วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

จับโจรใต้อีกราย!! แต่งกายคล้ายหญิงยิงถล่ม นปพ.สถานีรถไฟเจาะไอร้อง



"Ibrahim"



         จับกุมคนร้ายตามหมายจับ แต่งกายคล้ายหญิงเหตุกราดยิง จนท.ตำรวจ รปภ.สถานีรถไฟ เหตุการณ์วันเดียวกับบุกยึด รพ.เจาะไอร้อง นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย


          จากเหตุการณ์คนร้ายป่วนนราธิวาส 3 จุด ทำการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 31 ชป.รปภ.สถานีรถไฟ อ.เจาะไอร้อง เมื่อ 13 มี.ค.59 ซึ่งเป็นคราวเดียวกันที่คนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้องจับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แล้วทำการกราดยิงฐานปฏิบัติการร้อย ทพ.4816 กรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และทำการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุใส่ไว้ในถังแก็สปิคนิคหนัก 20 ก.ก.ที่นำไปวางไว้เสาคอสะพานบ้านยานิง


         เมื่อ 16 พ.ย.59 เวลา 04.00 น. หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินทหารเรือ 33 (ฉก.นย.ทร.33) สนธิกำลังกับ นปข.ฉก.นย.ภต. เข้าทำการตรวจสอบเป้าหมายในพื้นที่ ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เพื่อบังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส



        ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายอาดือนันต์ บือราเฮง ตามหมายจับ ป.วิอาญา 189/59 ลง 6 เม.ย.59 ที่อยู่ 18/1 ม.3 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส


        นายอาดือนันต์ บือราเฮง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยมีคนร้ายจำนวน 4 คน ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 31 ซึ่งเป็นชุด รปภ.สถานีรถไฟเจาะไอร้อง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป




           ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ นายอาดือนันต์ บือราเฮง และสมาชิก ผกร.อีก 3 คน ได้แต่งกายคล้ายหญิง มีผ้าคลุมใบหน้าเพื่อปิดบังอำพรางซ่อนเร้นกาย ลงมือทำการก่อเหตุ โดย นายอาดือนันต์ฯ ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่สองใช้อาวุธปืนสงครามทำการกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่
จะเห็นได้ว่ากลุ่ม ผกร.มักแต่งกายคล้ายผู้หญิง หรือแม้กระทั่งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตบตาให้รอดพ้นจากการตรวจตราตามด่านตรวจ และจุดสกัดต่างๆ การกระทำเช่นนี้มิใช่การหลงผิด แต่เป็นความตั้งใจที่จะลงมือก่อเหตุโดยมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี


         การบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมาย บ่อยครั้งที่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและมีบรรทัดฐานเดียวกัน ปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แต่ยังมิวายที่ถูกโจมตีจากองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กร บางกลุ่มที่ทำการเคลื่อนไหวสนับสนุนเพื่อทำการช่วยเหลือคนร้าย ช่วยเหลือขบวนการให้พ้นผิด พ้นมลทินจากสังคม
ความจริงคือความจริงมิได้มีการสาดโคลนโยนผิดให้กับผู้ต้องหาตามหมายจับเหล่านี้ ว่าไปตามหลักฐานวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ไม่เหมือนกับสื่อบางสำนัก องค์กรภาคประชาสังคมเถื่อนถ่อยบางองค์กรที่มักชอบบิดเบือนข้อเท็จจริง มุ่งนำเสนอข่าวเชิงลบที่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม




          ผู้ที่กระทำความผิดไม่ช้าหรือเร็วจะต้องโดนจับดำเนินคดีตามกฎหมาย จะต้องรับสภาพกับผลกรรมที่ตัวเองได้ก่อ มีอยู่จำนวนไม่น้อยที่ถูกทอดทิ้งจากลุ่มขบวนการไร้ซึ่งการเหลียวแล ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ อดมื้อกินมื้อ คนที่ฉลาดเท่านั้นที่คิดได้ว่าที่ผ่านมาทำไปเพื่ออะไร?

          แต่สำหรับคนโง่แล้วจะต้องตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่ร่ำไปหากยังคิดไม่ได้จงรับกรรมต่อไป...แต่ผลกรรมนั้นไม่ได้ตกอยู่ที่คนๆ เดียว ครอบครัวจะต้องพลอยตกระกำลำบากไปกับผลการกระทำของเราด้วย..อามีน
-------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม