วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554


มมร. ข้องใจ ปปช.
"เตะถ่วง" คดีหนังพระไตรปิฎก
มมร. ข้องใจ ปปช.

"เตะถ่วง" คดีหนังพระไตรปิฎก


    อืม ! นักการเมืองในคราบผ้าเหลืองก็เป็นเช่นนี้แหละ สงสัยว่าพระเทพปริยัติวิมลคงอยากปลดพระเทพวิสุทธิกวีเต็มแก่ แบบว่าเหม็นขี้หน้าเต็มทนแล้ว จึงให้นายสงกรานต์ออกมาทวง ปปช. ทั้งเช้าทั้งเย็น ว่าเมื่อไหร่จะตัดสินเสียที จะได้ไล่พวกมารคอหอยพ้นจาก มมร. ของกรูไป


    แต่ก็ดีฮะ ฝนไม่ตกไม่รู้เรือนใครรั่ว สมัยก่อนนั้นเล่าลือกันนักว่า พระธรรมยุตเล่นการเมืองเก่ง ขนาดมีพลพรรคแค่ไม่กี่หมื่น ก็สามารถขี่คอมหานิกายซึ่งมีจำนวนตั้งหลายแสน กินตำแหน่งสังฆราชมานานร่วมร้อยปี แต่วันนี้ประชาธิปไตยเบ่งบาน ธรรมยุตเลยหันไปกัดกันเองเป็นการภายใน แต่ถึงยังไงก็ยัง "แซ่บอีหลี" เพราะว่านี่คือของจริง

นิมนต์เดินหน้าเถิดท่าน เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง เรื่องศีลธรรม เมตตาการุณ ฯลฯ อย่าพูดให้เหม็นขี้ปากเลย อ้างเอาคดีอาญายอมความไม่ได้นั่นแหละมาเป็นใบเบิกทางสังหารกัน มันจะแปลกอะไร ในเมื่อยอมเอามหาวิทยาลัยไปอยู่ในกำกับของรัฐ แล้วก็นุ่งผ้าเหลืองกินเงินเดือนเหมือนข้าราชการ แค่ฟ้องร้องนั้นยังน้อยไป ต่อไปถ้าศาลอาญาตัดสินไม่ถูกใจ ก็อาจจะมีรายการส่งมือปืนไปตามเก็บคู่อริก็เป็นได้ เพราะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในโลกใบนี้

   ข่าวเมื่อวานนี้ พระเทพปริยัติวิมล ประกาศทุ่ม 2 พันล้าน จะสร้าง มมร. ศาลายาให้ยิ่งใหญ่ งานนี้รับรองว่า "พระเทพวิสุทธิกวี" จองกฐินข้ามปีกัดไม่ปล่อยแน่ ตรวจสอบยิ่งกว่าส่องพระสมเด็จวัดระฆัง ระวัง อย่าพลาดก็แล้วกัน รับรองว่ากินข้าวแดงแน่ๆ รู้จักมหาเกษมน้อยไปซะแล้ว




เอกายนมรรค - ทางเอก เดินได้คนเดียว

ถ้ามีผม ต้องไม่มีคุณ !
เพราะเก้าอี้อธิการบดีมีเพียงหนึ่งเดียว แบ่งใครไม่ได้




พระเทพปริยัติวิมล วัดบวรนิเวศวิหารอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์ มมร.

พระเทพวิสุทธิกวี วัดราชาธิวาสรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์ มมร.




ครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์  ข้องใจ ป.ป.ช. ดองคดี หนังไตรปิฎก

นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กล่าวว่า ตามที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ได้สรุปสำนวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแอบอ้างชื่อ มมร.ไปใช้เรี่ยไรเงินเพื่อนำมาจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ โดยตั้งเป้าในการเรี่ยไรเงินให้ได้ถึง 1,200 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดสร้างภาพยนตร์ดังกล่าว แต่ความจริงแล้วภาพยนตร์ดังกล่าวไม่มีการจัดสร้างขึ้นจริง มีเพียงภาพยนตร์ตัวอย่างยาว 30 นาที เท่านั้น ซึ่งทาง มมร.ได้มีการตรวจสอบและพบว่ามีบุคลากรระดับสูงใน มมร. มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงสรุปสำนวนยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปตั้งแต่ปี 2552 เพื่อขอให้ชี้มูลความผิด และทาง มมร.จะได้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ แต่จนถึงขณะนี้ ป.ป.ช.กลับยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ตนได้ทำหนังสือสอบถามไปแล้ว 1 ครั้ง เรื่องก็ยังเงียบ ดังนั้น วันที่ 19 ส.ค. เวลา 13.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

นายสงกานต์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 7 ก.ย. ทราบมาว่า ทาง ป.ป.ช. จะแถลงผลงานการดำเนินการปราบปรามการทุจริต ตนจึงขอให้ ป.ป.ช. นำเรื่องคดีพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์มาแถลงความคืบหน้าด้วย เพราะขณะนี้เป็นเวลากว่า 2 ปี แล้ว ป.ป.ช. ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้าไปยัง มมร. แต่อย่างใด และหาก ป.ป.ช.ไม่มีการดำเนินการดังกล่าว จะถูกพุทธศาสนิกชนตั้งข้อสงสัยว่าดองคดีดังกล่าวหรือไม่แน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและประชาชนจำนวนมากที่หลงเชื่อแล้วบริจาคเงินเพื่อนำไปจัดสร้างภาพยนตร์ดังกล่าว
ความผิดของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องความจริงแล้ว มมร. มีอำนาจในการไล่ออกได้เลย แต่เข้าใจว่าทาง มมร. ต้องการให้มีข้อมูลความผิดที่ชัดเจน จึงต้องยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ชี้มูลความผิดก่อน” นายสงกรานต์ กล่าว.

ข่าว : ไทยรัฐ
20 สิงหาคม 2554
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม