วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เงาแห่งสันติภาพที่เลือนลางกับข้อต่อรองที่มืดมน

เงาแห่งสันติภาพที่เลือนลางกับข้อต่อรองที่มืดมน



            แล้วความเคลือบแคลงใจของหลายฝ่ายเกี่ยวกับบทบาทท่าทีและความจริงใจของผู้แทนขบวนการบีอาร์เอ็นก็ปรากฏชัดและแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงซึ่งแอบแฝงอยู่ภายใต้วาทะกรรม “สันติสนทนา” ด้วยเกมส์รุกที่เหนือชั้นของฮาซัน ตอยิบ และอับดุลการิม คอลิบ ผู้แทนบีอาร์เอ็นซึ่งได้แถลงข้อเสนอ 5 ข้อเผยแพร่ผ่านยูทูบก่อนวันที่จะมีการพูดคุยรอบที่ 3 เพียง 1 วัน แน่นอนว่าด้วยข้อเสนอทั้ง 5 นั้น ได้สร้างกระแสความไม่เห็นด้วยและได้รับการปฏิเสธจากหลายฝ่าย ขณะที่ระดับนโยบายรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจรจาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอย่างชัดเจน


            ตามมาด้วยกระแสวิพากษ์แสดงทัศนะของนักวิชาการอีกหลายท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีบทบาทชี้นำความเป็นไปในพื้นที่ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยเป็นนักวิชาการที่มีเชื้อสายมลายูและส่วนที่อยู่ในสถาบันส่วนกลาง จากน้ำเสียงของท่านเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ได้แสดงทัศนะในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้อย่างมีนัยสำคัญที่น่าสนใจ ภายใต้ความมุ่งหวังเดียวกันคือ ร่วมกันแสวงหาทางออกด้วยแนวทางสันติเพื่อให้ปัญหาที่ยื้ดเยื้อมานานจบลงโดยเร็ว


        ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ เริ่มตั้งแต่ให้ยอมรับประเทศมาเลเซียเป็นคนกลางในการเจรจา (ซึ่งจริงๆ เวลานี้ต้องเรียกว่าพูดคุย) การให้มีพยานจากอาเซียน องค์การความร่วมมืออิสลามหรือเอ็นจีโอเข้ามาร่วมพูดคุย รวมถึงการที่ฝ่ายไทยต้องยอมรับว่าบีอาร์เอ็นไม่ใช่ขบวนการแบ่งแยกแต่เป็นขบวนการปลดปล่อยชาวปาตานีนั้น หากพิจารณาถึงสาระแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่หากทั้งสองฝ่ายมีความจริงใจที่จะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นร่วมกันโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เพราะในทุกเวทีที่มีการเจรจาเพื่อสันติภาพในประเด็นความขัดแย้งใดๆ ก็จำเป็นที่จะต้องมีองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อให้เกิดความพึงพอใจร่วมกันของคู่เจรจา แม้ว่าเจตนาของบีอาร์เอ็นต้องการที่จะยกระดับการพูดคุยเป็นการเจรจาที่สูงขึ้นก็ตาม


         แต่วันนี้กระบวนการสันติภาพยังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยเพื่อสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างฝ่ายไทยและกลุ่มขบวนการยังไม่ถึงขั้นการเจรจา ข้อเสนอข้างต้นจึงยังเป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะหากกระบวนการมีการพัฒนาไปถึงขั้นการเจรจาแล้วข้อเสนอซึ่งวันนี้ยังพิจารณาร่วมกันได้จะกลายเป็น “ข้อต่อรอง” ซึ่งหากถึงเวลานั้นจริงๆ คู่เจรจาและองค์ประกอบข้างต้นจะเป็นองคาพยศสำคัญในการร่วมกันทำให้บรรลุวัตถุประสงค์สามารถนำไปสู่สันติภาพที่ต้องการ หรือหนทางแห่งสันติภาพอาจพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่าหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ทั้งสองหนทางนี้มีความเป็นไปได้เท่าๆ กันซึ่งนับเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่งโดยมีชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่เป็นเดิมพัน


         โดยรวมแล้วก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณาร่วมกันพร้อมฟังเสียงของประชาชนเจ้าของประเทศด้วย ซึ่งนั้นเป็นวิถีแห่งประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ



           ยกเว้นข้อเสนอข้อที่ 4 ที่ดูเหมือนนักวิชาการเหล่านั้นไม่ได้วิพากษ์และให้เหตุผลอย่างชัดเจนคือ ต้องปล่อยตัวผู้แกนนำแนวร่วมในคดีความมั่นคงโดยไม่มีเงื่อนไข ที่ฟังอย่างไรก็รู้สึกคับข้องใจระคนสงสัยว่านี่คือข้อเสนอที่จะนำไปสู่สันติภาพได้กระนั้นหรือ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์รุนแรงที่ปะทุขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 47 เป็นต้นมา การเสียชีวิตของพลเรือน เจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบกฏหมาย ประชาชนทุกสาขาอาชีพทั้งที่เป็นพุทธและมุสลิม ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ เด็กผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาต้องสูญเสียชีวิตไปด้วยการก่อเหตุร้ายหลายรูปแบบ เป็นการก่ออาชญากรรมต่อพี่น้องประชาชนอย่างร้ายแรง แล้วด้วยข้อเสนอข้อนี้หากรัฐบาลไทยยอมรับ แล้วปล่อยให้อาชญากรเหล่านั้นออกมาเดินลอย ชายเสมือนไม่ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนไว้ รัฐบาลไทยจะตอบคำถามนี้กับประชาชนโดยเฉพาะกับญาติพี่น้องของผู้สูญเสียเหล่านั้นได้อย่างไร


          ข้อเสนอของบีอาร์เอ็นในข้อนี้จึงไม่ใช่หนทางไปสู่สันติภาพ แต่เป็นความแข็งกร้าวที่ต้องการกดดันรัฐบาลไทยให้ยอมรับด้วยคิดว่ากลุ่มตนมีแต้มต่อที่สำคัญ กล่าวคือ หากไม่ยอมรับก็ก่อเหตุร้ายต่อไป และแน่นอนว่าบีอาร์เอ็นนอกจากไม่เคยประกาศความรับผิดชอบต่อการกระทำแม้แต่ครั้งเดียวแล้ว ยังโยนความผิดให้ฝ่ายรัฐทุกครั้งหากเห็นว่าจะเสียมวลชน


         และหากการเสนอตนออกมาเป็นผู้แทนการพูดคุยของบีอาร์เอ็นมีความจริงใจตามที่กล่าวอ้างแล้ว การเปิดเผยตัวตนและขบวนการครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นการยอมรับว่าเหตุร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นบีอาร์เอ็นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและต้องรับผิดชอบต่อการก่อเหตุจนนำไปสู่การสูญเสียทั้งหมด ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุซึ่งกำลังถูกคุมขังและขบวนการเสนอให้ปล่อยตัวนั้นย่อมต้องเกี่ยวข้องกับบีอาร์เอ็นด้วยเช่นกัน


         ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยการตัดสินใจเรื่องใดๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องต้องนำบทบัญญัติมายึดถือและนำมาเป็นบรรทัดฐานเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการบังคับใช้กฏหมาย เพราะท้ายที่สุดแล้วประชาชนในพื้นที่จะตัดสินใจได้เองว่า ใครที่ให้ความสำคัญกับประชาชน ใครที่ต้องการให้สันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่ ใครเป็นอุปสรรคขัดขวาง และใครคืออาชญากร เพราะอาชญากรก็คืออาชญากร


ซอเก๊าะ นิรนาม





Kekaburan bagi pelbagai pihak tentang peranan yang keikhlasan dari wakil kumpulan brn masih menghadiri dan menunjuk kemahuan sebenar yang sunyi di bawah wacana“ dialog yang aman ” dengan permaian yang melebihi bagi hasan tolip dan abdulkarim khalip adalah wakili brn yang dapat membincangkan cadangan 5 perkara melalui youtube sebelum sampai hari bercakapan kali yang 3 satu hari sahaja sudah tentu bahawa cadangan 5 perkara itu dapat membangun stream percanggahan pendapat juga dapat dinafikan dari pelbagai pihak manakala dasar bersama meraka yang berkaitan dengan perundingan tidak dapat di jawab atau menafikan yang jelasnya

Mengikut stream yang mengkritik menunjuk oleh pelbagai ahli akademik terutama anda tugas yang untuk mengarahkan kejadian dalam temnpatan yang berkaitan dengan akademik anak bangsa melayu dan bagi bahagian yang hidup dalam institutenya dari kataan anda itu masih menjadi dalam bidang kreatif bersama mengarahkan kemungkinan penting yang menarikkan hati di bawah satu harapan iaitu bersatu tangan untuk mencari jalan dengan melalui keamanan sepaya mengubah masaolah yang lama menuju kepada selatan dengan segera-geranya

Cadangan 5 perkara itu mulakan ketika menerima Negara Malaysia menjadi perantara dalam perundingan (yang sebenar-benarnya pada masa ini perlu memanggilkan percakapan ) Membiarkan kepunyaan saksi-saksi arsian organisasi kerjasama islam atau ngo masuk untuk kerjasama dalam cakapan bersama bagi pihak kerajaan thai akan di terima itu bahawa brn bukan menjadi kumpulan yang memisahkan tetapi menjadi kumpulan yang menbibaskan rakyat patani itu jikalau di timbangkan perkara-perkara tersebut itu bukan menjadi perkara yang besar jika kedua – dua mengada keikhlasan untuk membangun keamanan berlaku bersama memberi menafat dari Negara bangsa dan rakyatnya sebab dalam setiap pentas yang mengada cara perundingan untuk keamanan dalam isu-isu konflik mana-mana pun masih mengada unsur.ini untuk memuaskan hati dari rakan perundingan walaupun brn mahukan untuk angkat peringkat cakapan menjadi perundingan yang tingginya

Tetapi pada hari ini kumpulan keamanan masih mengada dalam langkah cakapan untuk membangun kecayaan antara pihak kerajaan thai dan kumpulan yang tidak sampai langkah perundingan cadangan di atas itu masih menjadi cadangan untuk mengguna masa dalam pertimbangan kerana jika kumpulan di bangunkan peringkat rundingan yang pada hari ini dapat di timbangkan sehingga menajadi syarat jika sampai masa itu rakan rundingan dan unsur-unsur di atas masih menjadi kepentingan dalam kerjasama untuk mencapai matlamat menuju kapada keamanan apa yang di kehandakkinya atau jalan keamanan akan runtuh jika tidak tetap cadangan kedua-dua jalan ini mungkin menjadi samanya

Apabila di campurkan semua ini akan mengguna masa dalam ketimbangan bersama mendengar kataan rakyat pemilik negaranya itu menjadi cara demokrasi di bawah perlembagaannya

Kecuali 4 perkara iaitu mesti membibaskan ketua ally dalam hal kestabilan yang tidak ada syarat mendengar dan rasa menggagalkan hati di syaki bahawa ini adalah cadangan yang membawa kepada keamanan ke kerana semejak kelukuan keganasan yang berlau pula pada awal tahun 2547 sepintas lalu kematian rakyat pihak pegawai di bawah rangka undang rakyat semua cawangan walau buddha dan islam walau orang tua kanak yang murni pun tidak kecualinya dapat meninggal dunia dengan kelakuannya juga dengan cadangan perkara ini jika kerajaan thai di terima dan juga membibaskan penjenayah itu maka pihak kerajaan thai mesti menjawab soalan ini kepada rakyat terutamanya saudara mara rakyat yang meninggal dunianya bagai manakhah pihak kerajaan akan menjawab

Cadangan brn dalam perkara ini bukan menjadi jalan datang keamanan tetapi menjadi ketegasan yang handak di tekan pihak kerajaan thai untuk menerima dengan fikiran bahawa kumpulan mareka ada markah yang penting iaitu jika tidak terima punca itu akan berlaku seterusnya dan sesungguhnya bahawa brn tidak pernah di isytiharkan bertanggung jawab terhadap perbuatan walau sekali pun juga menyalahkan kesalan kepada pihak kerajaan thai jika masa itu ada peluangnya dan jika tunjuk untuk menawarkan mereka.menjadi wakil perundingan brn mengadakan keikhlasan yang di nyatakan penzahiran identity kumpulan sekali ini sebagai mengakui bahawa segala kejahatan yang berlaku itu brn berada di belakang dan mesti bertanggung jawab terhadap kelakuan yang membawa kepada kerugiannya yang penjenayah sedang di kurungan dan pergerakan untuk pembebasan akan prihatin dengan brn juga

Di bawah perlembagaan kingdom thai keputusan hal mana-mana yang berkaitan di perlukan membawa undang agamanya dan membawa untuk menjadi norma sepaya berlaku kesaksamaan dalam undang-undang kerana akhirnya rakyat dalam tempatan akan membuat keputusan sendirinya bahawa siapa memberi kepentingan kepada rakyat siapa yang mahukan keamanan berlaku dalam tempatan siapa menjadi halangan.dan siapakhah ialah penjenayah kerana penjenayah ia adalah penjenayahnya.
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม