วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

ครบรอบ 10 ปีป่วนใต้! ในภาวะเจรจาสันติภาพล่ม

ครบรอบ 10 ปีป่วนใต้! ในภาวะเจรจาสันติภาพล่ม



เหตุระเบิดกลางเมืองยะลา 2 วัน 8 จุด เมื่อวันที่ 6 และ 7 เมษายน 2557ที่ผ่านมา เป็นคาร์บอมบ์ 1 จุด โชเล่ย์บอมบ์ (รถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกระเบิด) อีก 1 จุด ที่สร้างความเสียหายให้กับย่านธุรกิจการค้า ทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ โกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่กลางเมือง และร้านสะดวกซื้อชื่อดัง มีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 15 คูหา มีผู้เคราะห์ร้ายสังเวยชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคนนั้น ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้อย่างหลีกเลี่ยงมิได้

ความภาคภูมิใจของทุกหน่วยงานที่สามารถสกัดกั้นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ในเขตเมือง โดยเฉพาะ อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการศึกษาของพื้นที่ได้ยาวนานกว่า 2 ปี ถึงคราวต้องมลายหายไปพริบตา
 สภาพการณ์ เต็มไปด้วยความหวาดผวา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้รับแจ้งจากประชาชนให้เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ต้องสงสัยที่จอด ทิ้งไว้นานผิดสังเกตเกือบตลอดทั้งวัน

ขณะที่กลุ่มผู้นำศาสนา นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนหลายร้อยคน พร้อมใจกันเดินรณรงค์เรียกร้องให้หยุดการก่อเหตุรุนแรง

ส่วน ความเคลื่อนไหวของภาครัฐ ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จังหวัด และเทศบาลนครยะลา ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเสียหาย ให้กำลังใจ และเร่งรัดการช่วยเหลือเยียวยา มีการตั้งเต็นท์บริเวณหน้าแขวงการทางยะลา เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีทั้งบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย

สภาพการณ์"คาร์บอมบ์" สร้างความหวาดหวั่นให้กับคนในพื้นที่  โดยที่ฝ่ายปกครองอย่างพล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มองถึงเหตุวางระเบิดหลายพื้นที่ใน จ.ยะลาครั้งนี้ว่าเดือนเม.ย.จะเป็นช่วงวงรอบที่จะมีสถานการณ์ลักษณะนี้ เพราะครบรอบการสถาปนากระบวนการบีอาร์เอ็น คองเกรส วันสถานปนาธรรมนูญของกลุ่มเบอซาตู และครบรอบเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ จึงเกิดเหตุการณ์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ ที่จะมีการแขวนป้ายผ้า และเหตุรุนแรง

แต่ ที่เลขาฯสมช. มองต่างไปจากเหตุการณ์เดือนเม.ย.ทุกๆปีก็คือการโยกย้ายตัวแม่ทัพภาพที่ 4 ที่มี พล.ท.วลิต โรจนภักดี เข้ามาสานต่อคนเดิมและการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขาธิการ สมช.จากตัวเขามาเป็นนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รวมทั้งการพูดคุยสันติภาพที่หยุดชะงักลงไป มีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน กลุ่มที่ต้องการให้พูดคุยก็พยายามจะสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น

"ทาง นโยบายเขาต้องการความชัดเจนของผู้ที่จะมาดูแลการพูดคุยต่อว่าคนใหม่ที่จะมา แทนผม แนวทางการทำงานจะเหมือนกับที่เคยพูดคุยไว้ก่อนหรือไม่ ประกอบกับการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 ฝ่ายขบวนการ ฝ่ายภัยแทรกซ้อน ก็มีการลองของกันตลอด เป็นเรื่องปกติ ทุกปัจจัยมีความเกี่ยวข้องกันหมด" พล.ท.ภราดร กล่าว

ด้านนายศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี นักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ เห็นว่าจากการวิเคราะห์เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาค ใต้ในช่วงนี้ พบว่ามีสาเหตุหลักจาก 3 ปัจจัย คือ ปัจจัยแรกการ ครบวงรอบเดือนเสี่ยง โดยทุก 1 ปีจะมีสถิติการก่อเหตุสูงสุดในช่วง 3 เดือนสำคัญคือ เมษายน,พฤษภาคม และมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนร้าย มักจะก่อเหตุถี่และรุนแรงเป็นประจำทุกปี

ส่วนปัจจัยที่ 2 มาจากการครบรอบ10 ปี เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีส่วนผลักดันให้แนวร่วมในพื้นที่ฮึกเหิมและพยายามก่อเหตุเชิง สัญลักษณ์  โดยมีแนวโน้มการก่อเหตุความรุนแรงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการพุ่งเป้าหมายไปยังเป้าหมายอ่อนแอ ทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ครู และพระสงฆ์ รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่เขต เมืองและย่านเศรษฐกิจสำคัญของจ.ยะลา

ปัจจัยที่ 3 คือ การหยุดชะงักงันของการเจรจาสันติภาพด้วยปัจจัยทางการเมือง ทำให้ข้อกำหนดความร่วมมือที่ได้ตกลงดำเนินร่วมกันตลอด 1 ปี ที่เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเจรจาของทุกภาคส่วน จนช่วยทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น การหยุดก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เศรษฐกิจ 7 หัวเมืองหลักไม่ว่าจะเป็นเมืองยะลา ,เบตง ,ปัตตานี, นราธิวาส, ตากใบ, สุไหงโกลก และหาดใหญ่ รวมถึงเป้าหมายอ่อนแอที่มีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่เป็นเจ้า หน้าที่รัฐ แต่ทันทีที่กระแสการชะลอการเจรจาสันติภาพไม่มีความคืบหน้า ทำให้ภาพความรุนแรงในรูปแบบต่างๆเริ่มปรากฎขึ้นอีกครั้ง

ภาวะความ รุนแรงช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแห่งเดือนเมษายน ยังเห็นได้ว่าการใช้ความรุนแรงปัญหาชายแดนใต้ยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ยิ่งการเจรจาสันติภาพหยุดชะงัก การใช้ความรุนแรงก็ยังไม่หยุด ประเด็นดังกล่าว จึงยังต้องเดินหน้าในการหยุดการใช้ความรุนแรงชายแดนใต้ให้ได้

ยังคงหวังว่าความสงบสันติจากชายแดนใต้ต้องกลับคืนกลับมา!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม