วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เมื่อชุมชนสันติธรรม กลายเป็นแหล่งผลิตระเบิดโจรใต้



โดย ‘แบดิง โกตาบารู’

         กลายเป็นข่าวใหญ่โตตามสื่อแขนงต่างๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น“บ้านตันหยงเปาว์”เจอฐานปฏิบัติการกลุ่ม ผกร.ในป่าโกงกาง พบใช้กระท่อมเป็นแหล่งผลิตระเบิด ยึดอาวุธปืน กระสุน และอุปกรณ์ผลิตระเบิดเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจับกุมโจรใต้ฟาตอนีได้หนึ่งคน อีก 5 คนไหวตัวทันหลบหนีไปได้

        ส่วนผู้ที่หลบหนีพบประวัติมีความเชื่อมโยงในการก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด อาทิเช่น ทำการก่อเหตุระเบิดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต

        “บ้านตันหยงเปาว์” ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นหมู่บ้านนำร่อง 1 ใน 4 หมู่บ้านของ LEMPAR ในการจัดตั้งเป็นเครือข่ายชุมชนสันติธรรม (Kampong Damai) โดยมี นายตูแวตานียา ตูแวแมแง ผู้อำนวยการสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา เป็นผู้ขับเคลื่อน โดยอ้างว่า เพื่อการสร้างสันติภาพกับประชาชนในพื้นที่ หรือเพื่อเป็นการบังหน้า หรือเป็นการเกื้อหนุนให้กลุ่มโจรใต้ใช้เป็นแหล่งกบดานในการผลิตวัตถุระเบิด แล้วอีก 3 หมู่บ้านที่เหลือจะเป็นเหมือนดั่ง“บ้านตันหยงเปาว์”หรือเปล่าชักสงสัย!!..เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ช่วยตรวจสอบหน่อย!!!



         โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น “ตามแผนยุทธการตันหยงเปาว์” ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้เกิดการยิงปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงขึ้น ผลการปะทะเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุได้ 1 คน คือ นายซาบาหรี เจะอาลี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/3 หมู่ที่ 4 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งบุคคลต้องสงสัยดังกล่าว คาดว่าเป็นกลุ่มของนายเสรี แวมามุ ผู้ต้องหามือระเบิดที่ก่อเหตุในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้


        ส่วนผลการดำเนินกรรมวิธีซักถาม เบื้องต้น นายซาบาหรี เจะอาลี ให้การยอมรับว่าเข้าร่วมขบวนการโดยการชักชวนจาก นายเมาลานา สาเมาะ มีหน้าที่ประกอบระเบิดร่วมกับ นายอิสยะสะ หะแย โดยระเบิดที่ตรวจพบ เป็นถังแก๊ส 15 กิโล ที่ประกอบเสร็จแล้ว และเตรียมที่จะประกอบอีก 1 ลูก เป็นถังแก๊ส 15 กิโลนั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะนำไปก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ส่วนบุคคลที่หลบหนีไปได้มี 5 คน คือ 
  1. นายเมาลานา สาเมาะ 
  2. นายจำเริญ อูมาสะ 
  3. นายอิสยาซะห์ หะแย หรือยะห์ หรือฟุกร 
  4. นายฟัดลาน เสาะหมาน และ
  5. นายอันนุงวา กาซอ 
       โดยทุกคนจะมีปืนพกสั้น และปืนยาว 4 กระบอก คือ อาวุธปืน M 16 จำนวน 1กระบอก อาวุธปืน AK-47 จำนวน 1 กระบอก และปืนลูกซอง จำนวน 2กระบอก





         นอกจากนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบ พบกระท่อมที่พัก 3 หลัง เรือ 3 ลำ อาวุธปืนพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง ดินระเบิด และถังก๊าซที่ประกอบระเบิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 2 ถัง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกระท่อมที่พัก 3 หลัง และเรือ 3 ลำ พบอาวุธปืนพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง พบดินระเบิด และถังก๊าซที่ประกอบระเบิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์ในการผลิตระเบิด น้ำมันที่ใช้ผสมกับปุ๋ยยูเรีย ดินระเบิดแอมโฟผสม ball baring ดินระเบิด จำนวน 1 ลำเรือ เหล็กเส้นตัดเป็นสะเก็ดระเบิด 1 ลำเรือ ถังแก๊สหุงต้มขนาดใหญ่ มีห้องประชุมวางแผน และอุปกรณ์การดำรงชีพเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าฐานปฏิบัติการแห่งนี้ตั้งมาประมาณไม่น้อยว่า 2 ปีแล้ว

         ซึ่งถ้าหากกระท่อมรังโจรใต้ท่ามกลางป่าโกงกางแห่งนี้ ตั้งมาไม่ต่ำกว่า 2 ปีจริง ลองคิดเล่นๆ ดูว่าจำนวนระเบิดที่มีการประกอบไปจากที่นี่ สมาชิกโจรใต้ฟาตอนีได้นำไปทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่?

         ฐานปฏิบัติการของโจรใต้บ้านตันหยงเปาว์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.หนองจิก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา จ.สงขลา ส่งผลให้ประชาชนปาตานีในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้ ยังไม่นับรวมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อื่นๆ ใน จชต. และนอกพื้นที่อย่างเช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต
หากเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชน จนกระทั่งนำไปสู่การปิดล้อมเกิดการปะทะและจับกุมตัว พร้อมทั้งทลายแหล่งผลิตระเบิดของกลุ่ม ผกร.ได้เป็นผลสำเร็จในคราวนี้ 

        จะเกิดอะไรขึ้น!! โจรใต้ฟาตอนี กลุ่มนี้ก็ยังคงเดินหน้าผลิตระเบิดแสวงเครื่องทำลายชีวิตประชาชนอยู่ต่อไป ศพแล้วศพเล่าโดยไม่สำนึกและกลัวเกรงต่อบาป มุ่งทำลายล้างนิยมความรุนแรงเพียงแต่ตอบสนองตัณหาความต้องการของแกนนำขบวนการ…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม