วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ปอเนาะ สีเทา สีดำ สีแดง หรือสีใด เป็นเพราะใครทำ


        กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีการเข้าตรวจค้นในสถานศึกษาปอเนาะ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี 

       เมื่อ 23 มีนาคม 2558 พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์/โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าตามที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุม นายอับดุลเลาะ สาแม บุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ที่ใช้สถาบันศึกษาปอเนาะนัฮฏอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ เป็นแหล่งหลบซ่อนตัว สามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม เครื่องกระสุน อุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดและอื่นๆ รวม 95 รายการ เหตุเกิดเมื่อ 18 - 19 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งต่อมาภายหลัง นายมะรอนี นิเซ็ง โต๊ะครู/เจ้าของสถานศึกษาปอเนาะดังกล่าวออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา 

        โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำลายชื่อเสียงและเกียรติภูมิในขณะที่เข้าทำการ ตรวจค้น ดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจดังนี้.- 
  • การจัดกำลังเข้าติดตามจับกุมและตรวจค้นในครั้งนั้น หน่วยได้ปฏิบัติตามนโยบายของแม่ทัพภาค ที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังมิให้ส่งผลกระทบและเกิดเป็นเงื่อนไขขึ้นในพื้นที่ สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการเข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่ง หลบซ่อนอยู่ในสถานศึกษาปอเนาะ 
             ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบหลักฐานทั้งภายในและภายนอกปอเนาะ หลายรายการ อาทิหมวกแก๊ปสีดำซึ่ง ยึดได้จากห้องพักภายในปอเนาะ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สูญหายจากเหตุยิงและเผา แล้วชิงรถยนต์นางเบญจพร (ภรรยา) เสียชีวิตเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2557 และอาวุธปืนสงคราม 3 กระบอก ซุกซ่อนห่างจากปอเนาะประมาณ 20 - 100 เมตร และอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน โดยจากการตรวจสอบพบว่าได้ปล้นแย่งชิงมาจากเจ้าหน้าที่และนำไปก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
  • ในขณะที่ทำการตรวจค้น ได้ให้ นายมะรอนี นิเซ็ง ในฐานะเจ้าของสถานที่เป็นผู้นำตรวจ มิใช่ผู้ครอบครองอาวุธ และไม่เคยกล่าวหาว่าพบอาวุธภายในปอเนาะ 
         ทั้งนี้หน่วยได้มีการชี้แจงสร้างความเข้าใจและ ไม่มีการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพเพื่อทำลายเกียรติเนื่องจากทุกคนต่างเข้าใจและตระหนักถึงเงื่อนไขที่อาจเกิดขึ้น 


         จึงเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งเน้น การบังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงที่ต้องการทำลายเกียรติของความเป็นโต๊ะครู และทำลายชื่อเสียงสถาบันปอเนาะแต่อย่างใด 

      แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่าในห้วงที่ผ่าน ๆ มา กลุ่มขบวนการ  ที่แอบแฝง ใช้สถาบันปอเนาะบางแห่งหลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธ ดังเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สถานศึกษาปอเนาะ ซึ่งมีคุณูปการต่อพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ต้องมีมลทิน จึงถือได้ว่า เป็นผู้ที่ทำลายเกียรติยศและชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาปอเนาะอย่างแท้จริง 
  • ผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ (DNA) จากวัตถุพยานที่ยึดได้ สามารถยืนยันได้ว่า มีบุคคลตามหมายจับ 3 คน พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก เข้ามาพักหลบซ่อนในสถานศึกษาปอเนาะดังกล่าวจริง ซึ่งโต๊ะครู/เจ้าของปอเนาะ ในฐานะเจ้าของสถานที่คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ 

          สำหรับจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นจะต้องสืบสวน สอบสวนต่อไป ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะดำเนินการตามพยานหลักฐานและผลการสอบสวน เพื่อนำ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

         พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนบางสำนัก ใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในสถานการณ์ที่ล่อแหลมและเปราะบางที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐและสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคมดังเช่นครั้งนี้และหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม