วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โจรใต้ สารภาพสิ้น นำเจ้าหน้าที่ไปค้นที่ซุกซ่อนอาวุธ

นายกูซีดี กูนิ” ชี้จุดซุกซ่อนอาวุธปืน ที่ถูกปล้นมาจากชุด ชรบ.

         วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ปัญญา คารวนันทน์ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้สนธิกำลังร่วม พ.อ.สุวัฒน์ ทองใบ ผบ.ทพ.44 นายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอสายบุรี ได้นำตัว นายกูซีดี กูนิ อายุ 26 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เข้าชี้จุดซุกซ้อนอาวุธปืน และตรวจค้นบริเวณป่าละเมาะ ริมสนามฟุตบอลภายในหมู่บ้านบือเระ ม.3 ต.บือเระ อ.สายบุรี

           ปรากฏว่า พบอาวุธปืนเล็กยาว AK 102 จำนวน 1 กระบอก หมายเลขประจำปืน 101161341 และอาวุธปืนคาร์บิน จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง และกระสุนปืน จำนวน 26 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปตรวจสอบที่ สภ.สายบุรี และจากการตรวจสอบอาวุธปืน AK 102 พบว่า เป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอกะพ้อ ที่ถูกลอบยิงเสียชีวิต 2 นาย ในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ก่อนชิงอาวุธปืนไปด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2554 ส่วนอาวุธปืนคาร์บิน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นของชุด ชรบ.ที่ถูกปล้นไปเมื่อหลายเดือนก่อน






          สำหรับการตรวจยึดอาวุธปืนครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายกูซีดี ตามกฎอัยการศึก ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ ต.ละหาร อ.สายบุรี หลังได้รับรายงานว่าจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จากนั้นจึงนำตัว นายกูซีดี ไปเข้าสู่กระบวนการซักถามที่กรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี จากนั้น นายกูซีดี จึงยอมสารภาพ และให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนดังกล่าว






          การดำเนินการ คดีต่างๆยังเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และรัฐยังเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดได้มอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม หรือเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่า อีกทั้งเพื่อควบคุมสถานการณ์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความสงบสุข โดยผลสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของประชาชนในการแจ้งเบาะแส และผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

       ใคร่ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน, ผู้นำศาสนา, ผู้นำชุมชน และ ประชาชนทั่วไป ช่วยกันแจ้งเบาะแสคนร้าย เมื่อพบเห็นบุคคลมีพฤติกรรมต้องสงสัย เจอวัตถุต้องสงสัย หรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบโดยเร็ว ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1341 หรือ 1881 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกันให้สถานการณ์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม