วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เปิดโปงโจรใต้ ผู้ชายนุ่งผ้าถุง ‘อิสมาแอล กาเจ’ กับ 5 หมายจับกระทำชั่ว

แบมะ ฟาตอนี



         เมื่อเอ่ยชื่อ ‘นายอิสมาแอล กาเจ’ หน่วยงานความมั่นคงต่างหมายมั่นปั้นมือ อยากจะได้ตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการผู้นี้มาลงโทษ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่ต่างได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล กาเจ อยู่ตลอด เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิ.อาญา 5 หมาย เป็นผู้ร่วมในการก่อเหตุหลายเหตุการณ์ด้วยกัน และมีหลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปจากน้ำมือของโจรชั่วผู้นี้ ยังไม่นับรวมถึงความเสียหายอื่นๆ อีกที่เกิดจากการกระทำซึ่งได้เป็นสันดาน ไม่ใช่แค่เป็นผู้หลงผิด

          คนชั่ว หรือคนไม่ดีไม่ว่าในวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ก็ตามแต่ ไม่อาจที่จะหลีกหนีพ้นผลจากผลกรรมที่ตัวเองได้เคยก่อเอาไว้ เช่นเดียวกับนายอิสมาแอล กาเจ เหมือนฟ้ามีตาได้ชี้นำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2557


          นายอิสมาแอล กาเจ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในเขตรับผิดชอบพื้นที่อำเภอยะหริ่งและอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

          นายอิสมาแอล กาเจ เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 22 ได้เข้าทำการพิสูจน์ทราบโรงเรือนเลี้ยงไก่ของนายอิสมาแอลฯ เมื่อทำการตรวจสอบกลับเจออาวุธปืนสงคราม M-16 พร้อมซองกระสุน เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก เชิญตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม

           ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 เจ้าหน้าที่ได้ออกหมาย พ.ร.ก.ฯ ควบคุมตัว ณ ศูนย์สมานฉันท์ ซึ่งจากผลการซักถาม นายอิสมาแอลฯ อ้างว่าไม่ทราบว่า อาวุธปืนเล็กยาว M-16 มาอยู่ในโรงเรือนเลี้ยงไก่ของตนเองได้อย่างไร และปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงทุกกรณี จึงได้รับการปล่อยตัวไป เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553

          หลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้ว ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล กาเจ เริ่มมีความถี่ขึ้นในการมีส่วนร่วมในการก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน และพยานบุคคลชี้ตัว จนนำไปสู่การออกหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 5 หมาย ดังนี้

หมายจับ ป.วิ.อาญา ที่ 1


         จากเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะ ได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงเข้าใส่ป้อมจุดตรวจร่วม แต่ถูกเจ้าหน้าที่ได้ทำการยิงตอบโต้ ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตจำนวน 3 คน และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์กระบะ พร้อมอาวุธปืนได้อีก จำนวน 5 กระบอก

        สาเหตุที่นำไปสู่การออกหมายจับนายอิสมาแอล กาเจ สืบเนื่องจากผลการตรวจสารพันธุกรรมคราบโลหิตบนถนน ตรงกับนายอิสมาแอลฯ และจากการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจร่างกาย พบว่ามีรอยแผลเป็นคล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายมือ

หมายจับ ป.วิ.อาญา ที่ 2


          จากเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบเผากล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหาย จำนวน 9 ตัว ในพื้นที่อำเภอมายอ และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี  เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กลับพบภาพผู้ต้องสงสัย 2 คน ซึ่งหนึ่งในสองคนนั้นคือ นายอิสมาแอล กาแจ กำลังยืนถือปืนเล็กยาว AK-102 เพื่อทำการเฝ้าระวังให้กับผู้ที่กระทำการเผากล้องวงจรปิด

หมายจับ ป.วิ.อาญา ที่ 3


           จากเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรง จำนวน 8 คน ได้ร่วมกันปล้นรถยนต์กระบะ ฟาร์มตัวอย่างป่าตาเขียว เหตุเกิดบนถนนสาย 4157 หมู่ 2 ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สาเหตุที่นำไปสู่ออกหมายจับ สืบเนื่องจากคนขับรถยนต์กระบะ ชี้ภาพยืนยันตัวบุคคล

หมายจับ ป.วิ.อาญา ที่ 4



         เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ถูกเผาริมถนนชนบท ในพื้นที่ ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี และในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะพ้อ เดินทางกลับด้วยรถยนต์กระบะ เกิดเหตุระเบิด บนถนน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย ซึ่งพยานในที่เกิดเหตุชี้ภาพยืนยันว่านายอิสมาแอล กาเจ ร่วมในการก่อเหตุดังกล่าว

หมายจับ ป.วิ.อาญาที่ 5



         ผู้ก่อเหตุรุนแรง ใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะลอบยิงชุดรักษาความปลอดภัยพระ ส่งผลให้พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และอาสาสมัครทหารพราน เสียชีวิต 1 นาย เหตุเกิดบริเวณ ตำบลบ้านกลางอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

        สาเหตุที่นำไปสู่การออกหมายจับสืบเนื่องจาก พยานในที่เกิดเหตุชี้ภาพนายอิสมาแอล กาเจยืนยันว่าร่วมในการก่อเหตุ และข้อมูลที่สำคัญรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ ถูกปล้นมาจากฟาร์มกุ้ง ในอำเภอหนองจิก และ นำไปก่อเหตุลอบยิงอีก 2 เหตุการณ์ สุดท้ายนำไปก่อเหตุลอบวางระเบิดติดตั้งในรถยนต์กระบะ หน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2557

          ในที่สุดผู้ที่กระทำความชั่วไม่สามารถหนีรอดเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็จะต้องได้รับผลกรรม เข้าไปอยู่ในคุกตะรางชดใช้เวรกรรมต้องหมดสิ้นอิสรภาพ...ทิ้งลูกทิ้งเมีย และครอบครัวต้องทนทุกข์ลำบากอยู่เบื้องหลัง

          คุ้มมั๊ย!!..ที่ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับขบวนการ สุดท้ายโดนลอยเพไม่มีใครเหลียวแล และนี่คือตัวอย่างของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่โดนจับกุมและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยังมีอีกหลายรายที่โดนจับตายเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการวิสามัญ เนื่องจากเกิดจากการปะทะต่อสู้..

          ยังไม่สายสำหรับผู้ที่หลงผิด และยอมหันหลังให้กับขบวนการ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม รายงานตัวแสดงตน รัฐเปิดโอกาสให้กับท่านเสมอ อยู่ที่ว่าตัวท่านเองจะรีบฉวยโอกาสดี ๆ เช่นนี้ให้กับตัวท่านเองและครอบครัวหรือไม่เท่านั้น!!!
-----------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม