วันนี้ (๓๑ พ.ค.) ผศ.เสถียร วิพรหมา ประธานเครือข่ายชาวพุทธผู้รักสงบ พร้อมคณะได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือสอบถามในกรณีการบรรยายสด หัวข้อการยอมจำนนต่อพระองค์อัลลอฮฺ โดย อ.ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม และ อ.อับดุลลอฮฺ ภักดีบุตร (อดีต ป.ธ.๙) มัสยิด คอยริสซุนนะฮฺ ซอยมิสทีน ถ. สุขาภิบาล ๓ เวลา สองทุ่ม (๒๐.๐๐ น.) ในวันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔
โดยมีเนื้อหาบางส่วน เช่น ประวัติ อดีตพระชลิต ภักดีบุตร (อ. อับดุลลอฮฺ) จบเปรียญธรรม ๙ ขั้นสูงสุด จบปริญญาตรีด้าน ภาษาบาลี และปริญญาโทด้านบาลีโดยตรง พร้อมด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง มหาวิทยาลัยจุฬา ได้รับทุนให้ไปศึกษาที่ประเทศอินเดีย ๒ ปี ที่มหาวิทยาลัยนาลันทะ สุดท้ายพระท่านนี้ประกาศตัวรับอิสลาม อันเนื่องมาจากที่ท่านได้ไปอ่านพระไตรปิฎกฉบับเก่าแก่ที่ถูกเก็บเอาไว้ในห้องสมุดที่อินเดีย บันทึกอยู่ใบลานด้วยภาษาบาลี ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายถูกส่งมาที่อารเบีย จะมีอูฐเป็นพาหนะ โดยท่านจะกำพร้าพ่อ แม่ ตั้งแต่ยังเล็ก
ซึ่งได้ตรวจสอบกับรายชื่อจากสำนักเรียนที่อ้างถึง คือ วัดพิชยญาติการาม และวัดอนงคาราม ก็
มิได้ปรากฏชื่อของนายชลิตแต่อย่างใด และที่
อ้างว่าสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคภายใน ๕ ปี นั้นไม่สามารถกระทำได้เลยเพราะการศึกษาภาษาบาลีในสมัยปัจจุบันนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๘ ปี จึงจะสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค เพราะบาลีสนามหลวงเปิดให้เข้าสอบได้ปีละ ๑ ชั้น เท่านั้น
ดังนั้น ในสมัยปัจจุบันนับจาก พ.ศ.๒๔๖๙ สมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นต้นมาการศึกษาวิชาภาษาบาลีตั้งแต่เปรียญธรรม ๑-๒ ถึง เปรียญธรรม ๙ ประโยค ต้องใช้เวลามากกว่า ๕ ปี อย่างแน่นอน และยัง
มีการบิดเบือนพระพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าในการบรรยายอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น