ซุ่มยิงทหาร ฉก.ปัตตานี 23 เสียชีวิต 1 เจ็บ 5
| |
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 5 ม.ค.เกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหาร มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดบนสะพานตะลุโบะ สายปัตตานี - นราธิวาส ม.1 ต.ตะลุโบะ ที่เกิดเหตุพบเพียงปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่บนสะพาน จำนวน 3 ปลอก และตกบนถนนด้านล้างกว่า 10 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานีแล้ว ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อคือ พลทหารศราวุฒิ ศรีนคร อายุ 23 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าลำตัวหลายนัด ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 5 นาย ทราบชื่อคือ
ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ทหารทั้งหมดสังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 ขณะที่ ส.ท.ประเวศ ทองจันทร์ ซึ่งเป็นพลขับรถบรรทุกหกล้อทหาร ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ข้างประตูระบุสังกัด ร.15 พัน 4 ส่วนป้ายทะเบียนตรากงจักร 94023 โดยมีทหารนั่งมาด้วย จำนวน 6 นาย เดินทางมาจากฐานปฏิบัติการซึ่งตั้งอยู่บริเวณการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อมาปรับเปลี่ยนเวรที่จุดตรวจประตูทางเข้าเมืองปัตตานี อยู่ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 300 เมตร ขณะที่รถกำลังจะลอดใต้สะพาน ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คนพร้อมอาวุธสงครามยืนรออยู่บนสะพานซึ่งอยู่ในความมืดเนื่องจากไฟฟ้าดับ จากนั้นจึงกราดยิงถล่มลงมาหลายสิบนัดจนเสียดังสนั่น กระสุนทะลุกระจกหน้ารถ และหลังคาผ้าใบถูกทหารที่นั่งอยู่ภายในรถจนได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะ ส.ท.ประเวศพลขับซึ่งถูกยิงด้วยยังแข็งใจขับมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมกับวิทยุแจ้งขอกำลังเสริมเข้ามาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินทันที ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะที่คนร้ายอีกกลุ่มได้โปรยตะปูเรือใบบนถนนเพื่อปิดกั้นเส้นทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามได้ | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556
ซุ่มยิงทหาร ฉก.ปัตตานี 23 เสียชีวิต 1 เจ็บ 5
วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556
สตรีมุสลิม สุดทนพฤติกรรม กลุ่้มโจรที่อ้างคัมภีร์
สตรีมุสลิม สุดทนพฤติกรรม กลุ่้มโจรที่อ้างคัมภีร์
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556
สมุนโอลันล้า ถามหาไทยพุทธ
สมุนโอลันล้า เผา อบต. ถามหาไทยพุทธ
| |
โจรใต้เหิมบุกเผา อบต.บาเจาะ หวังฆ่า ขรก.ไทยพุทธ โชคดีลาหยุดเลยรอด
ผบช.ศชต.ชี้คนร้ายเลือกก่อเหตุยิงอุสตาซโต๊ะอิหม่าม-ร้านน้ำชา มุ่งสร้างสถานการณ์เข้าใจผิดเป็นฝีมือ จนท. ยันปรับแผน รปภ.ตามความต้องการครูใต้แล้ว
เมื่อวันที่20 ธันวาคม เวลา 12.05 น. ร.ต.ท.บัญชา สำเนียงประเสริฐ ร้อยเวร สภ. บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจำ นวน 7 คน บุกเผาสำนักงาน อบต.บาเจาะ ซึ่งตั้งอยู่บ้านดูกู ม.3 ต.บาเจาะ ได้รับความเสียหาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส, พ.ต.ท.เนติธร วัตต ธรรม นวท.สบ.3 กลุ่มงานสถานีตรวจที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10, ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง สว.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุฃ
นายอับดุลวาหะ ดุลยพินิจ ปลัด อบต.บาเจาะ เปิดเผยเหตุระทึกขวัญว่า ในระหว่างที่ตนและข้าราชการรวมถึงลูก จ้าง จำนวน 13 คน แยกเป็นหญิง 7 คน ชาย 6 คน กำลังรวมตัวเพื่อเดินทางไปรับชาย 6 คน กำลังรวมตัวเพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารช่วงพักเที่ยงอยู่นั้น ได้มีคนร้ายจำนวน 7 คน มีอาวุธปืนครบมือบุกเข้าไปในสำนักงานพร้อมทั้งได้ใช้ปืนยิง ขึ้นฟ้าไปจำนวน 1 นัด ประกาศเป็นภาษายาวีว่า "ให้อยู่ในความสงบ ที่นี่มีคนไทยพุทธทำงานหรือไม่" จึงตอบไปว่าไม่มีแล้ว แต่คนร้ายพูดสวนเป็นภาษายาวีด้วยความไม่พอใจว่าอย่าโกหก
จากนั้นตนได้บอกไปว่าข้าราชการที่เป็นไทยพุทธคือ น.ส.สุชานาฎ แซ่ลี้ นักพัฒนาชุมชน 3 วันนี้ลาหยุดงาน 1 วัน สร้างความไม่พอใจให้กับคนร้าย 2 ใน 7 คนซึ่งในมือถือแกลลอนน้ำมันเชื้อเพลิง จึงได้แยกย้ายกันเผาสำนักงาน จนเพลิงเริ่มลุกไหม้ แล้วคนร้ายจึงได้พากันเดินออกจากสำนักงานไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นได้ตะโกนให้ทุกคนช่วยกันดับไฟก่อนที่จะประสานขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
"ลักษณะของคนร้ายมีเป้าหมายมาบุกยิง น.ส.สุชานาฎ ซึ่งเป็นข้าราชการไทยพุทธคนเดียวในที่สำนักงาน เมื่อยิงแล้วคนร้ายจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เตรียมมาราดบนศพแล้วจุดไฟเผา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ผมและข้าราชการรวมถึงลูกจ้างเกิดความหวาดกลัว ไม่รู้ว่าจะกล้าเดินทางมาทำงานอีกหรือไม่ ไหนสำนักงานก็ถูกเผาวอดหมดทั้งหลัง" นายอับดุลวาหะระบุ
ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชาย แดนภาคใต้ (ศชต.) จ.ยะลา พล.ต.ท.ไพ ฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการ ศชต. ได้ประ เมินสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ว่า เหตุที่เกิดกับเจ้าหน้าที่มีหลายเหตุ การณ์ และเหตุที่เกิดขึ้นกับครูและราษฎรที่เป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนในช่วงเวลานี้ ตั้งแต่อุสตาซโรงเรียนธรรมวิทยาถูกยิงที่ ต.เขาตูม อ.ยะรัง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียม ความพร้อมว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างภาครัฐกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หลังจากนั้นเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างภาครัฐกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ครูถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงเช้า ได้มีการประชุมผู้นำ 4 เสาหลักกับชาวบ้านในพื้นที่ อ.รามัน และหารือกับแม่ทัพภาคที่ 4 ในส่วนที่มีการยิงอุสตาซ โต๊ะอิหม่าม และยิงเข้าไปในร้านน้ำชา เนื่องจากประชาชนเคลือบแคลงใจว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ จึงมีการเร่งรัดในส่วนของคดีอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความจริงให้ปรากฏและหากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนจะมีการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่กระทำ หรือเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ส่วนเป้าหมายทั้งครูและชาวไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง เป็นช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกระทำการได้ แต่ได้มีการประชุมปรับแผนอย่างต่อเนื่องและแผนการรักษาความปลอดภัยครูเป็นไปตามความต้องการของครูในพื้นที่
"ช่วงเวลานี้ ทาง ศชต.ได้มีการเน้นย้ำไปที่ครูที่เป็นไทยพุทธที่สอนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีเพียง 1-2 คน ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1-2 คน ทำหน้าที่ประสานการทำงานครูตลอดเวลา ยามที่ครูต้องการไปทำธุระที่ไหน ก็ให้มีการประสานการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องพอเจ้าหน้าที่ปรับแผนการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม ทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็พยายามเบี่ยงเบนเป้าหมายอื่นต่ออย่างต่อเนื่องซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็มีการดูแลรับผิดชอบในทุกส่วนอย่างต่อเนื่องไม่มีการทอดทิ้งในส่วนอื่น"พล.ต.ท.ไพฑูรย์ระบุ
นอกจากนี้ ได้มีการสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรในแต่ละจังหวัดมีการบูรณาการทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่องและในช่วงเวลานี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ด้วย เหตุการณ์ ข่าวแจ้งเตือนต่างๆ เริ่มมีรายงานเข้ามา ทาง ศชต.เองได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามพัก เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามพัก เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเข้ามาสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในช่วงเทศกาลปีใหม่
รายงานข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ผอ.กอ.รมน., นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสวัสดิภาพความปลอดภัยของครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้, พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้จัดการประชุมหารือ จนได้ข้อยุติคือ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยืนยันถึงความสำคัญของบุคลากรครูที่ถือเป็นบุคคลที่จะต้องดำเนินการช่วยเหลือ สนับสนุน และปกป้องอย่างสุดความสามารถ
จากข้อเสนอแนะในที่ประชุมเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมซีเอสปัตตานี กอ.รมน.ภาค 4 สน. มีแนวทางที่จะเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้แก่ครู โดยจะปรับแผนการใช้กำลังพลภายใต้การบังคับบัญชาทำการรักษาความปลอดภัยให้แก่ครูทั้ง 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมห้วงระยะเวลาเดินทางไป-กลับขณะทำการสอนในโรงเรียน ในส่วนของหน่วยรับผิดชอบพื้นที่จะมีการตั้งหน่วยงานเฉพาะ รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยให้แก่ครู ในแต่ละพื้นที่และมีการระบุความรับผิดชอบเป็นการเฉพาะให้โรงเรียนในพื้นที่สามารถทำข้อตกลงกับหน่วยกำลังรับผิดชอบรักษาความปลอดภัยแก่ครูในแต่ละพื้นที่ เพื่อยืนยันถึงตัวบุคคลโรงเรียน พื้นที่ และห้วงเวลาในการรักษาความปลอดภัยให้ชัดเจน
นอกจากนี้ จะริเริ่มให้มีการประเมินค่าประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้พิจารณาการตอบแทนและทบทวนขีดความสามารถด้วย เพื่อสร้างความร่วมมือในการดูแลรักษาความปลอดภัย
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงที่ปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้หันมาใช้กลุ่มเยาวชนและประชาชนที่ติดเยาเสพติดทุกประเภท ซึ่งแต่เดิมจะปฏิเสธบุคคลกลุ่มประเภทติดยาเสพติดเข้าเป็นแนวร่วม แต่ระยะภายหลังเนื่องจากขาดกำลังคนที่จะเข้ามาเป็นแนวร่วมและปฏิบัติงาน จึงอาศัยกลุ่มติดยาเสพติดมีอยู่ทุกหมู่บ้าน ทั้งชาวไทยมุสลิมและไทยพุทธ เพื่อปฏิบัติการก่อกวนตามงานที่ใช้เป็นครั้งคราว
ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราช มนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนานานา ชาติ "ว่าด้วยการสร้างประชาชาติตัวอย่างด้วยระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ" โดยมี ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีประ เทศมาเลเซีย ร่วมปาฐกถาพิเศษ และมี เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย หรือผู้ แทนจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย ประ เทศซาอุดีอาระเบีย บรูไน อินโดนีเซีย อิหร่าน มาเลเซีย และประเทศไนจีเรีย พร้อมด้วยบุคลากรทางการศึกษาและนักศึกษาจากประเทศมาเลเซีย เข้าร่วมการสัมมนา จำนวนกว่า 2,000 คน
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน สำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ ในฐานะหัวหน้าโครงการศูนย์ประสานงาน สำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดสัมมนาฯ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำ คัญต่อการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนในภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพจะช่วยยกระดับความคิดของประชาชนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกๆ ด้าน.
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
ยุทธการใหม่โจรใต้! ใช้ “ปืนติดลำกล้อง” ซุ่มยิงยามค่ำ ตร.ดับ 1 ที่ยะลา
ยุทธการใหม่โจรใต้! ใช้ “ปืนติดลำกล้อง” ซุ่มยิงยามค่ำ ตร.ดับ 1 ที่ยะลา | |
ยะลา - โจรใต้โจมตีเจ้าหน้าที่รัฐด้วยรูปแบบใหม่ เผยใช้ “ปืนติดลำกล้อง” ซุ่มยิงจุดตรวจกลางตลาดกรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจถูกยิงเข้าลำคอเสียชีวิต 1 นาย เชื่อเป็นแนวร่วมสมุน “อุสตาสโซ๊ะ” วันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 19.25 น. ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านตลาดกรงปินัง ม.7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย เบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลกรงปินังเป็นการด่วน ทราบชื่อคือ ส.ต.อ วชิระ แสงศรี เป็น ผบ.หมู่ ป.สภ.กรงปินัง อายุ 32 ปี กระสุนถูกบริเวณลำคออาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณจุดตรวจร่วมบนถนนสาย 410 ยะลา-บันนังสตา ม.7 บ้านตลาดกรงปินัง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ พบกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 13 และกำลัง อส.กรงปินัง ได้ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในจุดตรวจ เจ้าหน้าที่พบกองเลือดใกล้รถจักรยานยนต์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 1 กอง จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า จุดตรวจดังกล่าวเป็นจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 13 และกำลัง อส.กรงปินัง ขณะเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดตรวจประมาณ 8 นาย โดยมี ร.ต.ท.อนุวัฒน์ อนุสรประเสริฐ เป็นหัวหน้าชุด โดยเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นก็พบว่า ส.ต.อ.วชิระ แสงศรี ซึ่งนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์สายตรวจที่จอดอยู่หน้าจุดตรวจถูกยิงจนร่างตกลงพื้นที่ เพื่อนตำรวจจึงเข้าไปช่วยเหลือพบว่าถูกยิงเข้าบริเวณลำคอ จึงได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนช่วยเหลือ จากนั้น พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบแนวบ้านเรือนที่อยู่ตรงข้ามจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่า คนร้ายได้ซุ่มอยู่บริเวณแนวบ้านเรือนของประชาชน และใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดตรวจเพื่อสร้างสถานการณ์ ขณะเดียวกัน จากการสันนิษฐานในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนติดลำกล้องซุ่มยิงมาจากแนวบ้านเรือนฝั่งตรงข้ามจุดตรวจ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะยิงตอบโต้ได้ เนื่องจากเป็นบ้านของประชาชน และเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสมุนของ “อุสตาสโซ๊ะ” หรือนายอิสมาแอ ระยะหลง แกนนำคนสำคัญที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ และมีหมายจับคดีความมั่นคงติดตัวหลายหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีคำสั่งไปยังสถานีตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เพิ่มความเข้ม และเฝ้าระวังการถูกซุ่มยิง หรือถูกซุ่มโจมตีฐานปฏิบัติการ โดยเฉพาะฐานปฏิบัติการย่อย หรือจุดตรวจย่อยที่อาจจะตกเป็นเป้าในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย ที่มีการเคลื่อนไหวก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
ทลายคลังแสงโจรใต้ เตรียมป่วนปีใหม่
ทลายคลังแสงโจรใต้ เตรียมป่วนปีใหม่ | |||
นราธิวาส - ทหารพราน 48 ยึดคลังแสงโจรใต้ ตรวจพบเป็นปืนของทางการที่ถูกปล้นไปจากค่ายทหาร คาดเตรียมใช้ป่วนช่วงปีใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาสว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้ร่วมสนธิกำลังกับชุดปฏิบัติการร่วมพิเศษ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหาร พลร้อย 15 และเจ้าหน้าที่ชุดซักถามศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 200 นาย เข้าพิสูจน์ทราบภายในสวนยางพาราบ้านดารุลฮีซาน ม.14 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง หลังจากขยายผลการสอบสวนปากคำของนายรุสรัน สาและ อายุ 35 ปี หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ RKK ที่หลบหนีหมายจับก่อคดียิงถล่มกองกำกับการตำรวจน้ำ อ.ตากใบ และยิงครูโรงเรียนบ้านตาโง๊ะเสียชีวิต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งของสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถึงเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันตรวจค้นภายในป่าสวนยางพารา และพบของกลางจำนวนมาก แยกใส่ไว้ในถุงปุ๋ย และถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 8 ถุง ซึ่งแยกฝังไว้ใต้โคนต้นยางพารา จำนวน 8 จุด ในรัศมี 5 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้พลั่วสนามขุดขึ้นมาตรวจสอบ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชม.จึงแล้วเสร็จ และได้นำของกลางมาแกะตรวจสอบที่กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้ ของกลางดังกล่าว ประกอบด้วย 1.อาวุธปืน เอ็ม16 จำนวน 4 กระบอก กระสุน 318 นัด แมกกาซีน 6 ซอง 2.อาวุธปืน อาก้า 1 กระบอก กระสุน 40 นัด แมกกาซีน 2 ซอง 3.อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด 1 กระบอก กระสุน 6 นัด 4.กระสุนปืน เอ็ม 60 จำนวน 18 นัด 5.ปุ๋ยยูเรีย 20 กก. 6.แผ่นเหล็กที่ใช้สำหรับประกอบเป็นกล่องระเบิดแสวงเครื่อง 4 แผ่น และ 7.เวชภัณฑ์ จากการตรวจสอบหมายเลขอาวุธปืน เอ็ม16 จำนวน 3 กระบอกคือ หมายเลข 1839226, 1031222 และหมายเลข 9441061 พบว่าเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายบุกปล้นมาจากกองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ส่วนอีก 1 กระบอก หมายเลขประจำปืนที่ A 0068591 เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขโมยมาจากเจ้าหน้าที่กองกำลังฝ่ายใด ส่วนปืนของกลางทั้ง 6 กระบอก ได้มีการชโลมน้ำมันไว้อย่างดี และสามารถนำออกมาใช้งานได้ตลอดเวลา ต่อมา ในช่วงเวลา 06.00 น. วันนี้ (29 ธ.ค.) พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 ได้ขอสนับสนุนชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย มาทำการตรวจสอบ และเคลียร์พื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยใช้เครื่องจับวัตถุโลหะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมที่ 48 และสามารถตรวจยึดของกลางได้เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม16 อีก 2 กระบอก เป้สนาม กระสุนปืน เอ็ม16 จำนวน 50 นัด และวิทยุสื่อสารยี่ห้อไอคอม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางมาเก็บรวบรวมไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์มาทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ รวมทั้งวิถีกระสุนของอาวุธปืนทั้ง 6 กระบอกว่า คนร้ายเคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดบ้าง ส่วนการตรวจยึดของกลางในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายรุสรัน และพวก เตรียมใช้ก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน จึงนำไปสู่การตรวจยึดของกลางดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 ธันวาคม ที่กองบังคับการ กรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในการแถลงข่าวถึงผลการปฏิบัติของกองกำลังผสม ในการบุกทลายคลังแสงของกลุ่มโจรใต้ โดยได้ตรวจยึดอาวุธปืนจำนวน 6 กระบอก และของกลางกว่า 50 รายการ ภายในป่าสวนยางพารา บ้านดารุลอีซาน ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา และจากการนำมาตรวจสอบหมายเลขประจำปืนพบว่าปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอกเป็นปืนที่ถูกปล้นไปจากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดจากการปูพรมตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม16 เพิ่มเติมได้อีกจำนวน 2 กระบอก ซึ่งบรรจุไว้ในถังพลาสติกสีฟ้าขนาด 200 ลิตร ก่อนฝังไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่ห่างจากจุดที่ตรวจพบในครั้งแรกประมาณ 15 เมตร จากการนำขึ้นมาตรวจสอบหมายเลขประจำปืนพบว่าคือหมายเลข 9541322 และ 9548750 รวมทั้งเครื่องสนาม วิทยุสื่อสารและกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนอาวุธปืนเอ็ม 16 A 4 0068591 ที่ยึดได้ในครั้งแรกตรวจสอบพบว่าเป็นปืนที่ปล้นไปจาก ส.ต.ท.อดิศัย อูเมะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2546 ด้าน พ.ท.อิศรา รอง ผบ.ทพ.48 เปิดเผยว่า อาวุธปืนที่ยึดได้ในครั้งนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มของนายมะซาเอะ หะยีดีเยาะดียะ แกนนำปฏิบัติการมีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 6 หมาย ทั้งเหตุยิงถล่ม อส.รถไฟเสียชีวิต รวมทั้งยิงครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ ร.ร.บ้านตาโงะ เสียชีวิตและวางระเบิดรถวีว่าของทหารพรานที่ 48 บาดเจ็บ 6 นาย ส่วนการตรวจยึดได้ในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณชาวบ้านในพื้นที่ที่เป็นเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติครั้งยิ่งใหญ่ที่ถือเป็นยุทธการทวงคืนอาวุธปืนที่ถูกปล้นกลับคืนมาได้สำเร็จอีกจำนวนหนึ่ง | |||
http://narater2010.blogspot.com/
|
สมุนโอลันล้า ทะเลาะกับกล้องวงจรปิด
โจรใต้ป่วน!เผากล้องวงจรปิดทั่วสายบุรี | |
สมุนโอลันล้า ทะเลาะกับกล้อง !เผากล้องวงจรปิดทั่วสายบุรีคนร้ายนำยางรถจยย.ราดน้ำมันเบนซิน เผากล้องวงจรปิด อ.สายบุรี คืนเดียว 26 ตัว พร้อมงัด รพ.ส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลกะดูนง ฉกถังออกซิเจน-ถังแก๊ซ คาดใช้ประกอบระเบิด
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม พ.ต.ท.นาราวี บินแวอารง รอง ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีเหตุลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดหลายจุดในพื้นที่ อ.สายบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณชุมชน ปากทางเข้าเทศบาลตำบลตะลูบัน อ.สายบุรี สามแยกบ้านเจาะกือแย ต.เตราะบอน อ.สายบุรี ที่เสาไฟฟ้าริมถนนมีกล้องวงจรปิดถูกเผาไฟได้รับความเสียหาย จำนวน 7 จุดเสาไฟฟ้า รวมจำนวน 22 ตัว และพบหลักฐานยางล้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาแขวนอยู่ และบางจุดตกอยู่ที่ใต้เสาไฟฟ้า พร้อมกล้องวงจรปิดที่ถูกเผาเสียหาย
นอกจากนั้นบริเวณริมถนนสาย 42 ระหว่างปัตตานี-นราธิวาส บริเวณที่กลับรถ ม.3 บ้านตะบิ้ง ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 500 เมตร บนเสาไฟฟ้าที่อยู่เกาะกลางถนน มีกล้องวงจรปิดถูกเผาเสียหายจำนวน 2 จุด รวมจำนวน 4 ตัว และพบหลักฐาน ยางรถจักรยานยนต์ และซากกล้องวงจรปิดที่ถูกเผาตกลงอยู่ข้างถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายประมาณ 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้ไม้ยาวประมาณ 3 เมตร นำยางรถจักรยานยนต์ราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟ ก่อนจะนำไปพาดไว้บนตัวกล้องจนได้รับความเสียหาย และบางจุดมีการใช้ไม้ทำลายจนกล้องตกลงบนพื้นก่อนที่จะเผา ซึ่งปรากฏว่ากล้องที่เสียหายใช้การไม่ได้รวม 26 ตัว ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการกระทำของแนวร่วมกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อสร้างสถานการณ์ หรือเพื่อเตรียมการที่จะก่อเหตุในจุดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดเกิดเหตุมีการลอบเผากล้องวงจรปิดมาแล้ว 2 ครั้ง และก่อเหตุยิงข้าราชการ ประชาชน บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายครั้งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้งัดหน้าต่าง และลักลอบเข้าไปใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลกะดูนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนระหว่างตำบล ม.1 ต.กะดูนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากนั้นคนร้ายได้ขโมย โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ถังออกซิเจน และถังแก๊ซ หลบหนีไป ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ โดยคนร้ายน่าจะนำถังออกซิเจน และถังแก๊ซ ไปประกอบระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
เจาะลึกเส้นทาง RKK
เจาะลึกเส้นทาง RKK
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
http://narater2010.blogspot.com/
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)