เตือนปี54ระอุ โจรใต้ไล่ฆ่าดะ
2011-01-08 23:10:53เบตงเดือด! โจรใต้ซิ่งกระบะถล่มทหารพรานดับ 1 สาหัส 1 นาย ขณะที่หน่วยงานความมั่นคง เตือนปี 2554 ที่มา : http://www.thaipost.net/sunday/090111/32584
เบตงเดือด! โจรใต้ซิ่งกระบะถล่มทหารพรานดับ 1 สาหัส 1 นาย ขณะที่หน่วยงานความมั่นคง เตือนปี 2554 กลุ่มก่อความไม่สงบยังป่วนหนัก เตรียมวางระเบิด-ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งเป้าสังหารกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ผู้นำศาสนา
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ร.ต.อ.ประเทือง สุวรรณชาตรี ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจาก ด.ต.อุดม จุนเจือ หน.ศูนย์รวมข่าว 191 ว่า เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มใช้รถปิกอัพเป็นยานพาหนะไล่ยิงถล่มผู้ขับขี่รถ จยย.จนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส รวม 2 ราย ที่บริเวณใกล้ทางเข้าบ้านบือแน หมู่ที่ 4 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา
หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบ.ก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก. พ.ต.ท.จรัส ชิณนะพงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผบ.ฉก.11 อ.เมืองยะลา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.11 ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าวอยู่บนถนนสาย 4063 (ยะลา-โกตาบารู) ระหว่างหลัก กม. 10-11 ใกล้ปากทางเข้าบ้านบือแน พบศพ อส.ทพ.สุทธิพร กันสุริ อายุ 24 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน มีบาดแผลจากคมกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่บริเวณลำตัวและใบหน้า นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในคูน้ำข้างทาง ห่างไปเล็กน้อยมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ซีซี สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ตายล้มตะแคงอยู่ พบปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนกลางถนน เก็บรวบรวมไว้ได้จำนวน 14 ปลอก
นอกจากนี้ยังพบผู้ได้บาดเจ็บสาหัสอีกรายชื่อ อส.ทพ.เอกพล อินทนุพัฒน์ อายุ 28 ปี ถูกกระสุนปืนกลางหลังอาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว จึงตามไปสอบสวน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.สุทธิพร และ อส.เอกพล อินทนุพัฒน์ ทั้ง 2 ได้ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ออกจากค่ายทหารพราน 41 เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ โดย อส.เอกพลเป็นผู้ขับขี่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีพยานเห็นรถปิกอัพของคนร้ายเป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยมีคนร้ายอยู่บนกระบะท้ายจำนวน 4-5 คน มีอาวุธปืนครบมือ ขณะขับแซงมือปืนบนกระบะได้ใช้อาวุธปืนยิงถล่ม เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีทันที ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นฝีมือพวกก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ตามที่ได้ปล่อยข่าวออกมาก่อนหน้านั้น
วันเดียวกัน หน่วยข่าวความมั่นคงแจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังแกนนำระดับสั่งการแต่ละพื้นที่ประชุมสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบถึงแนวทางการต่อสู้ปี 2554 เน้นการก่อเหตุต่อเป้าหมายที่เป็นชาวไทยพุทธ โดยใช้วิธีลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเพื่อสร้างกระแสความหวาดกลัว รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. และผู้นำศาสนา ที่หันมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้สมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการที่ยังไม่ถูกเปิดเผยพฤติกรรมที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และเมื่อก่อเหตุเสร็จให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อรอการสั่งการต่อไป
ขณะที่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้เพิ่มความเข้มในเขตเมืองและพื้นที่รอบนอก รวมทั้งเส้นทางเข้า-ออกพรมแดนประเทศไทย-ประเทศมาเลเซียอย่างเข้มงวด โดย พ.ต.ท.สังวรณ์ แพรเงิน สว.ตม.จว.ยะลา พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ สว.สส.สภ.เบตง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายมะตาเห มะโร๊ะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะกำลังยื่นหนังสือเดินทางที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเดินทางออกไปยังประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ นายมะตาเหมีหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 342/2550 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2552 คดีอาญา สภ.เมืองนราธิวาส ที่ 241/2552 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่นายมะตาเหได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ร.ต.อ.ประเทือง สุวรรณชาตรี ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจาก ด.ต.อุดม จุนเจือ หน.ศูนย์รวมข่าว 191 ว่า เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มใช้รถปิกอัพเป็นยานพาหนะไล่ยิงถล่มผู้ขับขี่รถ จยย.จนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส รวม 2 ราย ที่บริเวณใกล้ทางเข้าบ้านบือแน หมู่ที่ 4 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา
หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบ.ก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก. พ.ต.ท.จรัส ชิณนะพงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผบ.ฉก.11 อ.เมืองยะลา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.11 ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าวอยู่บนถนนสาย 4063 (ยะลา-โกตาบารู) ระหว่างหลัก กม. 10-11 ใกล้ปากทางเข้าบ้านบือแน พบศพ อส.ทพ.สุทธิพร กันสุริ อายุ 24 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน มีบาดแผลจากคมกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่บริเวณลำตัวและใบหน้า นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในคูน้ำข้างทาง ห่างไปเล็กน้อยมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ซีซี สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ตายล้มตะแคงอยู่ พบปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนกลางถนน เก็บรวบรวมไว้ได้จำนวน 14 ปลอก
นอกจากนี้ยังพบผู้ได้บาดเจ็บสาหัสอีกรายชื่อ อส.ทพ.เอกพล อินทนุพัฒน์ อายุ 28 ปี ถูกกระสุนปืนกลางหลังอาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว จึงตามไปสอบสวน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.สุทธิพร และ อส.เอกพล อินทนุพัฒน์ ทั้ง 2 ได้ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ออกจากค่ายทหารพราน 41 เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ โดย อส.เอกพลเป็นผู้ขับขี่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีพยานเห็นรถปิกอัพของคนร้ายเป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยมีคนร้ายอยู่บนกระบะท้ายจำนวน 4-5 คน มีอาวุธปืนครบมือ ขณะขับแซงมือปืนบนกระบะได้ใช้อาวุธปืนยิงถล่ม เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีทันที ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นฝีมือพวกก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ตามที่ได้ปล่อยข่าวออกมาก่อนหน้านั้น
วันเดียวกัน หน่วยข่าวความมั่นคงแจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังแกนนำระดับสั่งการแต่ละพื้นที่ประชุมสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบถึงแนวทางการต่อสู้ปี 2554 เน้นการก่อเหตุต่อเป้าหมายที่เป็นชาวไทยพุทธ โดยใช้วิธีลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเพื่อสร้างกระแสความหวาดกลัว รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. และผู้นำศาสนา ที่หันมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้สมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการที่ยังไม่ถูกเปิดเผยพฤติกรรมที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และเมื่อก่อเหตุเสร็จให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อรอการสั่งการต่อไป
ขณะที่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้เพิ่มความเข้มในเขตเมืองและพื้นที่รอบนอก รวมทั้งเส้นทางเข้า-ออกพรมแดนประเทศไทย-ประเทศมาเลเซียอย่างเข้มงวด โดย พ.ต.ท.สังวรณ์ แพรเงิน สว.ตม.จว.ยะลา พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ สว.สส.สภ.เบตง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายมะตาเห มะโร๊ะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะกำลังยื่นหนังสือเดินทางที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเดินทางออกไปยังประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ นายมะตาเหมีหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 342/2550 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2552 คดีอาญา สภ.เมืองนราธิวาส ที่ 241/2552 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่นายมะตาเหได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น