วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

เตรียมตัวรับกฏหมายใหม่เน้อ


กฎหมายใหม่ที่อ้างคำสอนของอิสลามออกแล้วจ้า

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า "กฎหมายใหม่สำหรับสังคมไทยที่อ้างคำสอนศาสนาอิสลาม" ออกมากี่ฉบับแล้วก็ไม่ทราบจริงๆ พระคุณเจ้าท่านอาจจะทราบหรือนักกฎหมายหรือสมาชิกรัฐสภาก็ต้องทราบเพราะมันต้องผ่านสภา คือให้ศาสนิกอิสลามที่รับราชการสามารถแต่งกายตามหลักคำสอนได้ ได้ฟังจากรายการของๆ ท่านพลตรีทองขาว พ่วงรอดพันธ์เมื่อคืนนี้จ้า....

ที่รัฐอาเจะ รัฐบาลอินโดนิเซียกำลังกลุ้มใจมาก ทั้งๆที่เป็นมุสลิมซะส่วนใหญ่ยังไม่พอใจ เพื่อนเล่นออกกฎหมายอิสลามห้ามหญิงมีชู้ มิฉะนั้นจะโดนขว้างด้วยก้อนหิน...แหมคนไทยนะ ฟรีเซ้กมากเลย หญิงก็มีชู้ได้ ชายก็ยิ่งมีมากกว่า..ถ้ากฎหมายนี้ออกมา คนไทยพุทธไม่ยอมแน่นอน..เรื่องอื่นๆยอมได้ทุกเรื่อง คนไทยพุทธไม่มีแผ่นดินจะอยู่ใน ๓ จ.ภาคใต้ เราก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยยย ในไม่ช้าเขาก็คงจะขอ "ศาลอิสลาม" ละจ๊ะ

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า "กฎหมายใหม่สำหรับสังคมไทยที่อ้างคำสอนศาสนาอิสลาม" ออกมากี่ฉบับแล้วก็ไม่ทราบจริงๆ พระคุณเจ้าท่านอาจจะทราบหรือนักกฎหมายหรือสมาชิกรัฐสภาก็ต้องทราบเพราะมันต้องผ่านสภา คือให้ศาสนิกอิสลามที่รับราชการสามารถแต่งกายตามหลักคำสอนได้ ได้ฟังจากรายการของๆ ท่านพลตรีทองขาว พ่วงรอดพันธ์เมื่อคืนนี้จ้า....

ที่รัฐอาเจะ รัฐบาลอินโดนิเซียกำลังกลุ้มใจมาก ทั้งๆที่เป็นมุสลิมซะส่วนใหญ่ยังไม่พอใจ เพื่อนเล่นออกกฎหมายอิสลามห้ามหญิงมีชู้ มิฉะนั้นจะโดนขว้างด้วยก้อนหิน...แหมคนไทยนะ ฟรีเซ็กมากเลย หญิงก็มีชู้ได้ ชายก็ยิ่งมีมากกว่า..ถ้ากฎหมายนี้ออกมา คนไทยพุทธไม่ยอมแน่นอน..เรื่องอื่นๆยอมได้ทุกเรื่อง คนไทยพุทธไม่มีแผ่นดินจะอยู่ใน ๓ จ.ภาคใต้ เราก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย ย ย ในไม่ช้าเขาก็คงจะขอ "ศาลอิสลาม" ละจ๊ะ

อันที่จริงในสี่จังหวัดภาคใต้ก็มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฏหมายอิสลามคือในเขตจ. ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและสตูล มาตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๘๙ แล้วนั้น พวกเขาร้องว่า ยังไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันของประเทศและของนา ๆประเทศที่มีอิสลามมิกชน...ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีคนนับถือพระพุทธศาสนา ถึง ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ยังไม่เคยขอร้องให้รัฐธรรมนูญไทยให้เอาหลักศาสนาพุทธมาเป็นกฏหมายศาสนาพุทธของศาลไทยเลย...ยังงี้แล้วยังจะมาว่า "คนพุทธทำร้ายคนส่วนน้อยของประเทศไทยได้อย่างไร"...(จากกรณี "จากนาลันทา สู่ ปัตตานี ขบวนการยึดครองประเทศไทย" กรณีวัดหนองจอก ออกอากาศทาง DDTV หรือคลื่น FM. 88.25 เมื่อวันที่ ๑๕ มี.ค. ๒๕๕๔) และทางวิทยุสถานีศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา FM. ๑๐๔.๒๕ เวลา ๒๑.๐๐-๒๒.๐๐ น. จ.ศ. ต้องติดตามฟังเพราะนี่จะเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งซึ่งยังไม่มีทางออกที่ดีและเหมาะสม...

ดูตัวอย่างประเทศดังต่อไปนี้ เอาแค่สัก ๒ ประเทศก็พอ
ประเทศซาอุดิอาระเบียประกาศว่า ศาสนาอิสลามเท่านั้นเป็นศาสนาประจำฃาติ และอีกหลาย ๆ ประเทศในแถบตะวันออกกลางห้ามคนต่างประเทศสวมเครื่องหมายทางศาสนเข้าประเทศโดยเด็ดขาด ค้นพ้บ "เควี้ยงหรือกระชากทิ้ง" ทันที (ถูกใจใครบางคน - มันจะบ้า !) บางประเทศคนในประไม่ว่าหญิงหรือชายจะแต่งงานกับคนต่างศาสนาโดยต้องโอนศาสนามาเป็นศาสนาอิสลามเท่านั้น ทางกระทรวงตปท.เขาจึงจะออกวีซ่าให้ แต่ถ้าอยู่กันเฉย ๆ นอกประเทศ (อาจจะ) ทำได้ แต่ห้าม "หญิงหรือชายคนนั้น" เข้าไปหา "ว่าที่สามีหรือภริยา" ในประทศนั้น ๆ นะ มี "โทษหนัก" ทีเดียว ...อ้อ ถ้าคนของเขาเปลี่ยนศาสนามีสิทธิไม่มีที่อยู่เพราะจะถูกรังควาญ ถ้ากลับบ้านเกิด "ตาย" อย่างเดียว ครอบครัวก็ไม่ปกป้องเสียด้วย มีแต่จะแจ้งความให้ตำรวจศาสนาทราบ (ใจร้ายและใจดำ มหาโหด !)

ประเทศไทยก็มิน้อยหน้า ชายหรือหญิงถ้าแต่งงานกันต้องเปลี่ยนศาสนาเดิมมาเป็นคนมุสลิมแล้วก็จะได้เงินจากกองทุน "ซะก๊าด" เลี้ยวชีพเสียด้วย (กองทุนเพื่อเพิ่มศาสนิกโดยตรง ๆ เลย ใครจะทำไม !) มิฉะนั้น "พ่อแม่จะได้รับบาป" เล่นเอาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้แต่นอนร้องไห้คิดถึงลูกชาย/ลูกหญิง มันก็บาปเหมือนกันเพราะ "สร้างความทุกข์ให้แก่ผู้ให้กำเหนิด" ...คิดให้ดีก่อนจะเปลี่ยนศาสนาพุทธไปเป็นมุสลิมนะจ๊ะ

อันที่จริง น่าจะให้อิสระแก่พวกเขา ให้สิทธิในการตัดสินใจในการนับถือศาสนาด้วยตนเอง คือประสงค์จะเปลี่ยนศาสนาก็ด้วยตนเองหรือให้อยู่ด้วยกันโดยยอมรับสิทธิในการนับถือศาสนาของแต่ละคน อันนี้ถึงจะถือว่า "ศิวิไลย์" จ๊ะ

ประเทศมาเลเซียประกาศ ศาสนาประจำชาติคือศาสนาอิสลาม โรงแรมทุกโรงแรมในประเทศห้ามขายอาหารที่มีส่วนประกอบของหมูรวมทั้งบู๊ทหรือร้านอาหารในห้างต่าง ๆ ที่มีแผนก "แดกด่วนหรือFast Food" ยกเว้นบ่อนกาสิโนและร้านอาหารของ

คนจีนเท่านั้นคือถ้าไปเที่ยวมาเลย์และอยากจะกินอาหารที่ประกอบด้วยหมู ก็ต้องมาที่ร้านคนจีนเท่านั้น

ขออนุญาตเพิ่มเติมเพราะได้รับเอกสารมาชุดหนึ่งชื่อ ตอบปัญสารพัน "วิเคราะห์ วิจารณ์ ร่างพระราชบัญญัติการใช้กฏหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวมรดกและการพิจารณาคดี" โดย อ.ชำนาญ นิศารัตน์ นักกฏหมายและวุฒิอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ต้องขอยกย่องท่านว่าท่านทำงานนี้อย่างต่อเนื่อง

... ท่านติดตามข่าวอันเกี่ยวเนื่องด้วยกฏหมายต่าง ๆ ที่องค์กรต่าง ๆ ของมุสลิมพยายามจะขอให้รัฐบาลออกมาบังคับใช้ คือเดิมที่จะบังคับใช้ในชุมชนที่นับถือศ.อิสลาม แต่ต่อไปก็จะ "ขอ" ไปเรื่อย ๆ ไป ๆ มา ๆ ประเทศไทย (ใหญ่อุดมนี้) อาจจะต้องใช้กฏหมายศาสนามาเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญถ้าคนไทยพุทธยังนอนหลับ ทับสิทธิมองเห็นพวกเขาอย่าง "เข้าใจและเห็นอกเห็นใจ" อยู่ (โดยเฉพาะพวก NGO.- ออกเสียงว่า "โง่" = อวิชชา" วันหน้าจะ "รู้สึก" แต่ก็"สายไปเสียแล้ว" แล้วจะมาต่อว่า "ปู่ ย่า ตา ยายและพระภิกษุสงฆ์" เมินเฉยทำไม มาทำให้พวกเรามีแต่ "ความทุกข์"...ช่วยไม่ได้นะจ๊ะ ต้องไปโทษพวก NGO. เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม