วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สำนักข่าว อิศรา กันกูละเบื่อ ซิจิง ๆ

          
          เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ตามที่ สำนักข่าวอิศรา ได้ลงบทความ ไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้ เขียนโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร ในหมวดหมู่คุยกับบรรณาธิการ

          คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของ “ไอโอ”หรือ ปฏิบัติการข่าวสาร นำมาใช้เพื่อชิงความได้เปรียบในสงคราม พร้อมทั้งได้กล่าวพัฒนาการการนำสื่อ Social Media เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลความดี และความสำเร็จของฝ่ายตน และตอกย้ำความเลวร้าย หรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้าม

          ซึ่งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่มีการปฏิบัติการข่าวสารเชิงบวก หรือนำเสนอเรื่องราวที่ดีๆ ซึ่งในจุดนี้ในนามส่วนตัวของผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวสารของสื่อกระแสหลัก ไม่ค่อยจะนำเสนอกัน ดั่งเช่นคำกล่าวที่ว่า “ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีจ่ายตังค์”ในส่วนของการตอกย้ำความเลวร้ายกลุ่มขบวนการ อย่าไปหวังให้ยาก จากการสัมผัสการทำงานของนักข่าวที่ผ่านมา

          แต่น่าแปลกใจ ตรงที่คุณปกรณ์ พึ่งเนตร แห่งสำนักข่าวอิศรา ไม่ยักจะกล่าวถึง “เพจโจรใต้ฟาตอนี” ที่มีอยู่อย่างดาษดื่น ในการสร้างความแตกแยกทางความคิด มีการยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อสู้ มีการนัดหมายในการชุมนุมประท้วงกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และตั้งใจละเมิดและกระทำผิดกฎหมาย 

          ที่ยอมรับไม่ได้คือเพจโจรใต้ฟาตอนีเหล่านั้น มีความพยายามแบ่งแยกไทยพุทธ-ไทยมุสลิม หรือคุณปกรณ์ พึ่งเนตร เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หูตามืดบอดสนิท แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่กลับตั้งหน้าตั้งตากล่าวหาโจมตี “เพจผี”และมีการตั้งข้อสงสัยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “เพจผี” เหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการปฏิบัติการ “ใต้ดิน” ซึ่ง 2-3 ปี มานี้เริ่มแรงและ “ล้ำเส้น” มากขึ้นเรื่อยๆ

        คุณปกรณ์ พึ่งเนตร กล่าวถึง “เพจผี” ในเฟซบุ๊ค ซึ่งหมายถึงหน้าเพจที่ไม่ระบุตัวตนชัดเจน แล้วแพร่ข้อมูลในลักษณะสร้างความเกลียดชังต่อกลุ่มก่อความไม่สงบ เรามาดูการกระทำของ“เพจโจรใต้ฟาตอนี” กันซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะบิดเบือนความจริง กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ โจมตีการปฏิบัติงานรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา จชต. สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนในพื้นที่ เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ แต่คุณปกรณ์ พึ่งเนตร กลับเห็นดีเห็นงามด้วยไม่เห็นมีการกล่าวถึง

         ..เอ๊ะชักจะยังไง..หากไปกล่าวหาเดี่ยวกลับกลายเป็นประเด็นอีก ขอให้ท่านผู้อ่านลองตั้งข้อสังเกตกันดู   .............โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลข่าวสารกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม