เพจ: Patani jurnal เพจแน่วร่วมโจรใต้ฟาตอนี ยังคงเดินหน้าบิดเบือนข่าวสาร กล่าวหาว่ารัฐบาลไทยพยายามสกัดกั้นการศึกษาของคนมลายูมุสลิมใน จชต.
เรามาดูเนื้อหาการสร้างความแตกแยกของเพจ: Patani jurnal กัน ซึ่งได้มีการระบุว่า ในอดีตศูนย์การสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับหลักคำสอนอัลกุรอาน และภาษามลายู จะตั้งขึ้นที่บ้านพักของครูสอนศาสนา ซึ่งมีอยู่ทุกหมู่บ้าน แต่ด้วยรัฐบาลไทยบังคับให้คนมลายูต้องศึกษาในระบบโรงเรียนของรัฐด้วยการใช้ภาษาไทย เป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน รวมทั้งห้ามใช้ภาษามลายูในการสนทนาในโรงเรียนของรัฐ ดังนั้นโอกาสที่บุตรหลานชาวมลายูจะศึกษาเกี่ยวกับศาสนาและภาษามลายูก็ลดลง
หากท่านที่เคยเดินทางมาในพื้นที่ จชต.หากนั่งรถผ่านหมู่บ้าน ชุมชน จะเห็นได้ว่าโรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนตาดีกา (โรงเรียนสอนศาสนา) มีเยอะมาก อีกทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองนิยมให้บุตรหลานของตัวเองเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาเหล่านี้ มีการเปิดโรงเรียนผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด เนื่องจากในปัจจุบันโรงเรียนเอกชนได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจ่ายให้นักเรียนต่อหัว ต่อคน ต่อปี
ส่วนในเรื่องการกีดกันไม่ให้มีการเรียนการสอนเป็นการบิดเบือนอย่างหน้าด้านๆ และไม่มีการห้ามการใช้ภาษามลายูในการสนทนาในโรงเรียนของรัฐแต่อย่างใดเลย
ความหลากหลายในการใช้ภาษา สามารถพูด อ่าน เขียนได้หลายภาษาเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากปีหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจ มีการติดต่อกับนานาประเทศในกลุ่ม หากนักเรียนยังคงยึดติดอยู่กับการใช้ภาษาเดียวก็ไม่สามารถไปแข่งขันกับประเทศใดได้เลยในเชิงธุรกิจ การติดต่อทำมาค้าขาย เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เรียนรู้ กับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น