เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 1 เม.ย. 54 ร.ต.ท.ศรีธนนท์ สำลี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตั้งด่านลอยปล้นและทำร้ายชาวบ้านบนถนนสายรือเสาะ-จะกว๊ะ บ้านสาวอ หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางจินตนา ตินสั้น อายุ 42 ปี ชาวบ้าน อ.รือเสาะ อยู่ในสภาพถูกทุบตีจนใบหน้าบวมปูดและเขียวช้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.สาวอ กำลังปลอบโยนเพื่อให้หายความหวาดกลัว พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหาสามีที่ถูกคนร้ายรุมทำร้ายและได้พาตัวหายไปกับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนส์ ทะเบียน ผข-3510 สงขลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนางจินตนา ส่งรักษาที่ รพ.รือเสาะ
ต่อมา พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ได้วิทยุประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดจับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พร้อมทั้งนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตามหาตัวสามีของนางจินตนา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบร่างของนายพิชัย ตินสั้น อายุ 54 ปี สามีของนางจินตนา นอนสลบอยู่ภายในป่ารกทึบซึ่งห่างจากโรงไม้แปรรูปนราพาราวู๊ด หมู่ 3 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ประมาณ 50 เมตร ซึ่งอยู่ในสภาพศรีษะ ใบหน้า ถูกทุบตีจนบวมปูดและมีเลือดไหล เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งรักษา รพ.รือเสาะ ซึ่งทั้งคู่อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยัง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนนางจินตนา ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์กระบะออกจากบ้าน โดยมีสามีเป็นคนขับและพกเงินสดประมาณ 1 แสนบาท เพื่อเดินทางไปซื้ออาหารสดที่ตลาดสดเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา มาจำหน่ายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลรือเสาะ โดยมักจะเดินทางไปซื้อของมาจำหน่ายเป็นประจำทุกวัน และในขณะที่สามีขับรถยนต์กระบะถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารถืออาวุธปืนสงครามครบมือ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอยและได้เรียกสามีให้จอดรถเพื่อขอตรวจค้น เมื่อสามีจอดรถยนต์กระบะ กลุ่มคนร้ายได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ใช้วาจาที่หยาบคายพร้อมทั้งเรียกให้สามีและตนลงจากรถ จากนั้นคนร้ายได้ใช้บั้นท้ายอาวุธปืนสงครามทุบไปที่ศรีษะและใบหน้าของสามีและตน จนล้มทั้งยืนไปนอนกองอยู่ที่พื้นถนน แล้วคนร้ายได้พยุงร่างของสามีและตนไปไว้ที่กระบะหลัง แล้วคนร้ายทั้งหมดได้เก็บอุปกรณ์ในการตั้งด่านลอยขึ้นรถยนต์ของสามี ขับไปตามถนนมุ่งสู่พื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา ก่อนที่จะจอดรถทิ้งร่างของตนไว้ริมถนน และนำร่างของสามีไปทิ้งไว้อีกที่หนึ่ง แล้วขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปพร้อมกับเงินสดจำนวน 1 แสนบาทที่เก็บไว้ในลิ้นชักหน้าคอนโทรลรถ
เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 1 เม.ย. 54 พ.ต.ท.มาตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ขบวนรถยนต์ของทหาร สังกัด ร้อย ร.1232 ฉก.นราธิวาส 35 บนถนนสายสุไหงโก-ลก-ตากใบ บ้านปูโป๊ะ หมู่ 4 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุและรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิไททัน จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพตัวถังของรถทั้ง 2 คันถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดจำนวน 2 หลุมอยู่ห่างจากรถยนต์กระบะประมาณ 5 เมตร โดยหลุมแรกลึก 50 ซ.ม. กว้าง 100 ซ.ม. ส่วนหลุมที่สองอยู่บริเวณเกาะกลางถนนเจ้าหน้าที่พบหลุมลึก 80 ซ.ม. กว้าง 1 เมตร และมีซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิคหนัก 20 ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 2 นาย ถูกนำตัวส่ง รพ.สุไหงโก-ลก ไปก่อหน้าแล้วทราบชื่อคือ 1.ส.อ.พิทักษ์ มาตา อายุ 26 ปี 2.พลฯสุพัฒน์ เห่มเงิน อายุ 23 ปี ซึ่งทั้ง 2 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขน ลำตัว อาการสาหัส แพทย์ต้องนำตัวส่งรักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ และนอกจากนี้ยังมีคนงานของกรมชลประทานที่ขับรถตามหลังมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 ราย
และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวน 2 ลูกซึ่งเป็นชนิดและขนาดเดียวกันกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องพลังน้ำแรงดันสูงในการยิงทำลายระเบิดทั้ง 2 ลูกทิ้ง และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม.79 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 5 นัด ของคนร้ายที่ทำตกหล่นไว้ห่างจากที่เกิดเหตุ 100 เมตร จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ขบวนรถยนต์บัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 35 รวม 2 คัน และรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ขบวนรถบัส อยู่ต้นขบวนและท้ายขบวน แล่นไปตามถนนเพื่อนำกำลังจากฐานที่ตั้งอยู่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ไปส่งที่ฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายถืออาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.79 ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุที่มี ส.อ.พิทักษ์ เป็นพลขับ และมี พลฯสุพัฒน์ นั่งเบาะหน้าคู่กันมา ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน จำนวน 5-6 นัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนี จากนั้นคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ดักซุ่มอยู่บริเวณป่ารกทึบริมถนน ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่นำไปแขวนไว้บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้น ส.อ.พิทักษ์ จึงได้หักพวงมาลัยหลบไปที่บริเวณเกาะกลางถนน จากนั้นคนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดลูกที่ 2 ที่นำไปฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ส.อ.พิทักษ์และพลฯสุพัฒน์ ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และคนงานของชลประทานที่นั่งรถยนต์กระบะตามหลังมาถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน และก่อนที่คนร้ายชุดแรกจะขี่รถ จยย.หลบหนีไป ได้ทำอาวุธปืนเอ็ม.79 พร้อมกระสุนหล่นไว้บนถนนดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน โดยอาศัยช่องโหว่ในระหว่างเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายกำลังพลในการก่อเหตุ แต่โชคดีที่ระเบิดอีก 2 ลูกไม่ทำงาน จึงทำให้ทหารทั้ง 2 นายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
โจรใต้ยิงถล่มรถนายอำเภอรือเสาะรถพรุนหวิดดับ
ก่อนยิงสวนโจรหนีกระเจิงที่ อ.รือเสาะ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มี.ค.54 พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงรถของนายวัชรศักดิ์ จุลาญานนท์ นายอำเภอรือเสาะ ขณะนั่งรถยนต์กระบะเพื่อเดินทางกลับที่ว่าการ อ.รือเสาะ หลังจากไปร่วมงานเมาลิด เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านบูเก๊ะนากอ หมู่ 2 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ท.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รอง ผกก.ปป.สภ.รือเสาะ
พบรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌข-1470 กทม. ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของนายอำเภอรือเสาะ จอดเสียหลักอยู่ริมถนน อยู่ในสภาพกระจกหน้า กระจกข้างและประตูด้านคนขับมีร่องรอยถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหายและเป็นรูพรุน ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม.16 และ อา.ก้า.ตกอยู่ริมป่ารกทึบจำนวน 2 จุดใหญ่ รวมกว่า 40 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งออกจากบ้านพัก โดยมีนายหฤษฎ์ มาหามะ ปลัดอาวุโส และ อส.รวมอีก 4 นาย เพื่อเดินทางไปร่วมงานเมาลิดและงานเข้าสุนัตที่หมู่บ้านพงยือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จได้นั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับที่ว่าการอำเภอรือเสาะ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่ดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และ อา.ก้า.ยิงถล่มใส่รถยนต์ที่ตนนั่งมา จึงได้ตะโกนให้พลขับหยุดรถ และวิ่งออกจากรถเพื่อหาที่กำบัง พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากเป็นละลอก ๆ หลังจากนั้นจึงได้วิทยุประสานไปยัง พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ผกก.สภ.รือเสาะ เพื่อขอสนับสนุนกำลังเข้าเสริม และเมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นกำลังสนับสนุนจึงได้ล่าถอยไป
ล่าสุด พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ผกก.สภ.รือเสาะ ได้จัดชุดกำลังไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปยังเทือกเขาเมาะแต หลังหมู่บ้านจุดเกิดเหตุและได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นละลอก ๆ และล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน ที่อยู่ในละแวกดังกล่าวไปสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่
โจรใต้ยิงรถบัสทหารสับเปลี่ยนกำลังพลเจ็บ 7 นาย ที่ อ.บาเจาะ
http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2081:-7-&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 54 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน ใช้รถยนต์กระบะจำนวน 2 คันเป็นพาหนะ ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงรถบัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บนถนนเพชรเกษม สายปัตตานี-นราธิวาส บ้านจำปากอ หมู่ 1 ต. บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ทำให้รถยนต์บัสได้รับความเสียหายและมีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายนาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บัสจำนวน 10 คัน จอดอยู่ริมถนน และมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งยืนอยู่ที่รถบัสคันหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพกระจกด้านตัวถังด้านซ้ายของคนขับ มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน เจ้าหน้าที่จึงได้ขึ้นไปตรวจสอบพบคราบเลือดเป็นจำนวนมากตกกระจายอยู่บนเบาะนั่งและที่บริเวณพื้นทางเดิน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษา รพ.บาเจาะ ไปก่อนหน้าแล้ว
ประกอบด้วย 1.เรือโทชำนาญ แสวงธรรม 2.พ.จ.อ.สิงหา แก้วคำชาติ 3.พ.จ.อ.เฉลิมพล ปันยารชุน 4.จ.อ.รุ่งนิรันดร์ มหาโภค 5.พลฯกิตติพงศ์ เข็มอุทา 6.พลฯมนตรี นามลีหาญ และ 7.พลฯอดิเรก หอมหวน ซึ่งทั้ง 7 นายถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณขาซ้ายและบั่นเอวอาการสาหัส แพทย์ต้องนำส่งตัวรักษาต่อยัง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 32 จำนวน 400 นาย นั่งรถยนต์บัสจำนวน 10 คัน เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามวาระที่ อ.บาเจาะ และในระหว่างที่รถบัสทหารกำลังขับตามกันมาโดยมีรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 32 วิ่งนำหน้าขบวนและปิดท้ายขบวน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน แยกย้ายกันนั่งรถยนต์กระบะสีแดงและสีขาวพยายามขับแซงขบวน เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งกระบะหลังทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามอ็ม.16 และ อา.ก้า. ใส่รถยนต์บัสทหารคันที่ 2 จำนวนกว่า 30 นัด แล้วรีบขับรถยนต์หลบหนี จนทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 7 นาย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากจุดเกิดเหตุดังกล่าวกลุ่มคนร้ายมักลอบก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายนาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น