เวลา 03.00-05.00 น. วันที่ 31 ส.ค. นราธิวาสสมาชิกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ จ.นราธิวาส กว่า 50 คน ได้วางแผนนัดแนะกระจายกำลังนำวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดและธงชาติประเทศมาเลเซียไปปักบริเวณเสาไฟฟ้า ต้นไม้ ริมถนน รวมทั้งเผายางรถยนต์ในเส้นทางสายหลักและสายรองถึง 43 จุด เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาก่อตั้งขบวนการแนวร่วมเพื่อเอกราชปัตตานี หรือ กลุ่มเบอร์ซาตู ในวันนี้ ซึ่งกลุ่มเบอร์ซาตูใช้ธงชาติมาเลเซียเป็นสัญลักษณ์ สำหรับทั้ง 43 จุด ประกอบด้วย
- 1.อ.ยี่งอ 3 จุด
- 2.ตากใบ 3 จุด
- 3.ศรีสาคร 10 จุด
- 4.สุไหงโก-ลก 1 จุด
- 5.รือเสาะ 5 จุด
- 6.บาเจาะ 2 จุด
- 7.จะแนะ 1 จุด
- 8.เมืองนราธิวาส 5 จุด
- 9.สุไหงปาดี 4 จุด
- 10.เจาะไอร้อง 1 จุด
- 11.ระแงะ 6 จุด
- 12.อ.แว้ง 2 จุด
ต่อมาเวลา 07.00 น.เจ้าหน้าที่เดินทางทยอยเก็บกู้และยิงทำลายวัตถุต้องสงสัย พบว่าส่วนใหญ่เป็นระเบิดจริง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นของรถ จยย.กล่องเหล็กและกล่องกระดาษ น้ำหนักตั้งแต่ 1 - 10 ก.ก. ใน 12 อำเภอ มีจุดที่ระเบิดทำงาน 4 อำเภอ กว่า 20 จุด อาทิในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี คนร้ายตั้งวัตถุต้องสงสัยไว้ในสวนสุขภาพตรงข้ามสภ.สุไหงปาดี เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ อ.ระแงะ เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 45 2 นาย เข้าไปเพื่อแกะธงชาติประเทศมาเลเซีย ที่ผูกไว้กับกิ่งไม้ริมถนนในหมู่บ้านยะหอ หมู่ 3 ต.บองอ อ.ระแงะ แต่พลาดเมื่อเท้าเหยียบระเบิดที่ตั้งดักไว้ ทำให้ ส.ท.ทรงศักดิ์ แท่งสกุลและอส.ทพ.ชาญณรงค์ กรจันทร์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่เท้าทั้ง 2 ข้างบาดเจ็บ อ.บาเจาะ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บาเจาะ เดินเข้าไปแกะธงชาติมาเลเซียที่ผูกไว้ริมถนนสายบาเจาะ-บ้านทอน ช่วงบริเวณบ้านบือเร๊ะ หมู่1 ต.บาเร๊ะใต้ แต่ระเบิดทำงานไม่ครบวงจรทำให้ตำรวจรอดตายหวุดหวิด อ. จะแนะ คนร้ายจุดชนวนระเบิดที่บริเวณเสาไฟส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือระบบเอไอเอส ตั้งอยู่บ้านกูมุง หมู่2 ต.ช้างเผือก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4609 ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อส.ทพ.อนันต์ อุ่นเพ็ญ ขณะเข้าไปแกะเชือกธงชาติมาเลเซียที่ผูกติดไว้บริเวณเสา
เวลา 08.10 น. คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจยย. เมื่อผ่านหน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ระแงะ ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัสได้ใช้ระเบิดขว้างใส่เข้าไปในสำนักงาน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เวลา 10.45 น. ยังเกิดเหตุระเบิดขึ้นกว่า 50 จุดแล้ว เนื่องจาก ชุดเก็บกู้ระเบิดมีน้อย จึงเข้าไปเก็บกู้ไม่ทัน และยังต้องใช้เวลาค้นหาระเบิด อีกทั้งบางจุดต้องปิดถนนทำให้ประชาชนเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานภายในภาวะจำกัด ล่าสุดทำให้ทหารบาดเจ็บขาขาดเพิ่มอีก 2 นายจากแรงระเบิด
ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ในจ.ยะลา กลุ่มคนร้ายได้แขวนและขึงธงชาติประเทศมาเลเซียบนต้นไม้ และปักไว้ริมถนนพร้อมวัตถุต้องสงสัยจำนวนมาก โดยเขียนข้อความต่างๆ เช่น ยินดีต้อนรับหน่วยเก็บกู้ระเบิด จีที200 ไม่มีแล้วพึ่งอะไรได้บ้าง EOD งานเข้า เบื้องต้นพบวัตถุต้องสงสัยได้ 6 จุด คือ จุดแรก ริมถนนสายยะหา - บ้านเนียง บ้านพงลูกา หมู่3 ต.ยะหา จุดที่สอง ริมถนนสายยะหา- สามแยกอาสิน จุดที่สาม ริมถนนบ้านอาสิน หมู่ 6 ต.ยะหา จุดที่สี่ บริเวณหัวสะพานปูแล ต.บาโร๊ะ จุดที่ห้า ริมถนนบ้านกาโต๊ะ หมู่7 ต.ปะแต และจุดที่หก ในพื้นที่ ต.กาตอง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ปิดถนนทุกเส้นทาง และยิงทำลายวัถตุต้องสงสัย ตรวจสอบพบว่า ทุกจุดคนร้ายนำระเบิดปลอมวางไว้ทุกจุด และ คนร้ายยังก่อกวนโดยปักธงชาติมาเลเซีย ในพื้นที่ อ.เมือง ใต้สะพานท่าสาป หน้า รร.ธรรมวิทยา บริเวณสะพานดำ ที่สวนส้ม อ.กรงปินัง ก่อนถึงตลาดกรงปินัง อ.รามัน ในพื้นที่ ต.โกตาบารู 4 จุด และใน อ บันนังสตา อีก 9 จุด
ที่จ. ปัตตานีกว่า 50 จุด ขบวนการผู้ก่อความไม่สงบรวมตัวกันกระจายกำลังก่อเหตุป่วนโดยนำธงชาติประเทศมาเลเซียผูกกับเชือกและของมีน้ำหนักแขวนวางไว้บนต้นไม้ พื้นถนน สะพานลอย เสาไฟฟ้าริมถนนบนเส้นทางสาย 42 ปัตตานี-โคกโพธิ์เชื่อมต่อ อ.เทพา จ.สงขลา สายนาเกตุ-ยะลา และสายปัตตานี-นราธิวาส รวมทั้งภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีกว่า 50 จุด พร้อมวางวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องหลายจุด แต่ละกล่องมีหลายขนาด พันสก็อตเทปสีดำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งชุดเก็บกู้วัตภุระเบิด นปพ.ปัตตานี ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดเนื่องจากมีหลายจุด บางจุดเจ้าหน้าใช้ไม้เขี่ยจนมั่นใจจึงเก็บธง และเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย ส่วนใหญ่เป็นกล่องเปล่า แต่มีบางจุดต้องใช้ปืนลูกซองยิงทำลาย โดยเฉพาะที่ถนนสาย 418 สายใหม่ ปัตตานี- ยะลา จุดเดียวเป็นถังแก๊สปิกนิกมีการเชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์เครื่องบังคับวิทยุและเป็นถังแก๊สเปล่า จึงเก็บเป็นวัตถุพยานนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ
















เมื่อเวลา 22.10 น.วันที่ 31 สค. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณภายในซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ซึ่งเป็นห้างดังขนาดใหญ่ที่สุดของจ.นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.จำรูญนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณด้านหลังของห้าง จากนั้นไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จนลามไปกินส่วนต่างๆของอาคาร ซึ่งติดอยู่กับบ้านเรือนประชาชน จนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ต่างพากันอพยพข้าวของที่จำเป็นหนีไฟกันอย่างอลหม่าน
ที่เกิดเหตุ ได้ขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ อ.ยี่งอ และ อ.ตากใบ รวมทั้งสิ้นกว่า 40 คัน ก่อนกระจายกำลังกันสกัดกั้นต้นเพลิง แต่ยังไม่เป็นผล เนื่องจากในห้างมีสินค้าและวัตถุที่ติดไฟง่าย เพลิงจึงลุกโชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพยายามอย่างหนัก แต่สุดท้ายก้ยังไม่เป็นผล

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น