ปัตตานี - คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่ฐานทหารหน่วยพัฒนาสันติที่ 43-12 จำนวน 2 ลูก ทรัพย์สินจำนวนหนึ่งเสียหายแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ คาดเป็นการตอบโต้หลังถูกกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงเย็นวันเดียวกันที่มีการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก เมื่อกลางดึกวานนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ฐานหน่วยพัฒนาสันติที่ 43-12 ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบหลุมระเบิดชนิดเอ็ม 79 จำนวน 2 หลุม ภายในบริเวณฐาน แรงระเบิดยังทำให้ที่พักของทหาร และต้นไม้ที่อยู่ภายในบริเวณฐานได้รับความเสียหาย แต่ยังโชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ทหารชุดพัฒนาสันติที่ 43-12 ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณฐาน ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบเข้ามายังบริเวณด้านหลังฐาน จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงใส่เข้าฐานจำนวน 2 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องรีบหลบเข้าที่กำบัง ก่อนที่จะใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ หลังสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากฐานประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าพบเพียงรอยเท้าของกลุ่มคนร้ายส่วนคนร้ายได้ล่าถอยแหลบหนีไปในความมืด ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อต้องการที่จะตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่อย่างหนัก ประกอบกับเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคงทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างหนักในพื้นที่ ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก หลังจากมีสายรายงานว่ามีกลุ่มแนวร่วมมาหลบซ่อนตัวอยู่ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถกดดันกลุ่มแนวร่วมได้
นราธิวาส - โจรใต้ซุ่มยิงทหารพรานชุดพัฒนาสันติ 46 ขณะเดินทางกลับฐานปฏิบัติการ โชคดีไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับาดเจ็บ วันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 16.00 น. ร.ต.อ. ศรเพชร ตันติอมรชัยุล ร้อยเวรประจำสถานีตำรวจภูธรระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสครามกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติ กรมทหารพรานที่ 46 โดยหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ ม.5 บ.ลูโบ๊ะกาเย๊าะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งได้ประสานขอกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์ลักฐาน เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติ กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 6 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ 3 คันอยู่บริเวณดังกล่าว สอบสวนทราบว่าเจ้าหน้าทั้ง 6 ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อบต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และขณะที่เดินทางกลับฐานเมื่อมาถึงจุดดังกล่าวได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มยิงอยู่ข้างทาง จึงทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จาการตรจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอดกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอก ซึ่งได้รวบรวมเป็นหลักฐาน ส่วนกลุ่มคนร้ายเจ้าหน้าที่คาดยังหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น
พบถังข้าวสารฝังดิน เสบียงโจรมุสลิม
จนท.ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ตรวจค้นพบถังพลาสติกบรรจุข้าวสารของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ฝังซุกซ่อนไว้ใต้ดิน ที่เนินเขาบ้านตะโล๊ะเว จังหวัดยะลา คาดเป็นเสบียงโจรใต้...
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จากการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ร่วมกับกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ได้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมาย ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส บริเวณเนินเขา บ.ตะโล๊ะเว ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ผลกการตรวจค้นบริเวณสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบถังพลาสติกสีฟ้า ขนาด 60 ลิตร จำนวน 1 ใบ ภายในบรรจุข้าวสาร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ฝังไว้ใต้ดิน ซึ่งคาดว่า เป็นเสบียงของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ซุกซ่อนไว้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมวัตถุพยานดังกล่าวส่งให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์แล้วนำไปขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ได้กล่าวเพิ่มเติม ชี้แจงกรณีคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และปล้นทรัพย์ชาวบ้านด้วยว่า จากกรณีเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย.54 ได้มีคนร้ายประมาณ 7 - 8 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธปืนสงครามทำทีตั้งด่านตรวจ และได้ปล้นรถยนต์กระบะและเงินสดของนายพิชัย และนางจินตนา ปิ้นสั้น ราษฏร ตำบล/อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ขณะเดินทางจะไปจ่ายตลาดในตัวเมืองยะลา
เหตุเกิดบนถนนหมายเลข 4060 สายรือเสาะ-ยะลา โดยคนร้ายใช้วิธีโบกรถให้จอด แล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับยึดทรัพย์สินไปและใช้พานท้ายอาวุธปืนตีนายพิชัยฯ ได้รับบาดเจ็บ ส่วน นางจินตนาฯ สามารถวิ่งหนีออกไปได้และปลอดภัย โดยทรัพย์สินที่ถูกยึดไป ประกอบด้วยเงินสด 100,000 บาท พร้อมบัตร ATM และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด บนเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะหลบหนี ทั้งนี้จะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมค้นบ้านคนร้ายคดีความมั่นคง แต่เจ้าตัวคว้าปืนยิงเจ้าหน้าที่หวังเปิดทางหนี ถูกยิงสวนกลับจนเสียชีวิตคาที่ พบเป็นเพื่อนแกนนำระดับอาร์เคเคหลายคน ... ปิดล้อมรังโจรอิหม่าม ปะทะสนั่นป่าโจรชั่วม่องเท่งไป 1 เจ้าหน้าที่ปลดภัย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 เม.ย. พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภู่กาบพลอย ผกก.หัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญประสานกับ พ.ต.อ.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย ผกก.สภ.รามัน พ.ต.ท.กฤษณะพงษ์ แพทย์สิทธิ์ สว.สส. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นย่านที่ทำการไปรษณีย์รามัน เขตเทศบาลตำบลกายูบอเกาะ เนื่องจากสืบทราบว่า นายอัสมัน เจ๊ะเล็ง อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 5 บ้านกำปงบาโงย ต.อาซ่อง อ.รามัน มีหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงโดยได้ร่วมกับพวกลอบวางระเบิดซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 12 เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนายในเขต อ.รามัน เมื่อต้นปี 2552 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอัสมันได้แอบหลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่กับเพื่อนที่บ้านเลขที่ 104 ถนนทั่วไป ต.กายูบอเกาะ พร้อมกันนี้ฝ่ายตำรวจได้ประสานไปยัง พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน และ พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา12 สนธิกำลังหลายฝ่ายร่วม 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นในละแวกดังกล่าวโดยละเอียด ปรากฏว่านายอัสมัน รู้ตัวได้ถืออาวุธปืนพกสั้นวิ่งหลบหนีออกไปทางหลังบ้าน พร้อมกับได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี จนเกิดการปะทะกันขึ้น เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วตลาดเมืองรามันราว 5 นาที จึงเงียบลง
หลังสิ้นเสียงปืนปรากฏว่า นายอัสมัน ถูกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ตามร่างกายจนพรุนนอนตายจมกองเลือด อยู่ข้างห้องน้ำบริเวณหลังบ้านเลขที่ดังกล่าว ในมือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไว้แน่น ตรวจสอบต่อมาพบกระสุนเหลืออยู่ในแม็กกาซีนอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ต่อมาได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านเพื่อนนายอัสมัน มี น.ส.ซาปีน๊ะ มะยีเต๊ะ อายุ 41 ปีเป็นเจ้าของบ้าน ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
น.ส.ซาปีน๊ะ ให้การว่า นายอัสมันเป็นเพื่อนกับนายอิบรอเฮง มะยีเต๊ะ น้องชาย ได้มาขอพักอาศัยอยู่หลายวันแล้ว โดยตนเองไม่ทราบว่านายอัสมันเป็นคนร้ายคดีความมั่นคง สำหรับนายอัสมัน เป็นลูกชายของโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกำปงบาโงย หมู่ 5 ต.อาซ่อง และเป็นพี่ภรรยาของนายบัสรีอาแด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43หมู่ 6 บ้านปูลัย ต.บาลอ อ.รามัน แกนนำอาร์เคเค. ระดับสั่งการ ที่ถูกกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันนี้เข้าปิดล้อมจับกุมตัวได้พร้อมนายมูฮำหมัดซาริ มะดาโอ๊ะอายุ 34 ปี อยู่บ้านบาโงยปูโละ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แกนนำอาร์เคเค.ระดับสั่งการอีกคน เมื่อเช้ามืดวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้นนายอัสมันได้ไหวตัวทันสามารถหลบหนีออกไปได้ก่อน โดยไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนในกลางเมืองรามัน จนกระทั่งกำลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นเกิดยิงปะทะกันขึ้นสนั่นเมืองจนตัวตายดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพราน 41 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารฉก.ยะลา 12 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รามัน เข้าตรวจค้นภายในบริเวณโรงเรียนมะหัฮอิสลามียะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา หรือปอเนาะ ตั้งอยู่หมู่ 3 บ้านบือแนนากอ ต.บาลอ เนื่องจากสืบทราบว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนไว้
ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพบเชื้อปะทุจำนวน 5 ดอก ห่อถุงพลาสติกดำซุกไว้ด้านหลังโรงเรียน นอกจากนั้น ยังพบปุ๋ยยูเรีย จำนวน 5 กระสอบ และถังแก๊สปิกนิกอีกจำนวน2 ถังวางซุกไว้ในบริเวณใกล้เคียง จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมดเพื่อจะได้นำไปตรวจสอบเนื่องจากเชื่อว่า สิ่งของทั้งหมดเป็นของคนร้ายที่แอบนำมาซุกซ่อนไว้และอาจเกี่ยวข้องกับ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ต่อไป |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น