กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) จุดไฟเผาบ้านของคนคริสต์ในนครโมซูลจนเป็นที่ทำให้เด็กหญิงวัย 12 ปีรายหนึ่งโดนเผาทั้งเป็น โดยมีต้นเหตุเพียงแค่ผู้เป็นแม่จ่ายค่าครองชีพให้ไอเอสไม่ทันเวลา
เงินที่จำเป็นต้องจ่ายนั้นเป็น "ภาษีศาสนา" (Jizya) จะเรียกเก็บต่อบุคคลที่มีศาสนาอื่นซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐมุสลิมเพื่อให้ได้รับการคุ้มครอง
ผู้เป็นแม่ของเหยื่อเล่าให้ฟังว่า กลุ่มไอเอสสัญชาติต่างประเทศได้มาเคาะประตูเพราะยื่นข้อเสนอว่า "จะจ่ายภาษีดีๆ หรือ จะให้ไล่ออกไป?" ซึ่งผู้แม่ก็บอกขอเวลาสักครู่หนึ่งจะจ่ายให้เพราะลูกสาวกำลังอาบน้ำอยู่ในบ้าน แต่ไอเอสกลับปฏิเสธที่จะรอและจุดไฟเผาบ้านของเธอทันที
แม่และลูกสาววัย 12 ปีได้หาทางหนีออกมาจากบ้านได้แต่ลูกสาวกลับได้บาดเจ็บเป็นแผลไหม้ระดับสูงสุดจนร่างไหม้เกรียม แต่ยังคงหายใจอยู่
แม่ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัวเธอไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายลูกสาวซึ่งเป็นดั่งแก้วตาดวงใจก็สิ้นใจในอ้อมกอดของเธอ และคำสุดที่ลูกสาวสั่งเสียคือ "อภัยให้พวกเขาด้วย"
ด้าน 'มาร์ติน เฮอร์มิส ดาวูด'บาทหลวงในกรุงแบกให้สัมภาษณ์ว่า คริสต์ศาสนิกชนในประเทศอิรักอาจค่อย ๆ หายไปจนหมดสิ้นภายใน 5 ปีเนื่องจากการคุกคามของกลุ่มไอเอส โดยจากเดิมเมื่อ 20 ปีก่อนมีคริสต์ศาสนิกชนในอิรักกว่า 1.3 ล้านคน แต่ปัจจุบันนี้เหลือเพียง 4 แสนคนเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น