วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

โจรฟาตอนีโดนรวบไปอีก 1 ราย





          เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหารและ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น จากการขยายผลจับกุม นาย ซาฮาบูดิน บือเซาะ อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 76/1 หมู่ 4 ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจากการสอบสวน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนกดระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสุคิริน ขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุ กลุ่มคนร้ายบุกยิง นาย บุญเลิศ จินดาธนะนันท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลร่มไทร เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 29 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา


         นอกจากนั้น นาย ซาฮาบูดิน มือกดระเบิด ยังได้ให้การซัดทอด ถึงสมาชิกแนวร่วมขบวนการที่ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีกหลายคน หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยซักถาม กรมทหารพราน 46 ตามคำซัดทอด ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย  5 แห่ง ในพื้นที่ ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ผลการปฏิบัติ ควบคุมผู้ต้องสงสัยตามคำซัดทอด ได้ 3 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม. พร้อมเครื่องกระสุน เจ้าหน่้าที่ได้นำตัวส่งไปดำเนินกรรมวิธีที่หน่วยซักถาม กรมทหารพรานที่ 46

      ส่วนผู้ถูกซัดทอดอีก 1 ราย ชื่อ นาย อารียะห์ แกแซแอ อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัย ที่ถูกซัดทอด ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติให้พาเข้ามอบตัว แล้ว โดยนาย นาย อารียะห์ แกแซแอ ถูกซัดทอดว่า 
  • เป็นแกนนำ เรียกประชุมกลุ่มสมาชิกแนวร่วมบ้านเมาะตาโก๊ะ ในการวางแผนก่อเหตุ ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 11 ชุด รักษาความปลอดภัยครู เสียชีวิต 2 นาย
  • ประชุมวางแผนยิงปลัด สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลร่มไทรเสียชีวิต
  • ประชุมวางแผนแขวนป้ายผ้าโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ แขวนธงชาติมาเลย์และพ่นสีหัวสะพาน 

ใคร ? คือตัวการที่ต้องการแบ่งแยก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

10382

แฉ ! มาเลเซียตัวการใหญ่ นำรูปแบบ “มินดาเนาโมเดล” จัดตั้ง “กลุ่มมาราปาตานี” แบ่งแยกดินแดน
ภาณุมาศ ทักษณา
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ผมเขียนบทความเรื่อง โชคดีที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นทหาร ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยได้แสดงความขอบคุณ ที่ท่านนายกฯลุงตู่ ไม่ให้ราคาคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “มาราปาตานี” ด้วยการบอกปัดขอเสนอที่จะเปิดการเจราด้วย
และเป็นการเจรจาที่แสดงความฮึกเหิมถึงขั้นต้องการให้มีการเจรจาต่อหน้า องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี โดยให้ประเทศมาเลเซีย เป็นคนกลาง
ตอนเขียนบทความนั้น ผมไม่ทราบที่มาที่ไปของกลุ่มมาราปาตานี ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยผมได้เขียนไปว่า ผมไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือพี่น้องในชายแดนใต้
ในที่สุด กลุ่มมาราปาตานี ก็ถูกเปิดเผยโดย พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิก สนช.ที่เคยทำหน้าที่ หัวหน้าส่วนประสานงานด้านมาเลเซีย ศปก.ทบ.
พล.อ.อกนิษฐ ให้สัมภาษณ์ วรพล กิตติรัตวรางกูร ในแทบลอยด์ ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2559 ในส่วนนี้เอาไว้ดังนี้
“…ประเด็นปัญหามันเกิดขึ้น ก็เพราะรัฐบาลชุดที่แล้ว (รัฐบาลพรรคเพื่อไทย) ไปเปิดเวทีไว้โดยดึงมาเลเซียมาเป็นผู้อำนวยความสะดวก ไม่ใช่คนกลาง
แต่มาเลเซียกำลังเล่นบทบาททั้งเป็นคนกลาง โปรโมเตอร์ แม้กระทั่งกลุ่มที่จัดมาพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาล เขาก็เป็นคนจัดตั้งมา…
สมัยที่พลโทภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธานการพูดคุยก็จัดให้ ฮัสซัน ตอยิบ อดีตแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นมาพูดคุย
151117-TH-MY-MARA-1000
ตอนนี้ก็นำกลุ่ม กลุ่มมาราปัตตานีมา ทั้งหมดเป็นกลุ่มที่มาเลเซียจัดตั้งมาทั้งนั้น มาเลเซียกำลังทำงานโดยอาศัยตัวแบบที่เคยทำกันที่มิดาเนาที่ผมเรียกว่า มินดาเนาโมเดล
ซึ่งเป็นการยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธของกลุ่มขบวนการโมโรกับรัฐบาลฟิลิปินส์ มาเลเซียนอนนั้นเข้าไปเป็นคนกลางแล้วประสบความสำเร็จ
ดังนั้น พอเราไปเชิญเขามาเพื่อให้มาเป็นผู้อำนวยความสะดวก แต่เขาพยายามทำตัวเป็นคนกลางแล้วพยายามใช้ มิดดาเนาโมเดลมาทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ตรงนี้มันเป็นการยกระดับของปัญหา คือเราบอกมาตลอดว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาภายในของประเทศไทย จะไม่ให้ประเทศอื่นเข้ามา
แต่พอนำมาเลเซียเข้ามาเป็นผู้อำนวยความสะดวก มันก็มีการยกระดับปัญหาทันที …มีความพยายามจะผลักดันเอาองค์กรความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี.เข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางคณะผู้อำนวยความสะดวกของมาเลเซียพาผู้แทนกลุ่มมาราปัตตานีไป OIC เพื่อขอเข้าไปเป็นผู้สังเกตการณ์ในการประชุมใหญ่”
พล.อ.อกษิฐ ตบท้ายการให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ว่า “การพากลุ่มมาราปัตตานีไปยื่นขอเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์ หาก OIC ให้เข้าก็เท่ากับยกฐานะของขบวนการมาราปัตตานีให้เท่ากับรัฐบาลทันที”
…ก็เป็นอันชัดเจนนะครับว่า ใคร ? คือตัวการที่ต้องการแบ่งแยก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พี่น้องชาวไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ใครกันแน่ ?
(หมายเหตุ ชื่อ กลุ่มมาราปาตานี ในบทความที่ผมเขียนถึง กับ กลุ่มมาราปัตตานี ในบทสัมภาษณ์ น่าจะเป็นกลุ่มคนเดียวกัน เพียงแต่นักข่าวไทยโพสต์อาจไม่คุ้นกับชื่อ มาราปาตานี จึงเขียนเป็น มาราปัตตานี)

ล่า'มือพ่น'ข้อความต้อนรับ "อาร์เคเค"พื้นที่สุราษฎร์ฯ







      พวกมันกำลังคืบคลานหากเราไม่ร่วมพลังเราจะไม่มีแผ่นดินให้ลูกหลานเราอยู่ ต้องช่วยกันขับไล่โจรชั่วฟาตานี

ล่า'มือพ่น'ข้อความต้อนรับ "อาร์เคเค"พื้นที่สุราษฎร์ฯ

        เจ้าหน้าที่ข่าวกรองเร่งตรวจสอบข้อมูลเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้าย หลังมือมืดพ่นข้อความต้อนรับแนวร่วม "อาร์เคเค" บนพื้นถนน 5 จุดพื้นที่สุราษฎร์ธานี คาดฝีมือกลุ่มแรงงานต่างด้าวกดดันขบวนการยุติธรรมไทย

        เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ร.ต.ท.วิชญ์พล ทิพย์ชิต พนักงานสอบสวน สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีตัวอักษรลักษณะคล้ายภาษายาวี และภาษาพม่า ถูกพ่นด้วยสีแดง บนพื้นผิวถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 6 ต.เสวียดหลายจุด ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภรศักดิ์ นวลหนู รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่การข่าว ฆณฑลทหารบกที่ 45

          ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยาง ใช้เป็นเส้นทางสัญจร ระหว่างหมู่บ้านห่างจากแยกควนรา ถนนสาย 41 ต.เสวียด ประมาณ 1กิโลเมตร พบตัวอักษรถูกฉีดพ่นด้วยสีแดง เป็นอักษรลักษณะแปลกตา คล้ายภาษายาวี หรืออาหรับ โดยมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ " RKK"อยู่ด้วย

        ชาวบ้านที่พักอาศัยในละแวกใกล้เคียงต่าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพิ่งเห็นข้อความดังกล่าว เมื่อคืนที่ผ่านมา จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ต้องขับรถไปตามถนนหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนยางมีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงจุดที่ไม่มีบ้านคนพบอักษรสีแดง ซึ่งอักขระและไวยากรณ์ ไม่ค่อยถูกต้องแต่พอจะแปลได้ความว่า "ที่ขายยาบ้า" จุดที่ 3 ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร พบภาษาที่ฉีดพ่นด้วยสเปรย์สีแดง ลักษณะคล้ายจุดที่ 2 แปลได้ว่า"ทางตายระวังให้ดี"

        โดยทั้ง 2 จุดชาวบ้านยืนยันว่าพบเห็นมาเป็นสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านภาษายาวี ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบระบุว่า อักษรดังกล่าวเป็นภาษาอาหรับแปลว่า “ยินดีต้อนรับการมาเยือนของนักรบ RKK แต่เขียนผิดหลักไวยากรณ์เล็กน้อย คาดว่าผู้เขียนอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญพอ เบื้องต้น พล.ต.ต.อภิชาต บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบเก็บตัวอย่างสี และกำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมหาหลักฐาน

        และพยานเพิ่มเติมและรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ด้าน พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า ล่าสุด ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งประสานกับหน่วยงานข่าวความมั่นคงระบุว่า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่มีเพียงกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่เข้าไปรับจ้างกรีดยาง อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษาอาหรับ เนื่องจากในขณะนี้หน่วยงานการข่าวความมั่นคงได้รายงานสถานการณ์การสร้างกระแสต่อต้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ

         และกระบวนการยุติธรรมไทยเกี่ยวกับการจับกุมแรงงานชาวพม่า 4 คน ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.อรวี สำเภาทอง นักเรียนวัย 18 ปี ที่ จ.ระนอง ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล และชาวพม่าพยายาม ส่งต่อข้อความในโลกโซเซียลฯ ของชาวพม่าให้ร่วมกันสร้างความปั่นป่วนให้ทางการไทยหลังจากที่เคยพยายามสร้างสถานการณ์จับแพะในคดีฆ่านักท่องเที่ยวบนเกาะเต่าแต่ไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตามได้ประสานกับหน่วยข่าวความมั่นคง มณฑลทหารบกที่ 45 และหน่วยข่าวกรองในการประสานข้อมูล เพื่อตรวจสอบความแน่ชัดของข้อมูล และเร่งรัดชุดสืบสวนภ.จว.สุราษฎร์ธานี เร่งสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.“

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

เป็นมุสลิมมันดีอย่างนี้นี่เอง สามารถขืมขืนคนศาสนาอื่นได้



ISLAMIC PROFESSOR: MUSLIMS CAN RAPE NON-MUSLIM WOMEN TO HUMILIATE THEM

The degradation of non-Muslims is the essence of Islamic religious practice


Here's an important thing to understand; this woman is a moderate. And I'm not saying that sarcastically. In Islamic terms, her position is a moderate one. She's specifically staking out a position against concubinage and slavery within Muslim society. The exception is when Muslims attack non-Muslims and take female prisoners. The fact that this is a moderate position says all you need to know about Islam.
The video was translated by Memri. The professor is from Al-Azhar, which is as mainstream establishment as Islam gets in Egypt. She limits this to what she describes as "legitimate wars", suggests that Jewish women in Israel should be a target, but then appears to sarcastically backtrack, this may be a backhanded attack on Egypt's government.
But here's how she describes the practice of Islamic sanctioned rape itself. "The female prisoners of wars are 'those whom you own.' In order to humiliate them, they become the property of the army commander, or of a Muslim, and he can have sex with them just like he has sex with his wives."
If you still think Islam has anything in common with normative religion, think again. There's no religious gloss over this. After having moderately isolated contexts in which rape is acceptable, the reason for it is bluntly nasty. Better Islamic apologists will claim that it was some favor to the women. But she is honest about that at least. The purpose of this Koranic rape, like all rape, is degradation.

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

‪‎เนื่องในโอกาศวันครู โจรใต้เลยขู่ฆ่าครู



          ปัจจุบัน ร.ร.บ้านกูวา มีครูประจำการอยู่ทั้งหมด 20 คน เป็นครูชาวไทยมุสลิม 18 คน และไทยพุทธ 2 คน  ผอ.ร.ร.บ้านกูวา อ.กรงปินัง จ.ยะลา สั่งปิดเรียนโดยไม่มีกำหนด หลังกลุ่มก่อความไม่สงบขู่เอาชีวิตครู ในระหว่างวันที่ 12–17 ม.ค. ด้าน ทหาร ฉก.13 ยะลา เฝ้า รปภ. เข้ม สพป. ยะลาเขต 1 ให้ครูไทยพุทธออกจากพื้นที่ชั่วคราว...

        จากกรณีมีการแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า กลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ได้ขู่เอาชีวิตครู ในระหว่างวันที่ 12 – 17 ม.ค. นี้ นางอาภรณ์ สมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูวา หมู่ 1 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จึงได้รายงานให้ นายอาดุลย์ พรมแสง ผอ.สพป.ยะลา เขต 1 ขออนุมัติสั่งปิดโรงเรียนโดยไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยของครูและบุคลากร ทั้งนี้ นายอาดุลย์ พรมแสง ได้ให้ นางอาภรณ์ สมพงษ์ วิเคราะห์สถานการณ์ ตัดสินใจแล้วใช้อำนาจดำเนินการปิดการเรียน เบื้องต้น ทางโรงเรียนได้กำหนดหยุดเรียนไปก่อน 2 วัน และให้เฝ้าระวัง หากครูยังมีความหวาดผวาอยู่ จะนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณากันอีกครั้ง


        ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2559 นายอาดุลย์ พรมแสง ผอ.สพป.ยะลาเขต 1 กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 13 ซึ่งรับผิดชอบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.กรงปินัง ได้มาแจ้งกับ ผอ.โรงเรียนว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเตรียมที่จะก่อเหตุร้ายกับครู จึงขอให้หยุดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว ซึ่งตนเองได้สั่งการไปให้ นางอาภรณ์ สมพงษ์ ผู้บริหารสถานศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจในการหยุดการเรียน โดยใช้อำนาจของผู้บริหาร โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่ยะลาเขต 1 ได้สั่งให้ ครูบุตรธิกรณ์ จุลพล ครูของโรงเรียน ซึ่งเป็นครูไทยพุทธ เพียงคนเดียว มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ เป็นการชั่วคราวก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี
         ผอ.สพป.ยะลาเขต 1 กล่าวด้วยว่า ส่วน ผอ.โรงเรียนนั้น หากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ก็ให้มาทำงานที่สำนักงานเขตด้วยเช่นกัน ส่วนในบริเวณโรงเรียนนั้น ได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 และอำเภอกรงปินัง จัดกำลังทหารและฝ่ายปกครอง เข้าไปรักษาความปลอดภัยสถานที่อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ ร.ร.บ้านกูวา มีครูประจำการอยู่ทั้งหมด 20 คน ในจำนวนนี้เป็นไทยพุทธ 2 คน คือ ครูผู้สอน 1 คน และผอ.นอกนั้นเป็นครูไทยมุสลิม 18 คน ส่วนนางอาภรณ์ สมพงษ์ ผอ.เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่ง เมื่อไม่นานมานี้เอง ทำให้การประสานงานกับมวลชนในพื้นที่ ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการถูกข่มขู่ก็เป็นได้ ทางหน่วยเฉพาะกิจยะลา จะต้องสืบสวนและสอบสวนแหล่งข่าว ที่แจ้งข่าวนี้มา ว่า เป็นข่าวจริงหรือไม่อย่างไรกันต่อไป.
Cr : ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/562704
Cr : http://www.dailynews.co.th/regional/373072

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

ลามมาภูมิภาคเอเซียแล้ว ไอซิสประกาศจัดตั้งรัฐใหม่ในฟิลิปปินส์แล้ว

تشکیل ایالت داعش در فیلیپین

กลุ่มก่อการร้ายสี่กลุ่มในฟิลิปปินส์ ได้เปิดเผย การจัดตั้งรัฐใหม่ ที่ขึ้นกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ในเกาะ Mindanao ทางภาคใต้ของประเทศ

กลุ่มก่อการร้ายสี่กลุ่มในฟิลิปปินส์ ออกมาเผยกรณีที่ได้ประกาศสวามิภักดิ์กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และเผยถึง การจัดตั้งรัฐใหม่ของไอซิส ในเกาะแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศ

Rusiya Al-Yaum รายงานจาก หนังสือพิมพ์ Astralyan ว่า Asnlvn Hbylvn เป็นผู้ปกครองแคว้นดังกล่าวซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำของกลุ่มก่อการร้ายอบูซายาฟ

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ นั้น บ่งชี้ถึงสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของไอซิส เนื่องจากความขัดแย้งที่ยากลำบากและยืดเยื้อในซีเรียและอิรัก ทำให้กลุ่มไอซิสต้องหาดินแดนใหม่สำหรับตนแทนดินแดนอาหรับเป็นทางเลือกสำหรับการดำเนินการก่อการร้าย

การจัดตั้งรัฐใหม่ของไอซิสในฟิลิปปินส์ถือเป็นภัยอันตรายกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นไปได้สำหรับประเทศเหล่านี้ในอนาคตอันใกล้ อาจมีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่มาจาก “รัฐ” ใหม่แห่งนี้

ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ Astralyan ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อ 4 กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว

ทหารพรานปะทะกลุ่มติดอาวุธเทือกเขาตะเว ทลายเพิงพักพบอาวุธปืน อุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ



             นราธิวาส-เมื่อ 12 ม.ค.59 เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฏิบัติการ ร้อย.ทพ.4804 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้ทำการลาดตระเวนในพื้นที่ป่าเขา บนเทือกเขาตะเว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ขณะทำการลาดตระเวนได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายติดอาวุธประมาณ 6 คน หลังการปะทะกลุ่มคนร้ายได้ล่าถอย และอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้

              หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเหตุบนเทือกเขาตะเว พบเพิงที่พักปลูกสร้าง พร้อมอาวุธปืน และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนหลายรายการ ดังนี้




  • เพิงที่พัก 1 หลัง
  • ห้องน้ำ-ห้องส้วม
  • ร่องน้ำใช้อุปโภค/บริโภค
  • ปลย.m.16 a.1 ซึ่งปล้นมาจาก พัน.พัฒนา 4 ร้อย.3
  • อุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ
  • สิ่งอุปกรณ์อื่นอีกหลายรายการ เช่น รองเท้าแตะ 4 คู่ เครื่องครัว ข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้า

            จากการปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่ป่าเขาของเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการกดดัน จำกัดการเคลื่อนไหวในการก่อเหตุ ส่วนของกลางที่ได้จาการยึดในเพิงพัก จะทำการตรวจหา DNA และลายนิ้วมือแฝงของกลุ่มคนร้ายต่อไป
126048
Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม