) ออกจากแผ่นดินรุนแรงขึ้น เนื่องจากได้เงินสนับสนุน(จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้) ได้ความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้นและการปลูกฝังว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก (แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้) เรื่องอย่างนี้ เหมือนน้ำท่วมปากแต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง เพราะเรากลัวตายการฆ่ารายวันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า...ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิดว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทยแผ่นดินนี้เป็นของเขาทุกสิ่งที่ เราให้ เขารับแต่เขาขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห็นพวกคุณแสดงความเห็นใจคนพวกนี้และว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนไทยคุณรู้กันบ้างไหมว่า ทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้ทำให้เฉพาะคนไทย เพราะเราทุกคนเป็นคนไทย ในจังหวัดที่ดิฉันเป็นครูมา 30 ปีดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขาแบ่งเรา มีแต่เขานั่นแหละที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวันถ้าคุณอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นแผ่นดินไทย...คุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขาเรียกร้องเอาโน่นเอานี่มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่ไหว้ครูร่วมกันคนพุทธ ฉันจะไม่เรียนวิชานี้ฯลฯ ด้วยข้ออ้างว่า เพราะขัดกับหลักศาสนา แล้วเราก็ยอมเขาทุกเรื่องและให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน นักการเมืองที่เป็นพวกเขาก็พูดเอาแต่ได้ และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างศาสนาก็กดคนของเขาให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ให้ไม่มีความรู้เพื่อเขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นฐานโดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียมที่คนในสังคมชนบทได้รับ (อย่างพวกสิทธิมนุษยชน) เป็นเครื่องมือ ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่อยู่ใน3จังหวัดต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดกัน เพื่อเข้าใจเขาแต่เขาไม่ต้องหัดพูดภาษาไทย เพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้กระนั้นหรือ?( แต่ครั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่า เราเป็นคนนอกศาสนานอกเชื้อชาติเขา)ทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้างทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลางที่เป็นภาษาราชการ เพราะเขาคิดว่า เป็นคนไทย แต่คนพวกนั้นไม่เคยคิดใช่ไหมแล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไป หรือให้เขาเลิกคิดกันเสียทีให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะดีกว่าไหมถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ ดิฉันแปลกใจที่คนในกลุ่ม คุณอานันต์ (ประธานกอส.) พร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะ เรื่องตากใบ ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุคุณตัดตอนมาแต่ความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไรทำไมคุณไม่พูดบ้างว่า คนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหมบ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไรคนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆ ในสังคม อย่างพวกคุณคอยหนุนหลังอยู่เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ (ที่พวกดิฉันแอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์)เพื่อสร้างภาพว่า เขาเป็นฝ่ายถูก ทั้งที่เขาก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน ถ้าคุณเป็นครูมานาน เท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่นคุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขนาดไหน ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครูเจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เจอผู้คนที่มีอัธยาศัยแม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้างแต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้ แต่สิบปีที่ผ่านมานี้ สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงจากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน ทุกอย่างเห็นชัดว่า เลวร้ายมากขึ้นจากการแยกตัวของพวกเขาที่เข้มงวดเรื่องการแต่งกาย เรื่องภาษา เรื่องศาสนาและจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ เขาเชื่อว่า ลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งมีมากยิ่งดีแต่ไม่สนใจว่าจะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้อย่างไร...(รัฐบาลดูแลแก้ไขไปซิ)สังคมของเขาปัจจุบันนี้ ผู้ชายก็ยังแสดงโวหารตามร้านน้ำชา ทำงานอืดๆเอื่อยๆ นึกจะพักก็พักนึกจะเลิกก็เลิก...(อันนี้ผู้พิมพ์เห็นด้วยกับครูผู้เขียน) เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี ต้องเอาคนงานอีสานไปเพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน (ดีแต่เรียกร้อง) ไม่มีเงินก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่เป็นธรรมใครจะทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครอง แล้วใครจะอยากมาลงทุนเขาพร่ำสอนกันว่า พวกคนเจ๊ก คนไทย เอาเปรียบเขา ทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่คนที่เคยเป็นมิตรกัน ก็มองกันอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิมครูอิสลามบางคน ที่ไม่ใช่คนที่นี่บอกว่า คงอยู่ไม่ได้เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ จากพวกศาสนาเดียวกันแต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ ดิฉันเชื่อว่า ในคณะกรรมการสมานฉันท์ที่เป็นฝ่ายอิสลามจะต้องแสดงความคับแค้นนานับประการที่ได้รับจากบ้านเมือง...ช่วยถามเขาด้วยนะคะ ว่าทุกวันนี้ เขาโดนกดขี่จากใครเขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขาเองหรือใครทำ ?มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐปิดโอกาสเขา ไม่ให้ได้รับ แล้วให้แต่ซือแย(ไทยพุทธ) จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าจะทรงคิดว่าเขาเป็นคนอื่น ท่านทรงมีเมตตากับทุกคน ทุกหมู่เหล่าอย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชังอย่างนี้แล้วข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร แผ่นดินนี้ ประเทศนี้ ให้ชีวิตกับเขาได้เจริญก้าวหน้ากว่าคนศาสนาเดียวกัน เขาควรสำนึกในบุญคุณของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา แต่เขากลับเลือกใช้ความกลัวความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขา เป็นฐานให้เขาได้เป็นใหญ่ต่อไปเขาทำลายผู้อื่น เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาคิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือแล้วพวกคุณก็พลอยเห็นดีเห็นงาม สนับสนุนเขาไปด้วยทั้งที่คุณรู้เห็นอยู่เต็มตาว่า ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊ก เป็นเหล่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบจงประสบแต่ความวิบัติในชีวิต และขอให้บาปทั้งมวลสืบต่อไปถึงลูกหลานให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัยสมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิดขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และเมื่อล่วงลับไปสู่โลกหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่วไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน หนึ่งในครูภาคใต้ อ่านแล้วส่งต่อ ให้ความจริงได้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วประเทศ.. | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556
จดหมายจากครูใต้ตอบคณะกรรมการสมานฉันท์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น