วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การก่อเหตุรุนแรงเดือนรอมฎอนได้ผลบุญทวีคูณจริงหรือ?


นักรัก ปัตตานี

            วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29มิถุนายน พ.ศ.2557 เดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ถือได้ว่าเป็นบุญใหญ่แห่งปีที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจกัน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแสวงโอกาสในห้วงเดือนแห่งศรัทธา ได้โฆษณาชวนเชื่อ และปลุกระดมให้มวลสมาชิกและแนวร่วมผู้หลงผิดเข้าใจว่า “การก่อเหตุในเดือนรอมฎอนจะได้บุญมากเป็นพิเศษ” โดยเฉพาะการลงมือก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐ



              ย้อนรอยไปดูสถานการณ์การก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนในรอบ 9 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีการก่อเหตุค่อนข้างมาก ลักษณะการก่อเหตุจะเน้นหนักยิงรายบุคคล ตามด้วยลอบวางระเบิด ลอบวางเพลิง และเหตุก่อกวน เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อปี 56 ได้มีกระบวนการพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลไทยกับฝ่าย BRN โดยได้มีข้อตกลงที่จะลดเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน ซึ่งในห้วงแรกของเดือนแห่งการถือศีลอดการก่อเหตุได้ลดลงจนหลายฝ่ายต่างออกมาชื่นชมว่ากระบวนการพูดคุยได้ผล แต่เหตุการณ์ได้พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อมีการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในห้วง 10 วันสุดท้ายก่อนจะละศีลอด



เหตุความรุนแรงเดือนรอมฏอน ปี 56 ทั้งที่มีข้อตกลงลดการก่อเหตุ

           วิเคราะห์ได้ว่า BRN ไม่สามารถควบคุมสั่งการสมาชิกระดับปฏิบัติการที่ทำการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ได้ทุกกลุ่ม เนื่องจากมีการแตกออกไปหลายกลุ่มด้วยกัน บางกลุ่มไม่เห็นด้วยในแนวทางกระบวนการสันติภาพที่กำลังมีการพูดคุยกันอยู่ ซึ่งในภายหลังขบวนการ BRN ได้ออกมากล่าวอ้างผ่านสื่อกล่าวหาว่ารัฐบาลไทยทำผิดข้อตกลงในการลดเหตุรุนแรง ข่าวบางกระแสได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเดือนรอมฎอนเกิดจากการกระทำของกลุ่ม PULO ที่ต้องการแสดงศักยภาพเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ หลังจากนั้นได้มีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไปในทิศทางเดียวกัน กลุ่ม PULO ได้มีที่นั่งบนโต๊ะเจรจาร่วมกับขบวนการBRN เพื่อทำการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลไทย



เหตุจูงใจการก่อเหตุเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอด
            เดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดเป็นเดือนแห่งประเสริฐของมวลพี่น้องมุสลิมที่ประกอบศาสนกิจ เป็นเดือนแห่งบุญ เป็นเดือนแห่งการมุ่งทำความดี เหตุไฉนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่ละเว้นในการก่อเหตุ สืบเนื่องจากได้มีการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา และมีความเชื่อแบบผิดๆ โดยระดับแกนนำขบวนการ BRN ได้ปลุกระดมทางความเชื่อทางความคิดให้กับสมาชิกและแนวร่วม เข้าใจว่าการก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอน เป็นการต่อสู้เพื่อแผ่นดินมาตุภูมิปาตานีดารุสลาม เป็นการทำสงครามต่อผู้รุกรานหรือสงครามญีฮาด ซึ่งจะได้รับผลบุญทวีคูณสองเท่า

             การอ้างให้สมาชิกและแนวร่วมทำสงครามญีฮาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ไม่ถูกต้อง การที่จะกำหนดว่าเป็นสงครามญีฮาดได้นั้น จะต้องเป็นดินแดนดารุลอิสลาม หรือดารุสสลาม ดินแดนของชนชาวอิสลามปกครองด้วยศาสนาอิสลาม เมื่อคนต่างศาสนามารุกราน พี่น้องร่วมชาติอิสลามจะต้องต่อสู้ปกป้องประเทศและปกป้องศาสนา หรือเป็นดินแดนดารุลฮัรบี คือดินแดนที่เมื่อก่อนเป็นประเทศที่ปกครองด้วยคนอิสลามแล้วถูกคนนอกศาสนารุกราน ทุกคนต้องเข้าร่วมต่อสู้เป็นสงครามญีฮาด แต่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีแต่การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหลอกลวงให้สมาชิกและแนวร่วมผู้หลงผิดทำการก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอน ว่าจะได้รับบุญทวีคูณ



ใครได้ ใครเสีย หากยังมีการก่อเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน


                สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศในขณะนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจจะนำมาเป็นประเด็นในการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ในห้วงเดือนรอมฎอน เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้ทหารจะมีอำนาจในการปกครองประเทศก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟใต้ได้ อีกทั้งยังมีความต้องการเรียกความเชื่อมั่นจากสมาชิกแนวร่วม มีการสร้างแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยทำการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หรือนักการเมืองระดับชาติที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเดือนแห่งการถือศีลอด

            ในส่วนของปัญหาภัยแทรกซ้อน ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน และสินค้าหลบหนีภาษี ยังคงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนหรือเป็นแหล่งเงินทุน ท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในการก่อเหตุอยู่ต่อไป และที่สำคัญในห้วงเดือนรอมฎอน พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ไปทำมาหากิน ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ จะเดินทางกลับภูมิลำเนามาประกอบศาสนกิจกับครอบครัวจำนวนมาก กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาศัยอยู่ยังประเทศเพื่อนบ้านอาจจะอาศัยจังหวะและโอกาสนี้ในการแฝงตัว แทรกซึมเข้ามาทำการก่อเหตุป่วนเมือง

              หน่วยงานความมั่นคงยังคงให้ความสำคัญกับบทบาทผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด จากการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาของกลุ่มขบวนการ มีการหารือหาทางออกของปัญหาร่วมกัน และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมาได้มีพิธีละหมาดฮายัต ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี โดยมีผู้นำศาสนาและพี่น้องประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เนื้อหาสาระสำคัญให้ทุกคนเห็นว่า “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งความดีงาม”

             อย่าให้กลุ่มบุคคลที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือมาทำลายศาสนาอิสลาม เดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งประเสริฐ เดือนแห่งการทำความดี อย่าให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาทำลายบรรยากาศเดือนแห่งบุญ ที่มีการเข่นฆ่าผู้คนล้มตายกันอีกเลย พี่น้องชาวปาตานีอย่าไปหลงกับคำโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริงจะต้องรู้เท่าทัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากพี่น้องชาวปาตานีอยากเห็นสันติสุข ความสงบที่แท้จริงปราศจากเสียงปืนและเสียงระเบิด แค่ระยะเวลาหนึ่งเดือนซึ่งพี่น้องมุสลิมถือศีลอด ร่วมกันต่อต้านไม่เอาความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกระทำต่อผู้บริสุทธิ์แบบสุดโต่ง ในเมื่อประชาชนร่วมมือกัน เป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องดูแลความผิดปกติ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก็คงไม่กล้าที่จะลงมือทำการก่อเหตุ หากทำไปมีแต่เสียกับเสียไม่คุ้มทุนที่ต้องเสียมวลชนไปให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ..คอยติดตามรอมฎอนปี 57 ปีนี้ เหตุจะลดหรือจะเพิ่มกว่าเดือนรอมฎอนปีที่ผ่านๆ มาหรือไม่ อย่างไร มาดูกัน...

@@@@@@@@@@@@@

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม