จากกรณี เพจ Suara Patani ได้โพสต์ภาพและข้อความเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 กล่าวหาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงว่ามีใบสั่งให้ทีมสังหารคนในพื้นที่ มีใจความว่า
"ทีมงูเต๊ะ" เป็นคำศัพท์ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งปาตานี โดยความหมายของคำนี้คือ "ทีมเก็บเงียบ" หรือ "ทีมสังหาร" เป็นมือมืดที่ชาวปาตานีหวาดกลัว "ทีมงูเต๊ะ" เป็นอีกหนึ่งปริศนาในพื้นที่ปาตานีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
*ช่วงนี้ (ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนรอมฎอน) ขอเตือนให้ทุกคนระวังทีมงูเต๊ะ
จากข้อความข้างต้น ขอบอกเลย ผกร. หมดมุกแล้วจริงๆ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าแท้จริงแล้ว BRN และ เพจ Suara Patani สองหัวตัวเดียวกัน เพจ Suara Patani เป็นเพจเฟสบุ๊คของแนวร่วมสนับสนุนกลุ่มขบวนการ BRN มีการปลุกระดมก่อให้เกิดความเกลียดชังในเรื่องของเชื้อชาติและศาสนา สร้างความขัดแย้งในแนวความคิด ทำให้พี่น้องในพื้นที่ชายแดนใต้เกิดความแตกแยก เกิดความหวาดระแวงในการดำเนินชีวิตต่อกันอย่างร้ายแรง
โดยที่ผ่านมา เพจ Suara Patani จะมุ่งบิดเบือนข้อมูลความจริงกล่าวหาใส่ร้ายโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานมาโดยตลอดเวลา ซึ่งทำให้ผู้ที่ไม่รู้ความจริงหลงเชื่อ เกิดการเข้าใจผิด เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทำมาหากิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้กันดีว่า เจ้าหน้าที่ทำงานหลักคือปกป้องดูแลชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
เมื่อดูรูปที่ เพจ Suara Patani นำมาบิดเบือนมองแล้วเป็นการใช้มุกเก่าๆ เดิมๆ ได้มีการผลิตภาพพร้อมข้อความซึ่งไม่สามารถตรวจหาที่มาที่ไปได้ กล่าวหาใส่ร้ายโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ว่าจัดชุดทีมงูเต๊ะ (ทีมเก็บเงียบ หรือ ทีมสังหาร) ล่าสังหารชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งความเป็นจริงแล้วเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้กันดีว่าเป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการเอง โดยการหักหลังกันเองที่ทำงานพลาดรวมถึงการหักหลังผลประโยชน์จากการค้ายาเสพติดพร้อมกับ ผกร.หลายคนในพื้นที่มีความเบื่อหน่ายจากกลุ่มขบวนการต้องการออกจากกลุ่มแนวร่วมพร้อมกับการให้ข่าวกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเหตุนี้เองกลุ่มขบวนการจึงต้องล่าสังหารคนของตัวเอง เพื่อเป็นการปิดปากและโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหวังว่าจะยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ท่านลองคิดดูสมมุติเจ้าหน้าที่รัฐกระทำจริงป่านนี้คงไม่มานั่งแหกปากกันหรอก และจะมีโครงการพาโจรกลับบ้านไปทำไม เจ้าหน้าที่เก็บเองไม่ดีกว่าหรือ และสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพจ Suara Patani ได้กระทำการตัดต่อภาพโดยการโพสต์ภาพและข้อความในเชิงหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงเว็บไซต์บางสำนักได้มีการเอาข้อมูลมาเผยแพร่โดยไร้การตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจนำไปสู่ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย
เพจ Suara Patani เคยนำข้อมูลมาบิดเบือนหลายครั้ง เช่น กรณีการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โพสต์เมื่อ 27 เมษายน 2560 (เข้าไปดูเอง) , กรณีชาวบ้านทุ่งยางแดงโมเดลโวย!!!ทหารเต็มพรึ่บในสวนยาง!!! โพสต์เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2560 โดยกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปในสวนยาง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวสวนยางที่จะทำการกรีดยาง ซึ่งจาการตรวจสอบความจริงแล้ว เป็นรูปของกองร้อยทหารพรานที่ 4713 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ได้ทำการโพสต์ภาพนิ่ง และเป็นคลิปวีดีโอทำการเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2554 เป็นรูปการฝึกของกองร้อยทหารพราน ไม่ได้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของประชาชน และไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ตามที่เพจ Suara Patani กล่าวอ้างแต่อย่างใด มาครั้งนี้ก็ยังคงใช้แนวทางเดิมๆ ในการบิดเบือนข้อมูลสร้างความเท็จใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ตามจิตสำนึกต่ำๆ ที่เคยทำตามเคย
ความร่วมมือของ BRN ที่ฆ่าเพราะหักหลังกันเองภายในกลุ่มแล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ โดยให้เพจ Suara Patani เป็นผู้ลงมือโจมตีนั้นเป็นการกระทำของพวกไร้ศาสนาทำเพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับกลุ่มของตนเท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่อย่างไรก็ดีขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อการกระทำที่บิดเบือนความจริงเหล่านี้ และขอให้ร่วมมือกันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนใต้
ด้วยการช่วยกันรายงานเฟสบุ๊คที่มีชื่อผู้ใช่ว่า “Suara atani”https://www.facebook.com/Suara-Patani-234450210066094/…หรือ ส่งข้อมูลไปถึงกระทรวง ICT เพื่อปิดเฟสบุ๊คที่สร้างความแตกแยก บิดเบือนข้อมูล โฆษณาชวนเชื่อ ทำลายความสุขของพี่น้องประชาชน และป้องกันสถานการณ์รุนแรงความเข้าใจผิดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่ชายแดนใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น