วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สื่อทางเลือก สื่ออิสระ แนวร่วมโจรใต้


นักรัก ปัตตานี

               การพัฒนาที่ทันสมัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ส่งผลให้สื่อสังคมออนไลน์ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการกระจายข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ผลงานของฝ่ายกองกำลังทหาร และฝ่ายการเมืองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น ปัจจุบันพบว่ามีการขยายตัวแบบก้าวกระโดดของแนวร่วมมุสลิมในพื้นที่ ได้เข้าไปเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับรูปแบบการเคลื่อนไหวในเครือข่ายสังคมออนไลน์พบว่า ส่วนใหญ่ เน้นการโพสต์ภาพ ข้อความ มีการแบ่งปันข้อมูลหรือเชื่อมโยงข้อมูล ในลักษณะยั่วยุ สร้างขวัญ กำลังใจ หรือกระตุ้นให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลงมือก่อเหตุทำลายเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ของหน่วยงานภาครัฐ เป้าหมายอ่อนแอ การออกมาใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความ กล่าวหาโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ สร้างความแตกแยกระหว่างไทยพุทธและมุสลิม รวมทั้งมีการข่มขู่จะสังหารเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติการณ์หมิ่นศาสนา สอดรับกับการการดำเนินงานของสื่อทางเลือก สื่ออิสระ ที่นำเสนอข่าวในลักษณะตอกย้ำ สร้างความเกลียดชังทางด้านเชื้อชาติ และศาสนา



            แนวโน้มที่เป็นไปได้ว่า แนวร่วมกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจัดหาสมาชิก และการเผยแพร่แนวคิดรัฐเอกราชปาตานี เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการจัดการฝึกอบรมด้านการผลิตสื่อในระดับสถาบันปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เพื่อช่วยทำหน้าที่สื่อชาวบ้านมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขอการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม เฉพาะกลุ่ม PerMAS มีการติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เข้าไปอบรมการผลิตและการเผยแพร่สื่อ โดยที่ไม่สามารถตรวจสอบผู้ใช้ได้ เพื่อใช้เป็นช่องทางติดต่อนัดหมาย จัดประชุม เผยแพร่ภาพ และเฝ้าระวังแจ้งเตือน ใช้ในการปลุกระดมมวลชน กรณีเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมแนวร่วม สมาชิกในเครือข่าย ขณะเดียวกันจะเข้าไปติดตามรวบรวมข้อมูล ข้อความ ภาพ หรือเสียงในเพจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ หรือประชาชนที่คิดต่าง และเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เพื่อแสวงประโยชน์สร้างความแตกแยก ความหวาดระแวงทางด้านเชื้อชาติ และศาสนาของคนในสังคม ชุมชน



              เว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อทางเลือก สื่ออิสระ ที่มีบทบาทเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริง ปลุกระดมทางความคิด ความเชื่อของแนวร่วมเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้แก่ เว็บไซต์ puloinfo.net เว็บไซต์khabarfathani.blogspot.com เว็บไซต์ SUARA-AMPERA.COM เว็บไซต์kompleksanakyatim.blogspot.com และอีกหลายเว็บไซต์ที่ไม่ได้ทำการกล่าวถึง



             ส่วนในเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นขาประจำกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ และบิดเบือนข้อมูลแบบสุดโต่ง ได้แก่ เพจ:Patani Peace สันติภาพปาตานี, เพจ:Patani Darussalam News ร่วมทั้งแนวร่วมผู้ที่ใช้ Facebook เพื่อใช้ในการแชร์ต่อไปยังกลุ่มเพื่อนอีกหลายไอดีด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีสื่อสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน ที่เป็นกระบอกเสียงในการออกอากาศ ในบางครั้งมีการถ่ายทอดสัญญาณเสียงสดจากเวทีเสวนาไปยังสถานีวิทยุในเครือข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ สะเดา เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย สุดท้ายสื่อที่ได้มีการเคลื่อนไหวและมีการผลิตสื่อมัลติมีเดีย รวมทั้งสื่อทุกชนิดในการสนับสนุนขบวนการ คือ สำนักสื่อWartani ในห้วงที่ผ่านมาได้สร้างกระแสในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของกลุ่มเป้าหมายและได้สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่พอสมควร



             กลุ่มขบวนการได้ใช้ประโยชน์ของสื่อทางเลือก และสื่ออิสระในการโฆษณาชวนเชื่อมุ่งประโยชน์ของตนเพียงฝ่ายเดียวมีการโน้มน้าวความคิดและจูงใจมวลชนด้วยวิธีการต่างๆ ให้เห็นดีเห็นงาม หรือให้เป็นปฏิปักษ์กับสิ่งที่ต้องการโดยอำพรางข้อเท็จจริง กลบเกลื่อนสิ่งเลวร้ายให้กลายเป็นดี มีความพยายามปิดบังซ่อนเร้นผู้กระทำหรือต้นตอของข่าวสาร มีการปรักปรำใส่ร้ายป้ายสีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือฝ่ายตรงข้ามเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายตน อีกทั้งได้มีการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การจัดตั้งกลุ่มขึ้นมารองรับเพื่อทำการตอบโต้ บิดเบือน สร้างกระแส และเน้นงานเชิงรุกต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐทุกรูปแบบ



              ธรรมชาติของการใช้งานสื่อในเครือข่ายสังคมออนไลน์ คือ ยากต่อการปิดกั้น ขัดขวาง เนื่องจากผู้ใช้สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ภายในเวลาที่รวดเร็ว ไม่เกิน 5 นาที การสกัดกั้น ยับยั้ง เครือข่ายนักรบไซเบอร์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ควรใช้วิธีการเฝ้าระวังป้องกัน การพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และการรวบรวมข้อมูลที่เป็นความผิด เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วจึงเข้าจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ควบคู่กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ที่เข้าถึงเป้าหมายในทุกระดับ ทั้งที่อยู่ในโลกไซเบอร์ และโลกความจริง ให้ทราบถึงมาตรการและความผิดที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้สื่อผิดกฎหมาย เพื่อป้องปรามไม่ให้บุคคล กลุ่มบุคคลยุติการนำเสนอข้อมูลที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กับการแก้ไขปัญหาในด้านอื่นๆ เพื่อนำไปสู่สันติสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

***********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม