วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ตันหยงลิมอ...ร้าง


'ตันหยงลิมอ' ร้าง! ชาวบ้านผวา ตร.บุกจับเผ่นหาย
เค้นผู้ต้องหาหญิง ล่าทีมฆ่า 2นาวิกฯ "แม้ว"ชูชาตินิยม ด่าลั่นโจรใต้เลว!
"แม้ว" ด่าลั่นโจรใต้เลวกว่าสัตว์เดรัจฉาน ปลุกชาตินิยมช่วยดับไฟใต้ไฟเขียวใช้ความเด้ดขาดล่าโจร ประกาศกร้าวผิดพลาด "ผมรับผิดชอบเอง" ท้าเดิมพัน 3 ปีข้างหน้าทำไม่ดีไม่ต้องเลือก ทรท. ชาวบ้านตันหยงลิมอผวาถูกจับ เผ่นหนีเกลี้ยงหมู่บ้าน หลังตร.-ทหารร่วม 200 นายบุกค้นสายฟ้าแลบแต่เช้ามืด เจอแต่หมู่บ้านร้าง คาดหนีไปซุกอยู่มาเลย์ ตร.เค้นสอบเครียดหญิงผู้ต้องหาคดีสังหารโหด 2 นาวิกโยธิน เพื่อสาวถึงกลุ่มฆาตกร 7-8 คนที่ลงมือฆ่า เผยเป็น 1 ใน 11 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับชุดแรก คนถือกุญแจห้องกักขังที่ส่งมอบให้มือฆ่า แต่ตร.กันไว้เป็นพยานเพื่อสอบขยายผล ส่วนผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอพร้อมคนสนิทที่ถูกจับได้ ผบ.ตร.ยันมีพยานหลักฐานถึง 23 ชิ้นมัดแน่น กำลังขออนุมัติหมายจับเพิ่ม ด้าน ผบ.สส.ยัน 2 ผู้ต้องสงสัยสังหาร 2 นาวิกโยธินไม่ใช่ "แพะ" ไล่ส่งไม่สมควรอยู่แผ่นดินไทย "พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์" ทรงพระเมตตา เขียนการ์ดกำลังใจประทานแก่ครอบครัวทหารกล้า ขณะที่ สตง.ปูนบำเหน็จ 2 ตร.พลีชีพ เลื่อนยศ 7 ขั้น ขอพระราชทานเพลิงศพสมเกียรติ
จากกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบปลุกระดมชาวบ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จับตัว ร.ต.วินัย นาคะบุตร และ จ.อ.คำธร ทองเอียด สองทหารหน่วยนาวิกโยธิน (นย.) กองเรือภาคที่ 2 ช่วยราชการค่ายจุฬาภรณ์ รักษาการณ์ประจำอยู่ที่โครงการพระราช ดำริ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 ต.บองอ อ.ระแงะ เป็นตัวประกันตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ยัดข้อหาว่าพัวพันกับเหตุการณ์ที่คนร้ายบุกยิงถล่มร้านน้ำชาในหมู่บ้านตันหยงลิมอ เมื่อคืนวันเดียวกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย โดยระหว่างเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามเจรจาเพื่อให้ปล่อยตัวประกัน กลุ่มคนร้ายได้ลงมือสังหารทหารทั้งสองนายอย่างทรมาน หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย พร้อมกับออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้อีกจำนวนหนึ่ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผบ.ตร.แถลงจับ2ผู้ต้องสงสัย
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พลโทขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) พล.ต.ต.วรพงษ์ ซิวปรีชา รอง ผบช.ก. พ.ต.อ. สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบก.น.1 ช่วยราชการ ศปก.ตร.ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่ชาวบ้านในร้านน้ำชา และคดีสังหาร ร.ต.วินัย นาคะบุตร และ จ.อ.คำธร ทองเอียด สองนาวิกโยธิน ที่บ้านตันหยงลิมอ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีร่วมกันสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ภายหลังนำตัวไปสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นรา ธิวาส เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องสงสัยในครั้งนี้ คือ นายสิงห์ชัย ซาแล ผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ และนายอนุวัฒน์ ซาอิ ทั้งสองเป็นคนในพื้นที่หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ


พยานหลักฐาน23ชิ้นมัดแน่น
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนมีส่วนร่วมในการรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และมีพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ 23 ชิ้น ทั้งนี้เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ยิงชาวบ้านในร้านน้ำชา กับกลุ่มคนร้ายบางคนที่รุมทำร้ายทหารเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง สำหรับผู้ต้องหาตามหมายจับบางส่วนได้หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามตัว พร้อมกับประสานกับทางการมาเลเซียต่อไป


ขอหมายจับเพิ่ม2-รวม13คน
ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ทั้ง 2 คดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน และคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนนายสิงห์ชัย และนายอนุวัฒน์ อยู่ในระหว่างการขออนุมัติหมาย จับจากศาลนราธิวาส ทำให้ขณะนี้มีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีดังกล่าวไปแล้ว 13 ราย โดยผู้ต้องหา 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับแล้ว ประกอบไปด้วย

นายบอเฮง บากา อายุ 40 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00638-31-9 นายนิอามราญ นิกาจิ อายุ 30 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00640-86-2 นายมะดาโอ๊ะ กาเดร์ อายุ 31 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00639-75-9 นายดูแวมะรอยี ด่วนสุหลง อายุ 23 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00639-67-8 นายอัลเลนสาน นิกาจิ อายุ 21 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00641-93-5 นายสมาน ดอเลาะ อายุ 21 ปี เลขบัตรประชาชน 1-9603-00004-44-3 นายนิอาแซ ดอแม อายุ 36 ปี เลขบัตรประชา ชน 3-9605-00238-25-2 นายชากะรี มะรือ สะ อายุ 39 ปี เลขบัตรประชาชน 3-96-01-00042-11-4 นางสีตีปิซะ ดอแม อายุ 48 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00639-23-6 นายตูแวคูเซ็ง ดอฆอ อายุ 33 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00648-64-2 และนายนิโชะ ตีงี อายุ 24 ปี เลขบัตรประชาชน 3-9605-00238-28-1 ทั้งหมดเป็นราษฎรหมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ

ระแงะโอนคดีให้ศปก.ตร.สน.
ส่วน พ.ต.อ.อภิรัฐ สังข์ขาว ผกก. สภ.อ.ระแงะ กล่าวว่า ทั้งคดีคนร้ายกราดยิงชาวบ้านในร้านน้ำชา และคดีฆ่าสองนาวิกโยธิน ขณะนี้โอนให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จ.ยะลาไปแล้ว โดยทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า ได้แต่งตั้งพนัก งานสอบสวนชุดใหม่เข้ามาทำคดีทั้งสองแล้ว ในส่วนของสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ อ.ระแงะนั้นยังไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก ถึงแม้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐยังดีอยู่ แต่ทั้งตำรวจและทหารจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น คาดว่าสถานการณ์จะยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน และต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา


ปูนบำเหน็จตร.เหยื่อบึ้ม7ขั้นยศ
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร. ได้เดินทางนำพวงหรีดไปเคารพศพของ ส.ต.ต.สมคิด ร่มทอง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งทำหน้าที่ชุดคุ้มครองครู ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา

โดย ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ส.ต.ต.สมคิด และกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติถือว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า และเป็นการตายในหน้าที่ เป็นการพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปูนบำเหน็จความชอบ 7 ขั้นยศให้เป็น ร.ต.อ. และได้มอบเงินจากกองทุนต่าง ๆ ให้ครอบครัวของ ส.ต.ต.สมคิด 8 แสนบาท โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 30 ก.ย.นี้
ส่วนศพของ ส.ต.ต.สมชาย ไขสะ ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกัน ได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ขั้นยศ เป็น ร.ต.อ. และได้รับเงินช่วยเหลือ 8 แสนบาทเท่ากัน แต่เนื่องจาก ส.ต.ต.สมชาย นับ ถือศาสนาอิสลาม ญาติจึงได้นำไปฝังยังกุโบร์ที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านเกิด ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปร่วมพิธีและมอบเงินช่วยเหลือให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์"ทรงให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา ได้มอบการ์ดประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ฝากมาทาง ผวจ.สงขลา มอบให้กับครอบครัวของ ร.ต. วินัย นาคะบุตร และ จ.อ.คำธร ทองเอียด สองนาวิกโยธินที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ โดยจ่าหน้าซองถึง นางประนอม นาคะบุตร และนางลัดดาวรรณ สุวรรณพงษ์ ภรรยาของทหารทั้งสองนาย มีข้อความที่เขียนด้วยลายมือของพระองค์เองว่า "ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวของทหารทั้งสองนาย ที่ต้องสูญเสียบุคคลที่รักยิ่งเพื่อชาติและบ้านเมือง และขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นความทุกข์นี้ด้วยความเข้มแข็งและอดทน (ลงพระนาม) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา 22 ก.ย. 2548

ทันทีที่นางประนอม นาคะบุตร ได้อ่านแล้วรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหลพราก มี ความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยครอบครัว และขอน้อมรับความห่วงใยที่พระองค์ทรงให้กำลังใจด้วยความเข้มแข็งอดทน ในขณะที่นางลัดดาวรรณก็แสดงความซาบซึ้งใจในพระมหากรุณาธิคุณเช่นเดียวกัน

พระราชทานพวงมาลาศพนย.
นอกจากนี้ นายสมพร ผวจ.สงขลา ได้เป็นผู้แทนนำพวงมาลาจาก สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่พระราชทานวางหน้าหีบศพของ ร.ต.วินัย ที่วัดแหลมทราย อ.เมือง จ.สงขลา และ จ.อ.คำธร ทองเอียด ที่วัดโพรงงู ต.ท่าหมอไทร อ.จะนะ จ.สงขลา ท่ามกลางความปลาบปลื้มของครอบครัวผู้สูญเสียทั้งสองเป็นอย่างล้นพ้น


พระราชทานยศ2นาวิกโยธิน
รายงานข่าวจากสำนักงานปลัดกระทรวง กลาโหมแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารกรณีพิเศษ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทหารนาวิกโยธินที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่บ้านตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นรา ธิวาส ดังนี้ ร.ต.วินัย นาคะบุตร เป็นนาวาเอก และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) ส่วน จ.อ.คำธร ทองเอียด ได้รับพระราชทานยศเป็นนาวาตรี และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) ทั้งนี้นายทหารทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ กล้าหาญ ไม่หวั่นเกรงอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ตน จนกระทั่งถูกคนร้ายรุมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ซึ่งการกระทำของข้าราชการทั้งสองนายก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการและประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นแบบอย่างอันควรแก่การยกย่องสรรเสริญสืบไป


จับผู้ต้องหาแล้ว1-กันเป็นพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสีตีปิซะ ดอแม หนึ่งใน 11 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งเป็นผู้ถือกุญแจอาคารที่ใช้กักขังเจ้าหน้าที่นาวิกโยธินทั้งสองนาย พร้อมทั้งควบคุมตัว นายรอพา มานิ ชาวบ้านในหมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ ซึ่งปรากฏในหลักฐานภาพถ่ายขณะกำลังปลุกระดมชาวบ้าน ซึ่งจับกุมได้ขณะเดินทางโดยรถไฟจาก อ.ระแงะ มายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงนำตัวไปสอบสวนขยายผล จากการสอบสวนคนทั้งสองได้ให้การที่เป็นประโยชน์มาก แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนทั้งสองไม่มีส่วนร่วมในการรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ถูกชักจูงให้ก่อความไม่สงบตาม คำปลุกระดมของกลุ่มขบวนการ ทางพนักงานสอบสวนจึงอาจจะกันตัวไว้เป็นพยาน เพื่อจับกุม กลุ่มวัยรุ่น 7-8 คน ที่เป็นผู้ขอกุญแจไปเปิดประตูอาคารเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองจน เสียชีวิต


เค้นขยายผลถึง8ฆาตกรตัวจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดยังไม่ใช่กลุ่มฆาตกรตัวจริง เป็นเพียงผู้มีส่วนร่วมในการจับตัวนาวิกโยธินทั้งสองนาย และปลุกระดมชาวบ้าน เพื่อต่อรองกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น สำหรับกลุ่มฆาตกรตัวจริงที่บุกเข้าไปรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตมี 7-8 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบขยายผลผู้ต้องหากลุ่มแรกที่จับตัวมา เพื่อให้ซัดทอดไปยังกลุ่มคนร้าย โดยเฉพาะนางสีตีปิซะ ดอแม เป็นกุญแจสำคัญในการสาวไป ถึงกลุ่มวัยรุ่นที่เปิดประตูเข้าไปฆ่านาวิกโยธินทั้งสองนาย เพราะเป็นผู้ให้กุญแจกับวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าอีก 2-3 วัน เจ้าหน้าที่คงออกหมายจับกลุ่มฆาตกรผู้ลงมือได้


จ่อออกหมายจับเพิ่มอีก3-4คน
นอกจากออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 11 คนแล้ว พล.ต.ท.อดุลย์ ผบช.ภ.9 ยังได้สั่งการให้ ศปก.ตร.ส่วนหน้า ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.อ.ระแงะ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมอีก 3-4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าเป็นคนร้ายที่มาจากอีกหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหาชุดนี้คงต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐานอีก 2-3 วัน จึงจะสามารถขอหมายจับจากศาลได้


"นัจมุดดีน"รับรู้จักผู้ต้องสงสัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสินชัย สาและ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการก่อความไม่สงบที่บ้านตันหยงลิมอ เป็นหัวคะแนนคนสำคัญของ อดีต ส.ส.นราธิวาส คนหนึ่ง โดยทำหน้าที่ขับรถยนต์ให้ในบางครั้ง และ ได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ตัน หยงลิมอ พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์ นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส. นราธิวาส ซึ่ง นายนัจมุดดีนบอกว่ารู้จักกับนายสินชัย สาและ จริงในฐานะของนักการเมืองกับชาวบ้านทั่วไป ที่ให้การสนับสนุนแต่ไม่ถึงกับเป็นคนสนิท ส่วนคำถามว่าเป็นคนขับรถให้นายนัจมุดดีน ด้วยหรือไม่ นายนัจมุดดีนไม่ตอบ เพียงแต่กล่าวว่า ตนพยายามอย่างเต็มที่ในการเข้าไปยุติความรุนแรง เพื่อนำเจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองออกมา โดยไม่คาดว่าเหตุการณ์จะบานปลายเหนือความคาดหมาย


ปิดล้อมค้นบ้านตันหยงลิมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 04.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้นำกำลัง ตำรวจนาวิกโยธิน และ อส.รวม 200 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 11 ชุด เข้าตรวจค้นบ้านเรือน ต้องสงสัยในพื้นที่หมู่ 7 และใกล้เคียงบ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เพื่อจับกุมแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน ตามรายชื่อที่เจ้าหน้าที่ได้มาจากการเค้นสอบผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้ แต่การตรวจค้นต้องคว้าน้ำเหลว และสร้างความแปลกประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าบ้านเรือนเกือบทั้งหมดไม่มีคนอาศัยอยู่ ประตูบ้านถูกใส่กุญแจแน่นหนา จนทำให้หมู่บ้านตันหยงลิมอ กลายเป็นหมู่บ้านร้าง


เผ่นเรียบกลายเป็นหมู่บ้านร้าง
โดยเชื่อว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสิงห์ชัย ซาแล ผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งไปสอบสวนตาม อำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวว่าจะถูกจับกุมเช่นกัน จึงพากันหลบหนีออกจากหมู่บ้าน โดยส่วนหนึ่งหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย อีกส่วนหนึ่งไปหลบซ่อนอยู่ตามบ้านญาติพี่น้องในพื้นที่อื่น

จากการตรวจค้นครั้งนี้แม้จะไม่ได้ตัวผู้ต้องสงสัย แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานต่าง ๆ ได้หลายอย่าง ซึ่งเกี่ยวโยงกับการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านตันหยงลิมอ รวมทั้งหมู่บ้านใกล้เคียงอีก 2 หมู่บ้าน ยังไม่มีการถอนกำลังออก นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนอกเครื่องแบบ ถูกส่งลงพื้นที่เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวของแนวร่วมอย่างต่อเนื่อง

เยียวยา-ทำบุญให้เหยื่อไฟใต้
ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 13.00 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว. ศึกษาธิการ ได้เป็นประธานเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่ จ.นราธิวาส โดยนำเงิน 1,455,000 บาท มามอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ 34 ราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสมานฉันท์ของรัฐบาล ส่วนที่สำนักงานกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส นายประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา และคณะได้เดินทางมาร่วมพิธีทำบุญ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีม็อบตากใบ โดยมีการนำสิ่งของมาให้ความช่วยเหลือด้วย มีประชาชนมาร่วมงานประมาณ 1,000 คน


ส่งอดีต39แนวร่วมกลับสู่สังคม
ส่วนที่โรงเรียนเสริมสร้างสันติสุข กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 ค่ายพระปกเกล้า อ.เมือง จ.สงขลา พ.ท.ศุภชัย ปรีชามาตร์ ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 ค่ายพระปกเกล้า ได้ทำพิธีส่งผู้ร่วมเสริมสร้างสันติสุข ที่ผ่านการฝึกอบรมปรับแนวคิดและทัศนคติ รุ่นที่ 4 จำนวน 39 คน จาก 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหง ปาดี อ.จะแนะ และ อ.ระแงะ เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากได้เข้ารายงานตัวระหว่างวันที่ 15-24 ก.ย.ที่ผ่านมา และผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พร้อมได้ถอนคำสาบานที่ให้ไว้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

พ.ท.ศุภชัย กล่าวว่า โรงเรียนเสริม สร้างสันติสุข ได้ดำเนินการฝึกอบรมเพื่อปรับทัศนคติให้กับผู้เข้ารายงานตัวร่วมเสริมสร้างสันติสุขแล้ว 5 รุ่น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้า หมายที่วางเอาไว้อย่างมาก ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะมีหน่วยเฉพาะในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบการติดตามประเมินผล เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

ยันจับ2ต้องสงสัยไม่ใช่"แพะ"
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ยืนยันว่า ภายหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทำร้ายทหารนาวิกโยธินที่หมู่บ้านตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิ วาส ต้องมีการปรับการทำงานทุกด้าน โดยจะใช้การข่าวนำและใช้ยุทธการสอดรับ ที่สำคัญต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะพลาดอีก ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 ราย คือนายสิงห์ชัย ซาแล และนายอัลอินซาน นิกะจิ เป็นผู้ที่ทางการติดตามมาโดยตลอด ไม่ใช่ "แพะ" อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าจับกุม อีกทั้งผู้ที่ออกหมายจับที่เหลืออีก 11 คน กำลังเร่งไล่ล่าตัวอยู่ ได้มีการสกัดกั้นตามแนวชายแดนทุกช่องทาง หากอยู่นอกประเทศต้องมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน


สุดโหดไล่พ้นแผ่นดินไทย
"คนพวกนี้ไม่สมควรที่จะอยู่บนแผ่นดินไทย หากทำได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่คนไทยแล้ว ถ้าอยากไปก็ไปเลย ซึ่งการใช้กฎหมายธรรมดาไม่เหมาะกับคนเหล่านี้ เพราะหากเป็นต่างประเทศเขาจับตายไปหมดแล้ว แต่ประเทศไทยยังแค่ออกหมายจับธรรมดาอยู่" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวและว่า ขอให้ประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าใจและเห็นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ อยากให้เป็นกำลังใจ เพราะหากคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันเรื่องทุกอย่างก็จะจบลงเร็วขึ้น


จับปีนรั้วสนามบินหาดใหญ่
เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ต.วัฒนชัย จันทิมางกูร สวส.สภ.อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ว่า มีกลุ่มชายต้องสงสัยลักลอบปีนรั้วเข้าไปในเขตหวงห้าม ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกของสนามบิน พื้นที่บ้านคลองหลา ต.คลองหอยโข่ง จึงรุดไปตรวจสอบพบกลุ่มชาย 7 คนกำลังเดินวนเวียนอยู่ภายในป่าพรุ ทราบชื่อภายหลังประกอบด้วย นายยา คารา วรรณ์ อายุ 38 ปี นายแอ หวันหมาน อายุ 54 ปี นายวรณ์ คาราวรรณ์ อายุ 36 ปี นายสมหมาย มาสโทจิตร์ อายุ 27 ปี นายวีระยุทธ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 16 ปี นายสมศักดิ์ กายรัตน์ อายุ 24 ปี และนายสมศักดิ์ กูลหมาด อายุ 21 ปี ทั้งหมดเป็นชาวไทยมุสลิม

พร้อมกับได้ยึดของกลางรถปิกอัพอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บจ 9826 นครศรีธรรมราช ซึ่งกระบะหลังบรรทุกท่อพีวีซียาว 1 เมตร 170 ท่อน บรรจุอยู่ในกระสอบ ถังแก๊สปิคนิค 1 ถัง ตาชั่ง 1 อัน และหม้อหุงข้าว 2 ลูก จึงควบคุมตัวไปสอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นเพียงชาวบ้านมีอาชีพตระเวนหาปลาไปขาย ไม่เกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์หรือความมั่นคง โดยขณะเกิด เหตุได้เข้าไปจับปลาอยู่ในป่าพรุ ซึ่งอยู่ในเขตท่าอากาศยานหาดใหญ่โดยไม่ทราบว่าเป็นเขตหวงห้าม เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก พร้อมกับให้ประกันตัวออกไป

เค้นเอเย่นต์ยาบ้าพัวพันไฟใต้
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ได้ควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์ ดอรอเอ็ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 172/ 48 ลงวันที่ 21 ก.ย. 48 ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มาฝากขังต่อศาลเป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.-5 ต.ค. 48 เนื่องจากต้องรอสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางยาเสพติด และรอผลตรวจพิมพ์นิ้วมือตามคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัด ค้านการประกันตัวเนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง ประกอบกับเป็นภัยต่อสังคม หากได้รับประกันตัวออกไปแล้วจะหลบหนีจนยากแก่การจับกุม พนักงานสอบสวนจึงขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพื่อขยายผลด้วยว่าผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่

"ในหลวง-ราชินี"ทรงเมตตา 2นย.
เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน" ถึงการเสียชีวิตของ ร.ต. วินัย นาคะบุตร และ จ.อ.คำธร ทองเอียด สองนายทหารหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสังหารที่บ้านตันหยงลิมอว่า ถ้าประชาชนรู้เรื่องลึก ๆ แล้วจะทราบว่าเป็นเรื่องที่สลดใจอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ และทรงวางพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพทหารทั้งสองนายด้วย นอกจากนั้นทางต้นสังกัดก็ได้ปูนบำเหน็จ และขอพระราชทานเครื่อง ราชอิสริยาภรณ์เป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งดูแลเรื่องสวัสดิภาพสวัสดิการ อีกทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับลูกของทหารทั้งสองคนไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ด้วยการส่งให้เรียนจนจบขั้นสูงสุด


ลั่นเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
"สิ่งที่เกิดขึ้นได้แสดงให้เห็นถึงความ อำมหิตของพวกโจร ทั้ง ๆ ที่นายทหารทั้งสอง อยู่ในพื้นที่มาเป็นเวลานานแล้ว และได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ทำงานร่วมกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิด ทหารทั้งสองสามารถใช้ปืนยิงต่อสู้ป้องกัน ตัวได้แต่ก็ไม่ทำยอมให้จับตัวไปแต่โดยดี และระหว่างที่ถูกจับตัวไว้เป็นเวลา 10 กว่าชั่วโมง ก็ไม่ได้รับประทานน้ำหรืออาหารเลย ถูกทรมานบิดแขนจนหัก ใช้น้ำร้อนราด ถูกแทง ทุบหัวจนกะโหลกร้าว ช้ำไปทั้งตัว นี่คือศักดิ์ศรีลูกนาวิกโยธินที่เขาถูกทำขนาดนี้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สัตว์เดรัจฉานก็คงไม่ทำขนาดนี้ เป็นเรื่องที่โหดร้ายทารุณมาก อยากบอกกับพี่น้องประชาชน ว่าทางราชการใช้ความอดทนสูงมากพยายามเข้าใจทุก อย่าง แต่โจรมันก็สันดานโจรวันยังค่ำ คนดีก็ถูกหลอกเข้าไปร่วมด้วย พวกมันสร้างสถานการณ์กันเองแล้วโยนเป็นความผิดของทหาร จากนั้นก็ปล่อยข่าวกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว


กร้าวต้องเด็ดขาด-รับผิดชอบเอง
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอร้องคน กรุงเทพฯ ที่ไม่ค่อยได้ไปในพื้นที่ ไม่ค่อยรู้อะไรว่า การวิจารณ์อยู่ที่กรุงเทพฯ การพ่นน้ำลายออกมาแล้วมีผลต่อพื้นที่ อยากขอให้ช่วยระมัดระวัง เพราะวันนี้เราได้ประกาศให้สถานการณ์ทางใต้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ในต่างประเทศเวลาเขา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะให้อำนาจเจ้าหน้า ที่รัฐทำงานเต็มที่ไม่อย่างนั้นทุกอย่างไม่เข้าสู่ระเบียบ เพราะฉะนั้นอย่าทำเป็น "แผ่นเสียงตกร่อง" ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความอดทนมาก บางคนอาจทำงานผิดพลาดบ้างก็ถูกลงโทษไป

"ต่อไปนี้ผมขอประกาศ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นผมรับผิดชอบเอง เพื่อให้การดำเนินการในภาคใต้เรียบร้อย ถ้าผมทำไม่ดี 3 ปีกว่าข้างหน้า ประชาชนก็ไม่ต้องเลือก ถือว่าประชาชนไม่ไว้ใจแล้ว ถ้าผมทำผิดกฎหมายก็ดำเนินคดีได้เลย ผมจะใช้ระบบเมตตาธรรมอย่างเต็มที่ ดูแลคนบริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องไทยพุทธหรือมุสลิม แต่คนที่เป็นโจรผมต้องให้ไล่ล่าเพื่อนำมาเข้ากระบวนการยุติธรรม เราจะไม่ใช้ศาลเตี้ยแน่นอน แต่ถ้ามีการต่อสู้ขัดขวางก็ต้องมีการใช้อาวุธ ไม่อย่างนั้นก็เอาไม่อยู่ ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องดำเนินการให้เต็มที่" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ย้ำไม่ยอมให้มีเขตปลดปล่อย
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า จะมีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมดในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อกำกับการทำงานให้ชัดเจน ไม่ต้องเก้ ๆ กัง ๆ ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ดูเหมือนเก้ ๆ กัง ๆ เดินหน้าก็ไม่เดิน ถอยหลังก็ไม่ถอย ถ้าเป็นคนข้ามถนนก็ถูกรถชนตายแน่ เราจะต้องวางระบบให้ดี เด็ดขาดในการทำงาน ส่วนการพัฒนาเราก็ลงไปลุยเต็มที่ สร้างงาน ปรับปรุงระบบการศึกษา ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของเขากับภาครัฐ แต่การบังคับใช้กฎหมายรัฐต้องทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่เด็ดขาด

"คนที่ก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นไม่เคยสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน และไม่ต้องบอกว่าเขตนี้เป็นเขตปลดปล่อย เพราะจะไม่ยอมให้มีเขตปลดปล่อยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ถ้าพื้นที่ไหนทหารไม่เข้าไปผมจะเข้าไปเอง จะดูแลราษฎรอย่างใกล้ชิด ถ้าผู้บังคับบัญชาคนไหนอ่อนแอ ไม่เข้มแข็งก็ต้องเปลี่ยน ไม่ว่าระดับใดทั้งสิ้น ผู้บังคับบัญชาที่ดีต้องไม่สร้างปัญหากับประชาชน ต้องเข้มแข็ง ต้องทำงานเด็ดขาดชัดเจน ต้องรักลูกน้อง และให้ความเป็นธรรม" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ระบุต่อไปต้องเลือกสัญชาติเดียว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า จะเริ่มทำบัตรสมาร์ทการ์ดตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และจะตรวจสอบเป็นรายบุคคลเลยว่าถือสัญชาติใด ถ้ามีสองสัญชาติต้องเลือกว่าจะถือสัญชาติใด ไม่อยากอยู่ประเทศไทยไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากอยู่ประเทศไทยต้องถือสัญชาติไทย และต้องถือสัญชาติเดียว แต่ถ้าใครต้องการเข้าไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลจะประสานกับรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อออกบัตรในการเข้าไปทำงานให้ แต่ ไม่ใช่การให้สัญชาติ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องจัด การให้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จุดไหนอ่อนแอ ล่าช้าจะต้องเล่นงาน

นายกรัฐมนตรี ยอมรับในตอนท้ายว่า ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่หนักอกที่จะต้องแก้ไขให้ได้ ไม่มีอะไรที่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศร่วมใจกันแล้วทำไม่ได้ จึงขอพลังจากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันสนับสนุนให้กำลังใจคนดีและไล่ล่าคนไม่ดี นำมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ปัญหายุติ ขอให้รู้ว่าตนเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ และจะไม่ยอมให้มีเขตปลดปล่อยเด็ดขาด

ยันไฟใต้ไม่เหมือน"อาเจะห์"
พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาด ไทย กล่าวถึงการฟื้นฟูสภาพจิตใจชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้ได้ข้อมูลจากภาคเอกชนที่เข้าไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรับทราบความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเน้นการสนับสนุนอุปกรณ์สิ่งของ การร่วมมือร่วมใจ เพื่อเข้าไปดูแลเรื่องความสะดวกต่าง ๆ

ส่วนกรณีที่นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส. ระบุว่า ขณะนี้คนทุกศาสนา มีความหวาดระแวง หวาดกลัว และไม่ไว้วางใจนั้น จะต้องเข้าใจประชาชน และทำให้ประชา ชนเข้าใจว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร และยืนยันว่าเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เหมือนกับกรณีของจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย เพราะคนไทยอยู่อย่างสามัคคีกัน มีแต่พวกไม่หวังดีเท่านั้นที่ออกมาก่อกวน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะ มอบหมายงานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทร่วมแก้ปัญหาภาคใต้มากขึ้น

ปชป.ส่งส.ส.ใต้ลุยตันหยงลิมอ
ทางด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ ส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พรรคทั้ง 10 คน นำโดยนายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส ลงพื้นที่บ้านตันหยงลิมอ วันที่ 25 ก.ย.นี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงของปัญหาที่เกิดขึ้น หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาจะได้นำเสนอรัฐบาลต่อไป โดยเบื้องต้นให้รายงานข้อเท็จจริงในที่ประชุมพรรครับทราบ ใน วันอังคารที่ 27 ก.ย.นี้ก่อน นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค ไปร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ จ.อ. คำธร ทองเอียด หนึ่งในนาวิกโยธินที่เสียชีวิต ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ด้วย


มาเลย์แนะ"อาเซียน"เข้ามาช่วย
หนังสือพิมพ์เดอะนิว สเตรทส์ ไทมส์ รายงานว่า นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีศึกษาธิการมาเลเซีย กล่าวแสดงความวิตกต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ที่กำลังทวีความรุนแรงและคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,000 คนแล้ว พร้อมกันนี้ได้เสนอแนะให้กลุ่มชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขสถาน การณ์

นายฮิชามมุดดิน กล่าวว่า เขาต้องการที่จะเตือนให้ทางการไทยได้รับรู้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของไทยรู้สึกได้ในมาเลเซีย และว่ามาเลเซียไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย แต่เนื่องจากมีภูมิประเทศที่ติดต่อกัน จึงรู้สึกถึงผลที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำกล่าวของ รัฐมนตรีศึกษาธิการมาเลเซียมีขึ้น 1 วันหลังจากมาเลเซียส่งกำลังประจำการตามแนวชายแดนติด ต่อไทย เพื่อป้องกันสถานการณ์ความไม่สงบลุก ลามข้ามพรมแดนเข้าไปยังฝั่งมาเลเซีย

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 25 กันยายน 2548

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม