วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

แถลงข่าวจับกุมคนร้ายแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิมใช้ปืนกลเบาอูซี่ยิงชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ





กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวจับกุมคนร้ายแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิมใช้ปืนกลเบาอูซี่ยิงชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ
Posted on เมษายน 1, 2016 by admin


เมื่อ 1 เมษายน 2559 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์เมื่อ 13 มีนาคม 2559 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้บุกเข้าไปใช้โรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นฐานยิงโจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4816 และยังมีการลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่บริเวณสะพานบ้านยานิง เพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือ และมีการโจมตี ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 ซึ่งตั้งอยู่ที่ สถานีรถไฟเจาะไอร้อง

จากเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำนโยบายของ พลเอกธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน พลโทวิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จึงได้สั่งการให้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเฉพาะกิจติดตามเป้าหมายกลุ่มบุคคล (สมาชิก ผกร.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

สำหรับความคืบหน้าในการติดตามจับกุม ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ร่วมก่อเหตุเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 ทั้งในเรื่องกลุ่มผู้ก่อเหตุ และพยานหลักฐานนั้น ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าว ให้ทราบแล้วนั้น สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุ เฉพาะที่ก่อเหตุโจมตี ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 จากเหตุการณ์นี้ มีคนร้ายที่ก่อเหตุ จำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เป็นยานพาหนะ และใช้ปืนกลเบาอูซี่ ในการก่อเหตุ อีกทั้งยังได้มีการแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิม เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นขั้นตอน ดังนี้

จัดกำลังร่วม 3 ฝ่าย ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งจากที่เกิดเหตุ และจากการแจ้งข่าวสารจากพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วย กับการก่อเหตุดังกล่าวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงทำให้สามารถติดจับกุม และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก จากผลการดำเนินการตามกรรมวิธีซักถามมีผู้ที่ถูกควบคุมตัว
ยอมรับว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุ ทั้งสิ้น จำนวน 6 คน โดยแบ่งตามหน้าที่และการปฏิบัติ ดังนี้


จากคำรับสารภาพของผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 6 คน เพิ่มเติม ได้ให้ข้อมูลซัดทอดถึงผู้ที่นำรถจักรยานยนต์คันที่ 2 ไปพยายามดัดแปลงและทำลายหลักฐาน จำนวน 2 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามจนสามารถเชิญตัว ผู้ที่ถูกซัดทอดดังกล่าวมาเข้าสู่กระบวนการซักถาม และผู้ที่ถูกซัดทอดได้ยอมรับว่า เป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวจริงและยังสามารถยึดรถจักรยานยนต์
ที่ใช้ก่อเหตุได้ที่บ้านของผู้ถูกซัดทอดซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ซึ่งได้แจ้งหายไว้แล้วที่ สภ.ระแงะ เมื่อ 10 มิ.ย.2558 ตามคดีอาญาที่ 183/2558 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ใช้เป็นหลักฐาน
ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สรุป สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุโจมตี ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 ได้จำนวน 8 คน


นอกจากนี้ผู้ที่ถูกควบคุมตัว ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายชื่อผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนรถจักรยานยนต์คันที่ 2 ทั้งรวมถึงข้อมูล ผู้ที่นำรถจักรยานยนต์คันที่ 1 ไปซุกซ่อน ในปัจจุบันทั้ง 3 คน ยังคงหลบหนีการติดตามจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาดำเนินทางกฎหมาย ต่อไป


จากผลสำเร็จในการดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าว เป็นผลจากการให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสของพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง และมีความต้องการให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการชี้ให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุต้องอยู่อย่างยากลำบากไม่สามารถ
ใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข ต้องหลบซ่อนหนีการจับกุมไปตลอดชีวิตส่งผลกระทบกับตนเองและสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในครอบครัว แต่ทั้งนี้รัฐยังได้เปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่าง หรือผู้หลงผิดเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่า และขอให้องค์กรทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาสังคม และองค์กรสิทธิมนุษยชน ทั้งภายในและภายนอกประเทศรวมถึงประชาชนทั่วไปให้ร่วมรณรงค์ต่อต้านการกระทำที่รุนแรงและช่วยกันสอดส่องดูแลหมู่บ้านและชุมชนของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก่อเหตุสร้างสถานการณ์ อีกทั้งร่วมมือกันแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม