วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

บุกรังโจรมุสลิม 2

ปัตตานี - 
เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายปัตตานีสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่บ้านปากาลือสง ต.ตุยง จับกุมแกนนำระดับสั่งการและมีหมายจับ ป.วิอาญา ข้อหาก่อการร้าย อั่งยี่ซ่องโจร ได้ 2 ราย
       
       วันนี้ (8 เม.ย.) พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43 พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้นำตัว นายเลาะฮิง ยามา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และนายซาการียา สะมะแอ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก มาทำการสอบสวน และตรวจดีเอ็นเอ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่ได้นำกำลังร่วม 3 ฝ่ายทำการปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.6 บ้านปากาลือสง ต.ตุยง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาตามแผนยุทธการณ์จับโจรใต้
    
       ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสายข่าวได้รายงานความเคลื่อนไหวว่ามีกลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาหลบซ้อนตัว และมีการประชุมวางแผนเพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่
       
       ภายหลังการจับกุมพบว่าบุคคลทั้งสองเป็นแกนนำระดับสั่งการและมีหมายจับ ป.วิอาญา ข้อหาก่อการร้าย อั่งยี่ซ่องโจร ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจสอบกับพยานหลักฐานต่างๆ ว่าตรงกับคดีหรือเคยร่วมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ใดบ้าง



http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000043153



ปัตตานี - คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่ฐานทหารหน่วยพัฒนาสันติที่ 43-12 จำนวน 2 ลูก ทรัพย์สินจำนวนหนึ่งเสียหายแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ คาดเป็นการตอบโต้หลังถูกกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงเย็นวันเดียวกันที่มีการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก
      
       เมื่อกลางดึกวานนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ฐานหน่วยพัฒนาสันติที่ 43-12 ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบหลุมระเบิดชนิดเอ็ม 79 จำนวน 2 หลุม ภายในบริเวณฐาน แรงระเบิดยังทำให้ที่พักของทหาร และต้นไม้ที่อยู่ภายในบริเวณฐานได้รับความเสียหาย แต่ยังโชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ
      
       จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ทหารชุดพัฒนาสันติที่ 43-12 ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณฐาน ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบเข้ามายังบริเวณด้านหลังฐาน จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงใส่เข้าฐานจำนวน 2 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องรีบหลบเข้าที่กำบัง ก่อนที่จะใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ หลังสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากฐานประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าพบเพียงรอยเท้าของกลุ่มคนร้ายส่วนคนร้ายได้ล่าถอยแหลบหนีไปในความมืด
      
       ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อต้องการที่จะตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่อย่างหนัก ประกอบกับเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคงทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างหนักในพื้นที่ ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก หลังจากมีสายรายงานว่ามีกลุ่มแนวร่วมมาหลบซ่อนตัวอยู่ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถกดดันกลุ่มแนวร่วมได้


  นราธิวาส - โจรใต้ซุ่มยิงทหารพรานชุดพัฒนาสันติ 46 ขณะเดินทางกลับฐานปฏิบัติการ โชคดีไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับาดเจ็บ
      
       วันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 16.00 น. ร.ต.อ. ศรเพชร ตันติอมรชัยุล ร้อยเวรประจำสถานีตำรวจภูธรระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสครามกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติ กรมทหารพรานที่ 46 โดยหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ ม.5 บ.ลูโบ๊ะกาเย๊าะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งได้ประสานขอกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์ลักฐาน
      
       เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติ กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 6 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ 3 คันอยู่บริเวณดังกล่าว สอบสวนทราบว่าเจ้าหน้าทั้ง 6 ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อบต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และขณะที่เดินทางกลับฐานเมื่อมาถึงจุดดังกล่าวได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มยิงอยู่ข้างทาง จึงทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
      
       จาการตรจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอดกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอก ซึ่งได้รวบรวมเป็นหลักฐาน ส่วนกลุ่มคนร้ายเจ้าหน้าที่คาดยังหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น

พบถังข้าวสารฝังดิน เสบียงโจรมุสลิม

จนท.ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ตรวจค้นพบถังพลาสติกบรรจุข้าวสารของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ฝังซุกซ่อนไว้ใต้ดิน ที่เนินเขาบ้านตะโล๊ะเว จังหวัดยะลา คาดเป็นเสบียงโจรใต้...
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จากการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ร่วมกับกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ได้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมาย ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส บริเวณเนินเขา บ.ตะโล๊ะเว ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ผลกการตรวจค้นบริเวณสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบถังพลาสติกสีฟ้า ขนาด 60 ลิตร จำนวน 1 ใบ ภายในบรรจุข้าวสาร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ฝังไว้ใต้ดิน ซึ่งคาดว่า เป็นเสบียงของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ซุกซ่อนไว้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมวัตถุพยานดังกล่าวส่งให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์แล้วนำไปขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ได้กล่าวเพิ่มเติม ชี้แจงกรณีคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และปล้นทรัพย์ชาวบ้านด้วยว่า จากกรณีเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย.54 ได้มีคนร้ายประมาณ 7 - 8 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธปืนสงครามทำทีตั้งด่านตรวจ และได้ปล้นรถยนต์กระบะและเงินสดของนายพิชัย และนางจินตนา ปิ้นสั้น ราษฏร ตำบล/อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ขณะเดินทางจะไปจ่ายตลาดในตัวเมืองยะลา 

เหตุเกิดบนถนนหมายเลข 4060 สายรือเสาะ-ยะลา โดยคนร้ายใช้วิธีโบกรถให้จอด แล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับยึดทรัพย์สินไปและใช้พานท้ายอาวุธปืนตีนายพิชัยฯ ได้รับบาดเจ็บ ส่วน นางจินตนาฯ สามารถวิ่งหนีออกไปได้และปลอดภัย โดยทรัพย์สินที่ถูกยึดไป ประกอบด้วยเงินสด 100,000 บาท พร้อมบัตร ATM และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด บนเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะหลบหนี ทั้งนี้จะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมค้นบ้านคนร้ายคดีความมั่นคง แต่เจ้าตัวคว้าปืนยิงเจ้าหน้าที่หวังเปิดทางหนี ถูกยิงสวนกลับจนเสียชีวิตคาที่ พบเป็นเพื่อนแกนนำระดับอาร์เคเคหลายคน ...


ปิดล้อมรังโจรอิหม่าม ปะทะสนั่นป่า
โจรชั่วม่องเท่งไป 1 เจ้าหน้าที่ปลดภัย


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 เม.ย. พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภู่กาบพลอย ผกก.หัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญประสานกับ พ.ต.อ.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย ผกก.สภ.รามัน พ.ต.ท.กฤษณะพงษ์ แพทย์สิทธิ์ สว.สส. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นย่านที่ทำการไปรษณีย์รามัน เขตเทศบาลตำบลกายูบอเกาะ เนื่องจากสืบทราบว่า นายอัสมัน เจ๊ะเล็ง อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 5 บ้านกำปงบาโงย ต.อาซ่อง อ.รามัน มีหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงโดยได้ร่วมกับพวกลอบวางระเบิดซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 12 เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนายในเขต อ.รามัน เมื่อต้นปี 2552 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอัสมันได้แอบหลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่กับเพื่อนที่บ้านเลขที่ 104 ถนนทั่วไป ต.กายูบอเกาะ พร้อมกันนี้ฝ่ายตำรวจได้ประสานไปยัง พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน และ พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา12 สนธิกำลังหลายฝ่ายร่วม 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นในละแวกดังกล่าวโดยละเอียด ปรากฏว่านายอัสมัน รู้ตัวได้ถืออาวุธปืนพกสั้นวิ่งหลบหนีออกไปทางหลังบ้าน พร้อมกับได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี จนเกิดการปะทะกันขึ้น เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วตลาดเมืองรามันราว 5 นาที จึงเงียบลง

หลังสิ้นเสียงปืนปรากฏว่า นายอัสมัน ถูกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ตามร่างกายจนพรุนนอนตายจมกองเลือด อยู่ข้างห้องน้ำบริเวณหลังบ้านเลขที่ดังกล่าว ในมือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไว้แน่น ตรวจสอบต่อมาพบกระสุนเหลืออยู่ในแม็กกาซีนอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ต่อมาได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านเพื่อนนายอัสมัน มี น.ส.ซาปีน๊ะ มะยีเต๊ะ อายุ 41 ปีเป็นเจ้าของบ้าน ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด

น.ส.ซาปีน๊ะ ให้การว่า นายอัสมันเป็นเพื่อนกับนายอิบรอเฮง มะยีเต๊ะ น้องชาย ได้มาขอพักอาศัยอยู่หลายวันแล้ว โดยตนเองไม่ทราบว่านายอัสมันเป็นคนร้ายคดีความมั่นคง สำหรับนายอัสมัน เป็นลูกชายของโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกำปงบาโงย หมู่ 5 ต.อาซ่อง และเป็นพี่ภรรยาของนายบัสรีอาแด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43หมู่ 6 บ้านปูลัย ต.บาลอ อ.รามัน แกนนำอาร์เคเค. ระดับสั่งการ ที่ถูกกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันนี้เข้าปิดล้อมจับกุมตัวได้พร้อมนายมูฮำหมัดซาริ มะดาโอ๊ะอายุ 34 ปี อยู่บ้านบาโงยปูโละ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แกนนำอาร์เคเค.ระดับสั่งการอีกคน เมื่อเช้ามืดวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้นนายอัสมันได้ไหวตัวทันสามารถหลบหนีออกไปได้ก่อน โดยไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนในกลางเมืองรามัน จนกระทั่งกำลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นเกิดยิงปะทะกันขึ้นสนั่นเมืองจนตัวตายดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพราน 41 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารฉก.ยะลา 12 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รามัน เข้าตรวจค้นภายในบริเวณโรงเรียนมะหัฮอิสลามียะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา หรือปอเนาะ ตั้งอยู่หมู่ 3 บ้านบือแนนากอ ต.บาลอ เนื่องจากสืบทราบว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนไว้

ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพบเชื้อปะทุจำนวน 5 ดอก ห่อถุงพลาสติกดำซุกไว้ด้านหลังโรงเรียน นอกจากนั้น ยังพบปุ๋ยยูเรีย จำนวน 5 กระสอบ และถังแก๊สปิกนิกอีกจำนวน2 ถังวางซุกไว้ในบริเวณใกล้เคียง จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมดเพื่อจะได้นำไปตรวจสอบเนื่องจากเชื่อว่า สิ่งของทั้งหมดเป็นของคนร้ายที่แอบนำมาซุกซ่อนไว้และอาจเกี่ยวข้องกับ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม