ใต้อาจป่วนใหญ่วันชาติมาเลย์ ทีมเจรจาลุยต่อตั้งชุดคุยลับ-ดึงพูโลใหม่ร่วม

ใต้อาจป่วนใหญ่วันชาติมาเลย์ ทีมเจรจาลุยต่อตั้งชุดคุยลับ-ดึงพูโลใหม่ร่วม

ฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์ชายแดนใต้ไร้เสียงระเบิดช่วงนี้ เหตุรอป่วนใหญ่ 31 ส.ค.ซึ่งตรงกับวันชาติมาเลเซียและวันสถาปนาเบอร์ซาตู เผยปีที่แล้วก็มีติดธงมาเลย์ร่วม 300 จุด ด้านโต๊ะพูดคุยสันติภาพยังไม่ถึงทางตันหลังกองทัพปัด 5 ข้อบีอาร์เอ็น ตั้งคณะทำงานชุดเล็กถกทางลับ เผยกลุ่มฮัสซันขอปรับทีม ขณะเดียวกันเปิด "ช่องทางใหม่" กล่อมพูโล 2 กลุ่ม ชี้เป็นพวกตกขบวนจึงก่อเหตุหนักหวังกดดันไทย คาดอาจต้องเปิดโต๊ะแยกต่างหาก         แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ที่ค่อนข้างเงียบ ไม่มีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่หรือการโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมก่อเหตุใหญ่เชิงสัญลักษณ์ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันชาติมาเลเซีย และวันคล้ายวันสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู โดยล่าสุดฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมแผนรับมือเหตุป่วนทุกรูปแบบแล้ว วันกาเดร์ เจ๊ะมัน         สำหรับ "ขบวนการเบอร์ซาตู" คือ "องค์กรร่ม" ที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนหลายขบวนการ เช่น บีอาร์เอ็น (เก่า) พูโล และบีไอพีพี (ขบวนการแบ่งแยกรัฐปัตตานี) เป็นต้น เพื่อความเป็นเอกภาพในการต่อสู้และประโยชน์ในการเจรจา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31ส.ค.2532 มี ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมัน ประธานบีไอพีพี และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย เป็นประธาน แต่ปัจจุบันยุติบทบาทไปแล้ว          อนึ่ง วันที่ 31 ส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับวันศุกร์ ได้มีกลุ่มบุคคลลึกลับกระจายกำลังกันติดธงชาติมาเลเซียจำนวน 296 จุด ใน จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา จนกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในเวลานั้นว่าผู้ก่อการต้องการสื่อสารอะไร พบธงมาเลย์หล่นนับร้อยผืน         ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 28 ส.ค.2556 ฝ่ายความมั่นคงพบธงชาติมาเลเซียจำนวน 100 ผืนในพื้นที่หนึ่งของ จ.นราธิวาส เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจทำหล่นระหว่างขนย้ายเพื่อเตรียมก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์อีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งตรงกับวันชาติมาเลเซีย และวันคล้ายวันสถาปนาเบอร์ซาตู          อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นยุทธวิธีสร้างภาพลวงว่าจะมีการติดธงเพื่อสร้างสถานการณ์ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ อาจใช้การก่อเหตุรูปแบบอื่นก็ได้ ทีมพูดคุยตั้ง "ชุดเล็ก" ถกลับบีอาร์เอ็น          ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับขบวนการบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซัน ตอยิบ ภายหลังผู้บัญชาการเหล่าทัพ นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ยอมรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็นนั้น           แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายไทย เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ คือทั้งสองฝ่ายตระหนักว่าการพูดคุยแบบเปิดเผยเป็นทางการอาจนำไปสู่ความสำเร็จได้ยาก เพราะต้องเจอกับกระแสกดดันสูง จึงตกลงกันกว้างๆ ว่าจะใช้ช่องทางใหม่ (Track 2) ในการพูดคุย โดยการตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อนัดพูดคุยในทางลับ เมื่อตกลงกันได้ในเรื่องใดจึงจะนำเสนอคณะพูดคุยสันติภาพชุดใหญ่เพื่่อให้พิจารณาและทำความตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ        "ขณะนี้กำลังติดต่อประสานงานกันเพื่อวางกรอบการตั้งคณะทำงานชุดเล็กโดยใช้อีเมล์ผ่านผู้อำนวยความสะดวก คือทางการมาเลเซีย" แหล่งข่าวระบุ        หนึ่งในแกนนำคณะพูดคุยสันติภาพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของคณะพูดคุยชุดใหญ่ ตัวแทนฝ่ายไทยยังคงเป็นชุดเดิม ส่วนฝ่ายบีอาร์เอ็นกำลังปรับทีมใหม่ โดยอาจดึงผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เข้ามาร่วมมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้การพูดคุยในระยะต่อไปเสียเปรียบรัฐบาลไทย แต่หัวหน้าคณะยังคงเป็นนายฮัสซัน ตอยิบ เหมือนเคย เปิด "ช่องทางใหม่" กล่อมแกนนำพูโล           ด้านแหล่งข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เปิดเผยว่า การใช้ช่องทางใหม่ หรือ Track 2 เพื่อแก้ปัญหาและอุปสรรคของการพูดคุยสันติภาพตลอด 6 เดือนที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีเฉพาะการตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อพูดคุยกับบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซันต่อไป แต่ยังมีการตั้งทีมงานเพื่อพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มพูโลใหม่ เพื่อขยายเวทีการพูดคุยให้กว้างขึ้นและครอบคลุมผู้เห็นต่างจากรัฐทุกกลุ่มด้วย โดยทีมงานดังกล่าวนี้ส่วนหนึ่งมาจากองค์กรที่ร่วมอยู่ในโครงสร้าง ศปก.กปต.และมีประสบการณ์การพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ        "ที่ผ่านมากลุ่มพูโลใหม่ถือว่าตกขบวนพูดคุยสันติภาพ เพราะรัฐบาลโดยเลขาธิการ สมช.ไปลงนามในข้อตกลงริเริ่มกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นเท่านั้น ที่ผ่านมาระหว่างที่มีกระบวนการพูดคุยจึงไม่สามารถลดเหตุรุนแรงลงได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากกลุ่มที่ตกขบวนได้พยายามก่อเหตุรุนแรงเพื่อกดดันให้รัฐบาลไทยหันไปคุยกับพวกตนบ้าง"        "อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการเปิดเวทีพูดคุยกับกลุ่มอื่นทำได้ยาก เพราะฝ่ายบีอาร์เอ็นกดดันให้รัฐบาลไทยคุยกับบีอาร์เอ็นกลุ่มเดียวเท่านั้น โดยทางบีอาร์เอ็นได้ดึงกลุ่มพูโลเก่าเข้ามาร่วมคณะพูดคุย และอ้างว่าเป็นตัวแทนของทุกกลุ่มในพื้นที่แล้ว ทำให้รัฐบาลต้องเปิดช่องทางใหม่ในการพูดคุยกับกลุ่มอื่น" เผยต่อสายกลุ่ม "ซำซูดิง-กัสตูรี"         แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ให้ข้อมูลเสริมว่า สาเหตุที่ต้องใช้ทีมงาน Track 2 ไปพูดคุยกับแกนนำพูโลนั้น เนื่องจากฝ่ายพูโลใหม่เองก็ไม่ยอมร่วมโต๊ะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะถือว่าตนเองมีศักดิ์ศรีเหนือกว่า ก่อตั้งองค์กรมาก่อน และต่อสู้มาอย่างยาวนานกว่า ทำให้ฝ่ายไทยต้องใช้ทีมงานอีกทีมหนึ่งแยกไปพูดคุยในทางลับเป็นการเฉพาะ         ทั้งนี้ แกนนำพูโลที่มีการต่อสายพูดคุยบ้างแล้ว เป็นกลุ่มของ นายซำซูดิง คาน และกลุ่มนายกัสตูรี มาห์โกตา ซึ่งอ้างตัวเป็นประธานองค์การพูโลคนใหม่ และเคยให้สัมภาษณ์พิเศษทางสถานีโทรทัศน์ของไทยช่องหนึ่งก่อนวันที่ 28 ก.พ.56 ซึ่งเป็นวันลงนามในข้อตกลงริเริ่มกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซัน โดยผู้ประสานงานให้เกิดการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ คือองค์กรเอกชนระหว่างประเทศองค์กรหนึ่งที่เคยจัดเวทีพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐกลุ่มต่างๆ มาแล้วในรัฐบาลชุดก่อน         อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่า การทำงานของทีม Track 2 ในส่วนนี้เชื่อมโยงกับการทำงานของทีมพูดคุยสันติภาพชุดใหญ่ที่นำโดย พล.ท.ภราดร หรือไม่ เพราะขณะนี้ทางการมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยได้พยายามประสานกับแกนนำพูโลใหม่บางปีกให้เข้าร่วมโต๊ะพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซันเช่นกัน        แหล่งข่าวรายนี้ ยังให้ข้อมูลอีกว่า มีความพยายามของฝ่ายไทยในการประสานให้ทางการอินโดนีเซียเข้ามามีบทบาทในกระบวนการพูดคุยสันติภาพ เพราะจากฐานข้อมูลพบว่ามีกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐคนสำคัญๆ พำนักอยู่ในประเทศอินโดนีเซียด้วยเหมือนกัน และแกนนำบีอาร์เอ็นรุ่นก่อตั้งยังเคยเป็นเยาวชนที่จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซียเป็นส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทีมพูดคุยสันติภาพ Track 2 และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เคยเดินทางไปเปิดพื้นที่พูดคุยกับบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่อินโดนีเซียหลายครั้งแล้ว --------------------------------

http://narater2010.blogspot.com/