ข่าวเว็ปไซต์ thelocal.de - รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในเยอรมันออกแถลงการณ์ชี้แจงการสั่งระดมตำรวจกว่า 1,000 นาย บุกเข้าตรวจค้นในที่พักอาศัยของกลุ่มซาลาฟีย์ประมาณ 70 แห่งทั่วประเทศ
โดยก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ Berliner Zeitung รายงานว่า เจ้าหน้าที่พบเสื้อกั๋กแบบที่ผู้ก่อเหตุระเบิดตัวเองนิยมใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ ที่แฟลตของ Denis Cuspert (หรือในชื่อปัจจุบัน อะบู ตัลฮา อัล-อัลมานี) อดีตนักแรพนิยมซาลาฟีย์ที่เปลี่ยนมานับถืออิสลาม ทางการระบุว่าอะบูตัลฮา เป็นนักบรรยายที่มีผู้เลื่อมใสจำนวนมาก รวมทั้งเคยโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการญิฮาดในเยอรมัน นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังค้นพบเทปวิดีโอ ที่แสดงการต่อต้านประชาธิปไตย และคุกคามผู้ไม่ศรัทธาในอิสลาม ของ Millatu Ibrahim ซึ่งทางการห้ามเผยแพร่แล้ว
กลุ่มที่ทางการเพ่งเล็งเป็นพิเศษคือ Dawaffm, Millatu Ibrahim และกลุ่ม Die Wahre Religion (ศาสนาที่จริงแท้) ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ใน ฮัมบวร์ก, ชเลสวิค-โฮลสไตน์, Lower Saxony, เบอร์ลิน, บาวาเรีย, ไรน์-เวสต์ฟาเลียตอนเหนือ และ Hesse
นอกจากนั้นยังสั่งปิดมัสยิดของกลุ่มซาลาฟีย์ใน Solingen ซึ่งเป็นเครือข่ายของ Milatu Ibrahim อีกด้วย
ซาลาฟีย์นับเป็นกลุ่มที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเยอรมัน และถูกมองว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรงและอันตราย อันเนื่องมาจากกการยึดหลักการอย่างเคร่งครัด โดยมีการเรียกร้องต้องการให้นำหลักการชาริอะฮฺมาใช้ในการบริหารจัดการในกลุ่ม
สมาชิกซาลาฟีย์ที่เคร่งครัดมักจะปฏิเสธการอยู่ร่วมในสังคมหลัก โดยพยายามตีกรอบและใช้ชีวิตที่หลีกเลี่ยงสิ่งฮะรอมที่อาจจะเข้ามาแปดเปื้อน
คาดว่ามีสมาชิกของกลุ่มนี้ประมาณ 4,000 คนในเยอรมัน
กลุ่มซาลาฟีย์ในเยอรมันถูกเพ่งเล็งหลังจาก Arid Uka ชาวเยอรมันเชื้อสายโคโซโวที่นิยมซาลาฟีย์ ถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต ในเหตุสังหารทหารอเมริกัน 2 นาย ที่สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต เหตุเกิดเมื่อมีนาคม 2554
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการประจันหน้ากันระหว่างกลุ่มฝ่ายขวา Pro-NRW กับกลุ่มซาลาฟีย์ ในเมืองโคโลญจ์ ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐ North Rhine-Westphalia โดยกลุ่มขวาจัดชูป้ายภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮัมมัดอยู่หน้ามัสยิด ซึ่งตำรวจที่มากั้นกลางระหว่าง 2 กลุ่มถูกกลุ่มซาลาฟีย์แทงบาดเจ็บ 2 นาย ในเหตุชุลมุน
มีกรณีที่กลุ่มอิสลามห้วรุนแรงจัดทำวิดีโอเผยแพร่เรียกร้องให้สังหารผู้สนับสนุน่กลุ่ม Pro-NRW และนักหนังสือพิมพ์ที่เขียนภาพล้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น