วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เห็นหรือยังท่านนายก


ลากไส้มุสิลม 
มันอยากจะเป็น รมต. ละครับ ท่านนายกหญิงคลุมฮิญาบ
ไม่งั้นปักใต้ไม่สงบนะ จะบอกให้







ไม่ทันเท่าไรเลยครับ แค่มีข่าวการฟอร์มทีมบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย  มุสลิมก็ออกมาคร่ำครวญเรียกร้องตำแหน่ง รมต. ซะแล้ว แถมยังอ้างบุญคุณ กรณีนายก  
    ทักษิณไปลี้ภัยในประเทศมุสลิมซะอีก  


ผมเคยพูดไว้แล้วว่า แค่คุณยิ่งลักษณ์ ไปแสดงอาการเอ๋อ คลุมฮิญาบ ซึ่งเป็น
สัญลักษณ์ของสตรีมุสลิมในการลงหาเสียงที่ภาคใต้ ก็บอกว่าว่า เข้าทางโจร
ตกหลุมมุสลิมซะแล้ว  


คุณยิ่งลักษณ์ จะคิดอะไรหรือไม่ ต่อกรณีนี้ ผมว่า อันตรายในระดับต่อมสำนึก
ของคนที่ประกาศตนว่าเป็นพุทธมากะ คนที่สวดมนต์ว่า "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ"
จะได้สำเนียกไว้ว่า ทีหลังอย่าทำ


จริงหรือไม่อย่างไร ท่านโปรดพิจารณาดูครับ กับการเรียกร้องตำแหน่ง รมต.
ที่ผมไม่ได้กล่าวหา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเวปไซท์ ของมุสลิมเอง เรียกร้อง
ตำแหน่ง รมต.    นี่คือโทษของการคลุมฮีญาบ ของคนที่ไม่ใช่มุสลิม  อิือิ


ก่อนอภิสิทธิ์ ยุบสภา ก็มีข่าวแพลมออกมาแล้วว่า เขายึกยักเสนอกฏหมายมุสลิมเข้าสภาไปรอท่าไว้แล้ว การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ของเวปไซท์มุสลิมดอทคอมผมก็ได้แต่ขำ แล้วก็รำพึงรำพันอยู่ในลำคอตัวเองว่า    ฮื่ม หางโผล่แล้วมึง  ม้วนหางหน่อย........
  

พาดหัวข่าวจากเวปไซท์ มุสลิมไทยดอทคอม

สุดรันทดใจ หรือเป็นความไร้ปัญญาของมุสลิมไทย
คะแนนเสียงมุสลิมนับล้าน รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 1 ไร้เงามุสลิม
มุสลิมไทยดอทคอม : 6 กค. 54 6:03:58



สำนักข่าวมุสลิมไทย สุดรันทดใจ หรือเป็นความไร้ปัญญาของมุสลิมไทย คะแนนเสียงมุสลิมนับล้าน รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 1 ไร้เงามุสลิม

              สำนักข่าวอะลามี่ : ภาพในชุดเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวของพรรคเพื่อไทย สวมผ้าคลุมผมสีแดง เป็นการแต่งกายเหมือนสตรีชาวไทยมุสลิม ในโอกาสเดินทางไปลงช่วยลูกพรรคหาเสียงที่จังหวัดชายแดนใต้ ยังสร้างความปราบปลื้มให้กับสตรีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่เป็นอย่างมาก

              เนื่องจากถือว่าเป็นการให้เกียรติของชาวมุสลิม ซึ่งสตรีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ต่างเรียกนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า “ยามีล่ะห์” ซึ่งเป็นภาษาอาหรับ แปลว่า หญิงงาม

              ภาพวันนั้น เป็นสิ่งที่ชาวมุสลิมใน 3จังหวัดชายแดนใต้ ยังจำไม่เลือน เป็นการย้ำให้ชาวบ้านที่มาต้อนรับเห็นว่า นี่คือ....การให้เกียรติมุสลิม ในฐานะที่ผู้จะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี และผู้นำหมายเลขหนึ่งของประเทศ

               วันนี้ “ยามีล่ะห์”กำลังเป็นนายกรัฐมนตรี และกำลังจัดตั้งรัฐบาล
               แต่ดูเหมือนว่า โผรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วย ในรัฐบาล”ยิ่งลักษณ์ 1”  ไม่มีมุสลิมอยู่ในโผแม้แต่คนเดียว

               “ ส่วนหนึ่งเราต้องเชื่อก่อนว่าพี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย จะต้องพยายามลดการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง เปลี่ยนจากการใช้ความรุนแรง มาเป็นการส่งเสริมทางด้านการศึกษา ส่งเสริมเศรษฐกิจ วัฒนธรรมต่างๆ รวมทั้งจะต้องมีผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ ความต้องการของพี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาหารือกัน “ คือคำว่า ญามิล่ะห์ กล่าวย้ำในโอกาสพบกับชาวมุสลิมในชายแดนใต้ก่อนวันเลือกตั้ง
              แม้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย จะไม่ได้ ส.ส.จากภาคใต้เลยแม้แต่คนเดียว
              แต่อย่าลืมว่า .....คนใต้จำนวนไม่น้อยที่ยังรัก และวางใจกับพรรคเพื่อไทย ในการเลือก ส.ส.ของพรรค แม้ว่าจะไม่สามารถฝ่าด่านพรรคประชาธิปัตย์ มาได้ก็ตาม

               ในอดีตรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ได้สร้างความไม่พอใจกับชาวมุสลิมมาแล้ว หลังจากที่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่มีมุสลิม นั่งเป็น รัฐมนตรี แม้แต่คนเดียว .....

               ไม่เพียงเท่านั้น การสรรหา สว. 70 กว่าคน ที่ผ่านมาก็ไม่มี สว.มุสลิม แม้แต่คนเดียวเช่นกัน

              เหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้สร้างแรงกระเพื่อมในกลุ่มนักกิจกรรมและนักวิชาการ ซึ่งได้สร้างความเจ็บปวดกับมุสลิมไม่น้อย และ เป็นการยอกย้ำว่ารัฐบาลไม่สนใจมุสลิม ว่า เป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้

              ขณะเดียวกันรัฐบาล ยิ่งลักษณ์1 ก็บอกว่า จะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาชายแดนใต้  แต่กลับปรากฎว่า ในโผแต่งตั้งรัฐมนตรี ครั้งนี้ กลับไม่มีมุสลิมเข้าไปมีส่วนร่วมกับรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำรัฐบาล เลยแม้แต่คนเดียว อีกเช่นเคย

             หากรัฐบาล ภายใต้การนำของ ”ยิ่งลักษณ์” ยังมีใจต่อมุสลิม

             หาก”ทักษิณ ชินวัตร” ยังมองว่า มุสลิมเป็นส่วนหนึ่งที่ให้โอกาสพรรคเพื่อไทย
            วันนี้ ยังไม่สายเกินไปที่ รัฐบาลจะเปิดที่นั่ง ให้กับตัวแทนมุสลิม เข้าไปมีส่วนร่วมทในการเข้าไปบริหารประเทศ และเป็นสะพานเชิ่อม ระหว่างรัฐบาลกับคนมุสลิม ทั้งในประเทศและโลกมุสลิม

            หากจะให้รื้อฟื้น หรือทวงบุญคุณ .......!!!!!

           ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐดูไบ ที่ "ทักษิณ" ใช้เป็นที่ซุกหัวนอน  ก็เป็นประเทศมุสลิม

            และ”ทักษิณ”ก็อ้างเสมอว่า มีเพื่อน และมิตรสหายจากประเทศมุสลิมให้การต้อนรับ ในขณะที่เป็นนักโทษหนีคดีอาญา ท่ามกลางประเทศพันธมิตรอื่นไม่ต้อนรับ

           หากจะบอกตรงๆกับคุณยิ่งลักษณ์

           ต้องย้ำว่า.... อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมี ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ที่คอยประสานงานระหว่างรัฐ และหน่วยงานของรัฐกับองค์กรและสังคมมุสลิม หรือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

            คงไม่ยากเกินไปที่ "คุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์" จะมองเห็น

            เพราะคนมุสลิมที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็หลายคน ที่พอมีศักยภาพ และผ่านงานนั่งเจ้ากระทรวงถือว่ามีประสบการณ์มากพอ

           เพียงแต่ท่านเปิดใจหรือไม่.....เท่านั้นเอง

           แหละนี้ ก็เป็นอีกโอกาสอีกครั้งหนึ่งของ เพื่อไทย ที่จะกู้หน้า-เจาะยาง ภาคใต้ครั้งสำคัญหรือจะปล่อยเลยไป
-----------------

============================================


มุสลิม ต้องเป็น รมต. มหาไท  นะเว้ยเฮ้ย


เมื่อไหร่ พวกกูเข้าไปนั่ง ในมหาดไท 
กูก็จะเอาพระพุทธรูปออกจากกระทรวง 
เหมือนทีี่นายวัน มูฮำหมัด นอมะทา 
เคยเนรเทศพระพุทธรูปออกจากกระทรวงมหาดไท มาแล้ว 


ดีไม่ดี ก็จะจัดการกับโรงเรียนวัดหนองจอกซะ
ในฐานะที่ ไม่ยอมปัญญาอ่อน ให้นักเรียนมุสลิม คุลมฮิญาบ เข้าไปใน
โรงเรียนวัดหนองจอก ที่เป็นที่ของสงฆ์ และเป็นเขตของวัดพุทธ   


แล้วนี่ ถ้ามุสลิมไม่ได้กระทรวงมหาดไท หรือไม่ได้เป็น รมต. จะบอกว่า
ปักใต้จะไม่สงบใช้มั้ย  ถ้าไม่ได้ กูจะฟันกระบาลพระ กูจะเผาวัด
กูจะวางระเบิด ใช่มั้ย   ทำไมสอดประสานกันเป็นปี่เป็นครกแล้วละนี่




ฮิญาบ ผืนเดียวที่ยิ่งลักษณ์ ไปคลุมเข้า 
มีอานุภาพทำลายล้างใหญ่หลวงถึงเพีึยงนั้น   อิอิ  


ไทยพุทธเอ๋ย มาดูกัน ว่ายิ่งลักษณ์ จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
http://narater2009.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม