วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โรฮิงญาอย่าทำเป็นเล่น

โรฮิงญาอย่าทำเป็นเล่น

โรฮิงญาอย่าทำเป็นเล่น

โรฮิงญาอย่าทำเป็นเล่น : มองมุมยุทธศาสตร์ 

โดยเรือรบ เมืองมั่น Facebook : ruarob.muangman

 

       ปัญหาชาวโรฮิงญา กลายเป็นประเด็นระดับสากลที่ได้รับการไฮไลท์ไปแล้ว แต่ถูกขับเน้นในแนวเดียวคือ ห่วงใยความร้าวรานของคนสายพันธุ์นี้ ที่ต้องลอยเรือไปตกระกำลำบากในประเทศต่างๆ กระแสความเรียกร้องในเชิงมนุษยธรรมจึงสูงมาก จนถึงกับมีบางกลุ่มคิดอย่างสุดโต่งถึงการช่วยเหลือพวกเขาให้เต็มที่ แต่เมื่อพิจารณาถึงมุมของความมั่นคงและมุมของการแบ่งปันความรับผิดชอบแล้ว ประเทศที่สามอย่างไทย ไม่ควรต้องรับภาระนี้ให้มากเกินกำลัง

      ชาวโรฮิงญานั้นน่าสงสารจริง เพราะใครๆ ก็ไม่นับว่าเป็นพวก พม่าเจ้าของที่รังเกียจขนาดไม่ให้ใช้แซ่ร่วม แม้ว่าพม่าจะเป็นดินแดนหลายเผ่าพันธุ์ หลายกลุ่มฝ่ายที่ทะเลาะกัน แต่ทุกฝ่ายกลับประสานเสียงกันไม่เอาโรฮิงญา ทั้งชาวบ้าน พระสงฆ์และรัฐ หรือแม้แต่ฝ่ายค้าน บังกลาเทศที่ว่าเชื้อสายใกล้เคียงที่สุดก็ทำได้ดีสุดแค่ตั้งค่ายอพยพไว้ชาย แดน ส่วนมาเลเซีย เป้าหมายในฝันของเหล่ามนุษย์น้ำ ก็พยายามผลักดันออก ไม่ให้สัญชาติเช่นกัน ในสภาพปกติชาวโรฮิงญาก็อดอยากจนต้องลอยเรือออกนอกประเทศอยู่แล้ว สถานการณ์รุนแรงที่ยะไข่เมื่อปีกลาย ยิ่งทำให้พวกเขาแห่กันออกมามากเข้าไปใหญ่ ไทยซึ่งเป็นรัฐชายฝั่งรัฐแรกที่มีเพียงทะเลกั้นพวกเขาไว้ จึงต้องเจอปัญหานี้เข้าไปเต็มๆ

      แน่นอนว่า การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในขั้นต้นเป็นสิ่งประเสริฐ แต่จะมากไปกว่านี้นั้น ไม่ควร เพราะนี่คือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ประการหนึ่ง ในหลายปีที่ปัญหาไม่ได้รับการจับตามองเท่านี้ คนกลุ่มนี้เข้ามาอยู่เมืองไทยเป็นจำนวนหลายพันแล้ว หลายคนถูกนำไปใช้เป็นแรงงานทาสอย่างน่าสงสาร แต่หลายคนก็พัฒนาตนเองเป็นคนขายโรตี หรือยิ่งไปกว่านั้น เช่น รับเดินโพยฟุตบอล อาชีพทั้งผิดและถูกกฎหมายเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะการฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่บางพวกกับนายทุนหน้าเลือด โดยที่คนไทยผู้ได้รับผลกระทบเองนิ่งเฉย คนชั้นล่างใกล้ชิดกลุ่มนี้อยู่ด้วยความหวาดกลัว ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน คนชั้นกลางไม่รู้ปัญหาและไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า โรฮิงญาในไทยมีมากแค่ไหน กระทบต่อปัญหาสังคม เช่น การจ้างงานอาชญากรรมหรือโรคภัยอย่างไร ส่วนคนที่น่าจะสั่งการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ก็ยังงงว่าจะจัดการอย่างไรดี

     หากช่วยเหลือดีเกินไป ให้สิทธิต่างๆ คนพลัดถิ่นเหล่านี้จะยิ่งมายังเมืองไทยและไม่ยอมออก หลายปีผ่านไปทำให้พวกเขาตั้งหลักได้และจะเรียกร้องสิทธิทั้งบนดินใต้ดินยิ่ง กว่านี้ ซึ่งจะทำให้ทางการไทยปวดหัวแน่นอน ทางที่ดีที่สุดยังคงเป็นหาทางผลักดันออกไป ถึงจะยากลำบาก เพราะพม่าก็ยืนหยัดแนวทางเดิมโดยไม่สนใจเสียงโวยขององค์กรระหว่างประเทศ ส่วนมาเลเซียก็สกัดกั้นเต็มที่ เพราะมีคนที่หน้าตาคล้ายแรงงานบังกลาเทศแต่ไม่ใช่บังกลาเทศนี้อยู่ถึง 5 หมื่น ปลอมตัวเป็นชาวบังกลาเทศลักลอบทำงานอยู่เต็มไปหมดอยู่แล้ว 


        ดังนั้นในห้วงเวลาที่ทางการไทยกำลังหวานอมขมกลืนก็อย่าเพิ่งกดดันเอาแต่ มนุษยธรรมเป็นหลักจนลืมมองมุมด้านความมั่นคงเสียเลย
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม