อุกอาจ ! โจรใต้ปล้นปืนซ้ำ คาดโจร 30 คนบุกถล่ม
วันศุกร์ 21 มกราคม 2554 8:46
วันนี้(21ม.ค.2554) กองทัพ สูญเสียหนัก! ผบ.ร้อยและทหารหาญยิงสู้โจรใต้นานครึ่งชั่วโมง ก่อนพลีชีพ 4 บาดเจ็บ 6 นาย ผงะ! ฐานปฏิบัติการร้อย ร.15121 ถูกโจมตียับเยิน พบหลุมระเบิด M79 กว่า 20 จุด ปลอกกระสุนตกเกลื่อน อาคารถูกเผาและอาวุธปืน 50 กระบอก-กระสุนอีก 4 พันนัดถูกฉกเกลี้ยง คาดโจรใต้ปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 30 คน แต่บาดเจ็บเช่นกันหลังพบหยดเลือดตามทางขึ้นเทือกเขาบูโด “จนท.” สนธิกำลังไล่ล่า
ความคืบหน้าหลังกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปฏิบัติการอุกอาจในช่วงเวลา 19.30 น.ของคืนวันพุธ โดยการบุกถล่มฐานปฏิบัติการร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาสที่ 38ซึ่งตั้งอยู่บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีการสูญเสียเจ้าหน้าที่ทหารครั้งใหญ่ และอาวุธปืนพร้อมกระสุนถูกกลุ่มคนร้ายยึดไปอีกจำนวนมาก
ช่วงเช้าวานนี้ นายเดชรัฐ สิมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.ท.จันทีแจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนราธิวาส และคณะทีมงานของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบฐานปฏิบัติการร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ที่ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้ายิงถล่ม
ตรวจสอบพบว่า โรงเรือนแบบน็อกดาวน์และเพิงพักของทหารถูกคนร้ายวางเพลิงได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถจักรยานยนต์ถูกเผาทำร้าย 1 คัน และสถานที่ซึ่งใช้เก็บคลังอาวุธประจำฐานถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูและขโมยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด
พบด้วยว่าบริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐานนั้น กลุ่มคนร้ายได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ 3 เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัว
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมที่เกิดจากเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16, เอ็ม 60, อาก้า, ลูกซอง, อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม., ขนาด 11 มม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด
ทหารเสียชีวิต 4 บาดเจ็บ 6
ปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตในเหตุการณ์ 4 นาย ประกอบด้วย 1.ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 2.ส.อ.เทวรัตน์ เทวา 3.ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี4.พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บมี 6 นาย ประกอบด้วย 1.พลทหารสุธน กะมะบุบ 2.ส.อ.ณัฐกิจ โพธิ์จันทร์ 3.ส.อ.สุคน ชูศรี 4.พลทหารธันวา ยอดแก้ว 5.จ.ส.อ.จินตนา นุปูดิน 6.พลทหารอารีฟปูดิน กาหรี
ทั้งนี้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการและมอบเงินเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารทั้ง 6 นาย
พล.ท.อุดมชัยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากข้อผิดพลาดที่กองกำลังทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินและหาแนวทางเพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป ถึงแม้จะเกิดการสูญเสียกำลังพลอีกครั้งหนึ่ง แต่ทหารทุกนายก็พยายามเต็มที่แล้ว โดยมีการยิงปะทะกันประมาณ 30 นาที
สำหรับการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่น ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายหลังจากปฏิบัติการถล่มฐานทหารแล้วเสร็จ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่องรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขาซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร คาดว่ากลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามโรงพยาบาลและสถานอนามัย เกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านเดินทางไปรักษาอาการบาดเจ็บ
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความพยายามที่จะแสดงศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เป็นศักยภาพด้านการทหารที่ยังคงมีอยู่ในพื้นที่บางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งบางส่วนอาจจะวิเคราะห์ว่าเป็นการเกี่ยวพันกับการต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขอชี้แจงว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เป็นเรื่องเฉพาะพื้นที่ เฉพาะอำเภอ เฉพาะจังหวัด ที่ยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุในรูปแบบนี้อยู่
ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้นั้นคาดว่าเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.ระแงะจ.นราธิวาส เป็นกลุ่มของนายแวอาลี คอปเตอร์ วาจิ ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มประมาณ 30 คน เคลื่อนไหวในบริเวณเทือกเขาบูโด โดยหลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายน่าจะเข้าไปหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาบูโด บริเวณที่มีรอยต่อหลายๆ อำเภอของนราธิวาสและปัตตานี
พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า กำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ไล่ติดตามเพื่อที่จะจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุ โดยจะมีการปูพรมค้นหาในแต่ละหมู่บ้านทีละหลัง และตามรายหมู่บ้านตามเส้นทางหมายเลข 4058 ที่จะไป อ.ยี่งอ คาดว่ากลุ่มผู้ที่ก่อเหตุน่าจะมีการหลบซ่อนตัวอยู่เพื่อทำการค้นหาเบาะแส วัตถุพยาน จะมีการค้นหากันอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5-7 วันเป็นอย่างน้อย
แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ประเมินว่า การปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 30 คน มีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดี และมีระบบกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ที่ผ่านมา
มีรายงานว่ากลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพลและความเคลื่อนไหวภายในฐาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์และอาศัยอยู่น้อย จึงได้มีการบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการในครั้งนี้อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์เคยร่วมบุกปล้นปืนด้วย โดยจะมีการรวบรวมอาวุธเพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้
การปฏิบัติการครั้งนี้มีสายลับของกลุ่มก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวอยู่ภายในกองร้อย และก่อนปฏิบัติการได้มีกลุ่มก่อความไม่สงบได้ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ปะปนเข้าไปกับทหารในกองร้อยด้วยจำนวนหนึ่ง
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและกับครอบครัว ขณะนี้ทางกองทัพกำลังดำเนินการปรับแนวทางในบางเรื่อง ยอมรับว่าจุดพื้นที่เกิดเหตุยังเป็นพื้นที่ที่มีการเสี่ยงสูง คือที่อำเภอระแงะ ทั้งนี้คาดว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มคนร้ายต้องการยั่วยุและใช้เป็นเงื่อนไข เพราะใกล้กับการประชุมองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี)
นายกฯ บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีผลต่อการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเราพิจารณาเป็นรายพื้นที่ไปแล้ว ตรงไหนมีความพร้อมก็เดินหน้ายกเลิก แต่พื้นที่ไหนที่ไม่มีความพร้อมเราก็ไม่มีความคิดที่จะยกเลิก ซึ่งจะมีการสะท้อนความเป็นจริงของสภาพพื้นที่รวมด้วย และสภาพพื้นที่ด้วย
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหุตการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เริ่มมีผลในทางที่เป็นบวกมากขึ้น ประชาชนหันมาให้การสนับสนุนฝ่ายรัฐมากขึ้น ฝ่ายก่อการร้ายก็ต้องพยายามแสดงอำนาจแสดงอิทธิพล ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงระดมคนลงมาจากเทือกเขาบูโด เป็นกองกำลังที่มีขนาดใหญ่ เข้าไปล้อมโจมตี จึงทำให้เกิดความเสียหาย
ส่วนการปรับโครงสร้างใหม่ของ ศอ.บต.มีกฎหมายใหม่ จะช่วยในเรื่องนี้ได้หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า คนละส่วนกัน เรื่องของการปฏิบัติในแง่ของกำลังของเจ้าหน้าที่กับเรื่องการบริหารจัดการทางด้านการพัฒนาเป็นคนละเรื่องกัน แต่เราก็ต้องหาทางบูรณาการให้สอดคล้องกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ ซึ่งอีกฝ่ายมุ่งหวังทำให้เกิดความน่ากลัว เพื่อให้ประชาชนกลับไปเป็นฝ่ายเขา ทั้งนี้คนร้ายมีอยู่แล้วขึ้นอยู่กับว่าเขาจะรวมตัวกันเมื่อไร และปฏิบัติการในช่วงที่เราเผลอ แต่กำลังพลทุกคนไม่ท้อถอย ต้องเสียสละ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะต้องดูแลครอบครัวของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด และนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน ไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
“ทำไมเหตุการณ์ในพื้นที่ยังไม่จบ อยากบอกว่าตราบใดคนเหล่านี้ที่สมองถูกบ่มเพาะและถูกล้างสมอง ที่ทำทุกวันนี้เพื่อความถูกต้องหรือเพื่ออะไรต่างๆ ไม่ว่าชาติพันธุ์ทางประวัติศาสตร์ คนเหล่านี้ยังมีอยู่ ดังนั้นเมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนสมองคนพวกนี้ได้ หรือคนเหล่านี้ยังเกิดความคับแค้นใจและความเข้าใจในรัฐ ไม่เข้าใจด้านกฎหมาย เขาก็พร้อมปฏิบัติการ
ผบ.ทบ.ลั่ยแยกดินแดนต้องรบแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถแบ่งประเทศเราออกไปได้ ยังไงก็แบ่งไม่ได้ เพราะเขาไม่สามารถรวมกำลังขนาดใหญ่ไปยึดพื้นที่ได้ แต่ถ้าพื้นที่ไหนมีการยึดครองเมื่อไร เราต้องใช้กำลังเข้าปราบปรามเป็นลักษณะการสู้รบ ซึ่งเราไม่อยากปฏิบัติลักษณะนั้น เพราะจะทำให้สถานการณ์รุนแรงในสายตาชาวโลก” ผบ.ทบ.กล่าว
ขณะนี้ได้สั่งให้ใช้เฮลิคอปเตอร์ที่มีการติดกล้องในการเข้าตรวจค้นพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะเทือกเขา เนื่องจากเข้าใจว่าจะมีการซ่องสุมบริเวณพื้นที่ป่าภูเขา ด้านการข่าวรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังไม่สามารถตรวจพบ ทั้งนี้ อยากเรียนว่าหากสถานการณ์ยังมีความรุนแรงอยู่จำเป็นต้องมีมาตรการในการดูแล
มีรายงานอีกว่าช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สว.เวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิดจักรยานยนต์คาร์บอมบ์ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน บาเจาะ ช่วงบริเวณบ้านบือเระ ต.บาเระใต้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ 1.จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนซ้าย 2.จ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.พงศธร เฟื่องปาง หัวหน้าชุด ได้นำกำลังจำนวน 5 นาย นั่งรถกระบะและรถจักรยานออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดอุไรเพื่อเดินทางไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบาเระใต้ อ.บาเจาะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ถูกผูกติดไว้กับตะแกรงรถจักรยานยนต์ ซึ่งคนร้ายนำไปจอดไว้ริมถนนและเกิดระเบิดขึ้นทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารขับและขี่รถ จยย.ผ่าน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว. |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น