"ตำรวจ-ทหาร" ควานหาตัว "จาก์ตา ซิงค์ ทารา" มือคาร์บอมบ์ชาวอินเดีย ยังไม่พบย้ำชัดหลักฐานเข้าไทยช่วง ก.ย. 57 อ้างพำนักย่านลาดกระบัง ตำรวจไปตรวจสอบแล้วไม่พบคาดยังกบดานในไทย หาจังหวะหนีไปยังประเทศที่สาม "ผบ.ทบ." สั่งให้เน้นตรวจคนเข้าออก-หาข่าวเชิงลึก
ด้าน "โฆษก กอ.รมน." ยัน คนร้ายไม่ใช่มือเชี่ยว ชาญประกอบระเบิด และไม่เชื่อมโยงเหตุการณ์วุ่นวายในภาคใต้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รรท. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีการแจ้งเตือนให้ตำรวจไทยเฝ้าระวัง นาย จาก์ตา ซิงค์ ทารา ผู้ต้องหาคนสำคัญที่อาจเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายทำคาร์บอมบ์ หลบหนีออกจากเรือนจำอินเดีย ที่อาจหลบหนีแฝงตัวในประเทศไทย ว่าได้รับการแจ้งเตือนตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล นายจาก์ตา ซิงค์ ทารา มีความเป็นไปได้สูงมีการหลบหนีเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงมีการประสานแจ้งเตือนมายังทุกประเทศโดยเชื่อว่าไทยอาจจะเป็นพื้นที่ทางผ่านในการหลบหนีไปยังอีกประเทศ
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเข้มงวดป้องกันไม่ให้มีการหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลนายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ไม่น่าจะรู้จักเกี่ยวข้องกับ ผู้ใดในประเทศไทยเชื่อว่าต้องการใช้เป็นทางผ่านเพื่อหลบหนีไปประเทศอื่นเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของนายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ในประเทศไทยแต่อย่างใด
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม. กล่าวว่าหลังได้รับรายงานได้มีการประชุมหารือร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยสั่งการพร้อมมอบนโยบายไปยังด่านพรมแดนทั้งหมดในพื้นที่ภาคใต้ให้เพิ่มความระมัดระวังและคุมเข้มในการตรวจตราบุคคลเข้าออก ในส่วนของช่องทางธรรมชาติตามชายแดนต่าง ๆ อีกทั้งบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. ให้ทำหนังสือพร้อมรูปถ่ายให้กับทุกด่านพรมแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งหากพบสามารถจับกุมได้ทันที
พล.ต.ต.วราวุธ กล่าวว่า จากการข่าวขณะนี้พอที่จะทราบแหล่งกบดานของผู้ต้องหารายนี้ คาดว่ายังคงกบดานอยู่ในเมืองไทย ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ต้องหารายนี้ได้โดยสารเข้ามาทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและแจ้งความประสงค์ว่าเข้ามาในไทยเพื่อพักอาศัยและท่องเที่ยวอยู่ย่านลาดกระบังแต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบกลับไม่พบตัวแต่อย่างใด
ที่ จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ รอง ผบก.ตร.ภ.สระแก้ว รรท.ผกก.สภ.คลองลึก ประสานกับ พ.ต.อ.ธีรชัย เด็ดขาด ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย.ทพ. 1206 ให้นำกำลังเข้าร่วมทำการตั้งด่านที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ (จุดผ่านด่านถาวรบ้านคลองลึก) เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการเดินทางข้ามไปฝั่งกัมพูชาของนายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ซึ่งจากการตรวจค้นยังไม่พบแต่อย่างใด
วันเดียวกัน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา มากบดานอยู่ในไทยว่ายังไม่พบแต่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการติดตามอยู่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีฐานการข่าวที่จะระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเคลื่อนไหวแต่การรับข่าวจะต้องระมัดระวัง
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งการด่านตรวจต่าง ๆ ที่จะเป็นช่องทางผ่านเข้า-ออก รวมถึงการตรวจสอบด้านการข่าวเชิงลึกในเรื่องดังกล่าวแล้ว
วันเดียวกัน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุในคดีฆาตกรรมที่ประเทศอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 1995 ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้ เมื่อปี ค.ศ. 2004 และได้แหกเรือนจำในปีเดียวกัน จากนั้นมีข่าวได้หลบหนีเข้ามาในประเทศแถบเอเชียหลายประเทศ รวมถึงไทยด้วยโดยระหว่างนั้นมีการประสานข้อมูลระหว่างประเทศกันแล้ว และเจ้าหน้าที่ไทยก็ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ขณะนี้ยังจับไม่ได้ และยังไม่ทราบว่าหลบหนีอยู่ที่ประเทศใด
"ไม่รู้ข่าวออกมาได้อย่างไร แต่ข่าวนี้มาจากข้อมูลเดิมของการข่าว จากข้อมูลทราบว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดอีกทั้งไม่มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างแน่นอน" โฆษกกอ.รมน. กล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา หลบหนีมากบดานอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งกำลังติดตามอยู่ โดยเป็นไปตามข้อตกลงการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายของทางอินเดียก็ต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ทั้งนี้อินเดียได้มีการประสานงานไปทั่วโลก ซึ่งถ้าผู้ต้องหาเข้าประเทศไทยเราก็ต้องหาตัวให้เจอ แล้วส่งกลับไป อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าผู้ต้องหาดังกล่าวเข้ามายังประเทศไทยแล้วหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามเรื่องนี้อยู่ ต้องรอก่อน
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม. กล่าวว่าหลังได้รับรายงานได้มีการประชุมหารือร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยสั่งการพร้อมมอบนโยบายไปยังด่านพรมแดนทั้งหมดในพื้นที่ภาคใต้ให้เพิ่มความระมัดระวังและคุมเข้มในการตรวจตราบุคคลเข้าออก ในส่วนของช่องทางธรรมชาติตามชายแดนต่าง ๆ อีกทั้งบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. ให้ทำหนังสือพร้อมรูปถ่ายให้กับทุกด่านพรมแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งหากพบสามารถจับกุมได้ทันที
พล.ต.ต.วราวุธ กล่าวว่า จากการข่าวขณะนี้พอที่จะทราบแหล่งกบดานของผู้ต้องหารายนี้ คาดว่ายังคงกบดานอยู่ในเมืองไทย ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ต้องหารายนี้ได้โดยสารเข้ามาทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและแจ้งความประสงค์ว่าเข้ามาในไทยเพื่อพักอาศัยและท่องเที่ยวอยู่ย่านลาดกระบังแต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบกลับไม่พบตัวแต่อย่างใด
ที่ จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ รอง ผบก.ตร.ภ.สระแก้ว รรท.ผกก.สภ.คลองลึก ประสานกับ พ.ต.อ.ธีรชัย เด็ดขาด ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย.ทพ. 1206 ให้นำกำลังเข้าร่วมทำการตั้งด่านที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ (จุดผ่านด่านถาวรบ้านคลองลึก) เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการเดินทางข้ามไปฝั่งกัมพูชาของนายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ซึ่งจากการตรวจค้นยังไม่พบแต่อย่างใด
วันเดียวกัน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา มากบดานอยู่ในไทยว่ายังไม่พบแต่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการติดตามอยู่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีฐานการข่าวที่จะระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเคลื่อนไหวแต่การรับข่าวจะต้องระมัดระวัง
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งการด่านตรวจต่าง ๆ ที่จะเป็นช่องทางผ่านเข้า-ออก รวมถึงการตรวจสอบด้านการข่าวเชิงลึกในเรื่องดังกล่าวแล้ว
วันเดียวกัน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุในคดีฆาตกรรมที่ประเทศอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 1995 ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้ เมื่อปี ค.ศ. 2004 และได้แหกเรือนจำในปีเดียวกัน จากนั้นมีข่าวได้หลบหนีเข้ามาในประเทศแถบเอเชียหลายประเทศ รวมถึงไทยด้วยโดยระหว่างนั้นมีการประสานข้อมูลระหว่างประเทศกันแล้ว และเจ้าหน้าที่ไทยก็ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ขณะนี้ยังจับไม่ได้ และยังไม่ทราบว่าหลบหนีอยู่ที่ประเทศใด
"ไม่รู้ข่าวออกมาได้อย่างไร แต่ข่าวนี้มาจากข้อมูลเดิมของการข่าว จากข้อมูลทราบว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดอีกทั้งไม่มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างแน่นอน" โฆษกกอ.รมน. กล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวว่านายจาก์ตา ซิงค์ ทารา หลบหนีมากบดานอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งกำลังติดตามอยู่ โดยเป็นไปตามข้อตกลงการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายของทางอินเดียก็ต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ทั้งนี้อินเดียได้มีการประสานงานไปทั่วโลก ซึ่งถ้าผู้ต้องหาเข้าประเทศไทยเราก็ต้องหาตัวให้เจอ แล้วส่งกลับไป อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าผู้ต้องหาดังกล่าวเข้ามายังประเทศไทยแล้วหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามเรื่องนี้อยู่ ต้องรอก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น