แบมะ ฟาตอนี
โจรใต้คืออาชญากร ฆ่าคนโดยไตร่ตรอง ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กราดยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ระเบิดเผาทำลายสถานที่และทรัพย์สินทางราชการ ก่อวินาศกรรมในย่านเศรษฐกิจ ฆ่าผู้คนด้วยวิธีที่โหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ คนกลุ่มนี้คือผู้ก่อการร้ายแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน...
โดยเฉพาะแนวความคิดแบ่งแยกดินแดน ที่เปรียบเสมือนสิ่งเร้าให้เกิดความรุนแรงถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก และยังมีอยู่ให้เห็นตลอดตามโรงเรียนตาดีกา และปอเนาะ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง การฟอกตัวด้วยคำว่า "หลงผิด" ที่เคยฆ่าคนไปแล้วเป็นสิบๆ ดูเหมือนจะง่ายไปหน่อย...
อีกนัยคำว่า "หลงผิด" อาจบ่งบอกถึงความหย่อนยาน และความอ่อนแอของขบวนการทางกฎหมายไทย เพราะโทษของอาชญากร ที่ก่ออาชญากรรม และวินาศกรรม มุ่งเน้นการแบ่งแยกดินแดน คือ "การประหารชีวิต"...สถานเดียวเท่านั้น
และสุดท้ายควรมีมาตรการอันเด็ดขาดกับกลุ่มผู้สนับสนุนแนวความคิดแบ่งแยกดินแดนทั้งทางตรง และทางอ้อมเสียที ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา อาจารย์ นักสิทธิมนุษยชน และองค์กรที่ประเทศไทยไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ดั่งเช่นพวก NGOs ทั้งหลาย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก บางคนเป็น NGOs จนร่ำรวย ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศเพื่อให้เป็นปากเสียงแทนโจรใต้...
7 ข้อเสนอก่อเกิดกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน
ก่อเกิดกลุ่มขบวนการ 7 ข้อต่อรอง 4 จังหวัดภาคใต้ เหยียดชาติพันธุ์ กีดกันคนต่างศาสนา...เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2490 ผู้นำชาวมลายูมุสลิมร่วมประชุมกันเพื่อกำหนดคำขอเกี่ยวศาสนาและสิทธิต่างๆ ของชาวมลายูมุสลิม ณ สำนักงานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี โดยมีผู้ร่วมประชุมประมาณ 100 คน คำขอ 7 ข้อต่อรัฐบาลผ่านทางคณะกรรมการสอดส่องภาวการณ์ในสี่จังหวัดภาคใต้ ดังนี้
บิดเบือนได้แทบทุกเรื่อง บิดเบือนข้ามทวีปในยุคที่สังคมข้อมูลข่าวสาร ย่อโลกให้เล็กลง แม้กระทั่งภาพลักษณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส ตัดหัวนักข่าวอเมริกา...จากภาพกลุ่มรัฐอิสลาม ที่ตัดหัวผู้คนเป็นว่าเล่นออกสื่อ ออกข่าว ออกทีวีแทบจะทุกวัน ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามทำให้พวกกลุ่มรัฐอิสลามนี้กลายเป็น "เทพบุตรไอซิส"...(ที่พวกเธอใฝ่ฝัน)....
ย้อนกลับมาดูมาตรฐานการบิดเบือนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ขบวนการบิดเบือนบนโลกออนไลน์ ทำให้นึกถึงกรณีเหตุคนร้ายกราดยิงมัสยิดนูรุดดิน เมื่อช่วงใกล้รุ่งสางวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ซึ่งเป็นเดือนรอมฏอน ที่บ้านท่าม่วง หมู่ 2 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ส่งผลให้นายอุมา สแลแม พ่อของโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเสียชีวิต นาย รอนิง โต๊ะหัวเมือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้มีการปล่อยข่าวลือในร้านน้ำชา และในเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานเป็นผู้ก่อเหตุ ทุกครั้งที่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เจ้าหน้าที่เป็นผู้เสียเปรียบ
คงจะเป็นสูตรสำเร็จของขบวนการโจรใต้กลุ่มนี้เมื่อสร้างสถานการณ์ยิงประชาชนในมัสยิดแล้วโยนผิดให้กับเจ้าหน้าที่ ได้ทำกันมานานแล้ว ทำมาหลายครั้งหลายหน แต่สิ่งที่ประจักษ์ยืนยันได้ว่าคนในขบวนการเป็นคนสั่งยิงประชาชนในมัสยิดแล้วโยนผิดให้เจ้าหน้าที่เป็นความจริงนั้น เมื่อนายซุลกิฟลี คอซู ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมโดนจับกุมเมื่อ 31 กรกฎาคม 2557 และได้เปิดโปงขบวนการได้สั่งให้ตนเองยิงเป้าหมายหลังละหมาดเสร็จในมัสยิดบ้านค่าย ตำบลปุโล๊ะปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แล้วโยนผิดให้เจ้าหน้าที่ แต่แผนการไม่สำเร็จเนื่องจากตนเองไม่รู้จักเป้าหมายมาก่อน นี่คือสันดานชั่วของกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้....ทำไงได้ล่ะ ก็ในเมื่อโจรใต้และพวกเค้าเหล่านั้น คือ...เรือนร่างอันเดียวกัน....แล้วเราในฐานะประชาชนชาวปาตานียังคิดจะสนับสนุนกลุ่มโจรกลุ่มนี้ให้มาเข่นฆ่าพี่น้องของเราอยู่อีกหรือ?
โจรใต้คืออาชญากร ฆ่าคนโดยไตร่ตรอง ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กราดยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ระเบิดเผาทำลายสถานที่และทรัพย์สินทางราชการ ก่อวินาศกรรมในย่านเศรษฐกิจ ฆ่าผู้คนด้วยวิธีที่โหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ คนกลุ่มนี้คือผู้ก่อการร้ายแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน...
โดยเฉพาะแนวความคิดแบ่งแยกดินแดน ที่เปรียบเสมือนสิ่งเร้าให้เกิดความรุนแรงถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก และยังมีอยู่ให้เห็นตลอดตามโรงเรียนตาดีกา และปอเนาะ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง การฟอกตัวด้วยคำว่า "หลงผิด" ที่เคยฆ่าคนไปแล้วเป็นสิบๆ ดูเหมือนจะง่ายไปหน่อย...
อีกนัยคำว่า "หลงผิด" อาจบ่งบอกถึงความหย่อนยาน และความอ่อนแอของขบวนการทางกฎหมายไทย เพราะโทษของอาชญากร ที่ก่ออาชญากรรม และวินาศกรรม มุ่งเน้นการแบ่งแยกดินแดน คือ "การประหารชีวิต"...สถานเดียวเท่านั้น
และสุดท้ายควรมีมาตรการอันเด็ดขาดกับกลุ่มผู้สนับสนุนแนวความคิดแบ่งแยกดินแดนทั้งทางตรง และทางอ้อมเสียที ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา อาจารย์ นักสิทธิมนุษยชน และองค์กรที่ประเทศไทยไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ดั่งเช่นพวก NGOs ทั้งหลาย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก บางคนเป็น NGOs จนร่ำรวย ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศเพื่อให้เป็นปากเสียงแทนโจรใต้...
7 ข้อเสนอก่อเกิดกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน
ก่อเกิดกลุ่มขบวนการ 7 ข้อต่อรอง 4 จังหวัดภาคใต้ เหยียดชาติพันธุ์ กีดกันคนต่างศาสนา...เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2490 ผู้นำชาวมลายูมุสลิมร่วมประชุมกันเพื่อกำหนดคำขอเกี่ยวศาสนาและสิทธิต่างๆ ของชาวมลายูมุสลิม ณ สำนักงานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี โดยมีผู้ร่วมประชุมประมาณ 100 คน คำขอ 7 ข้อต่อรัฐบาลผ่านทางคณะกรรมการสอดส่องภาวการณ์ในสี่จังหวัดภาคใต้ ดังนี้
- 1. ขอให้ปกครอง 4 จังหวัดนี้เป็นแคว้นหนึ่ง โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งอย่างสูงให้มีอำนาจในการศาสนาอิสลาม มีอำนาจ แต่งตั้งและปลดข้าราชการออกได้ ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ต้องเป็นมุสลิมใน 4 จังหวัด
- 2. การศึกษาในชั้นประถมต้นจนถึงชั้นประถม 7 ให้มีการศึกษาภาษามลายูตลอด
- 3. ภาษีที่เก็บได้ให้ใช้ภายใน 4 จังหวัดนี้เท่านั้น
- 4. ในจำนวนข้าราชการทั้งหมดขอให้มีข้าราชการชาวมลายูร้อยละ 80
- 5. ขอให้ใช้ภาษามลายูควบกับภาษาไทยเป็นภาษาราชการ
- 6. ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีเอกสิทธิ์ออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติการศาสนาอิสลามโดยความเห็นชอบของผู้มีอำนาจสูงสุด
- 7. ให้ศาลรับพิจารณากฎหมายอิสลามแยกจากศาลจังหวัด มีโต๊ะกาลี (กอฎีหรือดะโต๊ะยุติธรรม) ตามสมควร และมีเสถียรภาพในการพิจารณาชี้ขาด
บิดเบือนได้แทบทุกเรื่อง บิดเบือนข้ามทวีปในยุคที่สังคมข้อมูลข่าวสาร ย่อโลกให้เล็กลง แม้กระทั่งภาพลักษณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส ตัดหัวนักข่าวอเมริกา...จากภาพกลุ่มรัฐอิสลาม ที่ตัดหัวผู้คนเป็นว่าเล่นออกสื่อ ออกข่าว ออกทีวีแทบจะทุกวัน ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามทำให้พวกกลุ่มรัฐอิสลามนี้กลายเป็น "เทพบุตรไอซิส"...(ที่พวกเธอใฝ่ฝัน)....
ย้อนกลับมาดูมาตรฐานการบิดเบือนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ขบวนการบิดเบือนบนโลกออนไลน์ ทำให้นึกถึงกรณีเหตุคนร้ายกราดยิงมัสยิดนูรุดดิน เมื่อช่วงใกล้รุ่งสางวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ซึ่งเป็นเดือนรอมฏอน ที่บ้านท่าม่วง หมู่ 2 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ส่งผลให้นายอุมา สแลแม พ่อของโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเสียชีวิต นาย รอนิง โต๊ะหัวเมือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้มีการปล่อยข่าวลือในร้านน้ำชา และในเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานเป็นผู้ก่อเหตุ ทุกครั้งที่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เจ้าหน้าที่เป็นผู้เสียเปรียบ
คงจะเป็นสูตรสำเร็จของขบวนการโจรใต้กลุ่มนี้เมื่อสร้างสถานการณ์ยิงประชาชนในมัสยิดแล้วโยนผิดให้กับเจ้าหน้าที่ ได้ทำกันมานานแล้ว ทำมาหลายครั้งหลายหน แต่สิ่งที่ประจักษ์ยืนยันได้ว่าคนในขบวนการเป็นคนสั่งยิงประชาชนในมัสยิดแล้วโยนผิดให้เจ้าหน้าที่เป็นความจริงนั้น เมื่อนายซุลกิฟลี คอซู ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมโดนจับกุมเมื่อ 31 กรกฎาคม 2557 และได้เปิดโปงขบวนการได้สั่งให้ตนเองยิงเป้าหมายหลังละหมาดเสร็จในมัสยิดบ้านค่าย ตำบลปุโล๊ะปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แล้วโยนผิดให้เจ้าหน้าที่ แต่แผนการไม่สำเร็จเนื่องจากตนเองไม่รู้จักเป้าหมายมาก่อน นี่คือสันดานชั่วของกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้....ทำไงได้ล่ะ ก็ในเมื่อโจรใต้และพวกเค้าเหล่านั้น คือ...เรือนร่างอันเดียวกัน....แล้วเราในฐานะประชาชนชาวปาตานียังคิดจะสนับสนุนกลุ่มโจรกลุ่มนี้ให้มาเข่นฆ่าพี่น้องของเราอยู่อีกหรือ?
*****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น