พบแล้วศพนาวิกโยธิน จ่อยิงหัวทิ้ง “โจรใต้”อุ้มฆ่าโหด คาดล้างแค้น16ศพ บิ๊กโอ๋กร้าวสั่งไล่ล่า
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็พบศพ พลทหารมะอีลา โตะลู อายุ 24 ปี ทหารนาวิกโยธิน สังกัดกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ปฏิบัติหน้าที่กองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บ้านยือลอ ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูก 8 โจรใต้พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกอุ้มตัวหายไปจากบ้านพักเมื่อคืนวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
จ่อหัวยิงทิ้ง-อุ้มฆ่านาวิกโยธิน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 เมษายนว่า ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ต.ทิวา วรรณโกษิตย์ พนักงานสอบสวน สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งพบศพคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านกอตอ หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จึงพร้อมด้วย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. นำกำลังทหารตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงจึงพบว่า ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว คือ พลทหารมะอีลา โตะลู ที่ถูกบุกอุ้มหายไปจากบ้านเลขที่ 88/3 หมู่ 3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะลาพักไปบ้านภรรยา โดยสภาพศพถูกมัดมือทั้งสองข้างด้วยสายเคเบิ้ลไทน์พลาสติกสีขาว หรือ สายรัดสายไฟฟ้า มีบาดแผลถูกปืน 9 มม.ยิงที่ศีรษะและขมับ 2 นัด คาดว่า ถูกก่อเหตุมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว เนื่องจากไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือขัดขืนในบริเวณที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
คาดแค้น16ศพลุยค่ายทหาร
หลังพบศพ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย. ได้รีบนำธงชาติมาคลุมร่างอันไร้วิญญาณของ พลทหารมะอีลา เพื่อแสดงความเคารพ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า พลทหารมะอีลา เป็นคนดี มีระเบียบวินัย หลังพ้นจากการเกณฑ์ทหาร 2 ปีไปแล้ว ยังขอสมัครต่อเพื่อรับใช้ประเทศชาติ แต่มาถูกคนร้ายบุกมาอุ้มตัวไปสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณ โดยสาเหตุคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มโจรที่บุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยปืนเล็กที่ 2 แต่ถูกตลบหลังจนเสียชีวิตไป 16 ศพ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงต้องการมาล้างแค้น เนื่องจาก พลทหารมะอีลา ก็ประจำการณ์ในหน่วยดังกล่าวด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานเป็นสายเคเบิ้ลไทน์พลาสติกสีขาว หรือสายรัดสายไฟฟ้า ชนิดเดียวกับที่พบในศพของกลุ่มคนร้าย 16 ศพด้วย
“บิ๊กโอ๋”กร้าวสั่งล่าหัวคนร้าย
ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังทราบข่าวว่า รู้สึกเสียใจ และจะไม่ยอมให้ทำอย่างนี้อีก จะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ตนไม่ยอมเด็ดขาด ใครที่คิดไม่ดีตนก็ไม่ดีด้วย เรื่องนี้ไม่ต้องกำชับกำลังพลเพราะเขาฉลาดพอ วันนี้ต้องเข้าใจว่า การเจรจากับการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสงบสุขในภาคใต้ต้องเดินไปเป็นคู่ขนาน ทั้งนี้การเจรจาอย่างน้อยผู้ก่อความไม่สงบก็เข้ามาคุยกับเรา ส่วนที่ไม่ยอมก็ว่ากันไป
ลั่นแรงมาแรงไปเอาตัวให้ได้
“พวกที่มีปัญหามีแค่บริเวณเทือกเขาพูโดทางเรากำลังดำเนินการอยู่ ส่วนการป้องกัน คงไม่ต้องบอกว่า ต้องทำอย่างไร เขารู้ตัวกันดีว่าจะทำอย่างไรเพราะอยู่กันมาหลายปีก็ยังอยู่กันได้ไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าพวกนี้มาเล่นกับลูกน้องตนอย่างนี้ต้องเอาตัวมาให้ได้ และตนได้บอกกับแม่ทัพภาคที่ 4 ไปแล้วต้องเอาตัวมาให้ได้ ถ้าอย่างนี้แล้วแรงมาก็ต้องแรงไป เฉพาะคนที่ไม่ดี ส่วนคนดีก็เชิญเข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยด้วยกัน” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ผบ.ทร.สั่งกำลังพลระมัดระวัง
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่งเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพลทหารที่เสียชีวิต และตนเตรียมลงพื้นที่พบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ขอให้ติดตามผลการสอบสวนการเสียชีวิต อย่าเพิ่งคาดเดากันไปก่อน อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีความระมัดระวังและเข้มงวดในการปฏิบัติงานมากขึ้น
“ประยุทธ์”เตือนหาที่พักปลอดภัย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลว่าอาจเกิดเหตุลักษณะเดียวกันอีกในอนาคตว่า แต่ละหน่วยต้องหามาตรการในการป้องกันตนเอง ทั้งนี้เคยสั่งการไว้ว่า หากยังไม่ชัดเจน กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ส่วนไหนที่มีอันตราย ก็ยังไม่ให้กำลังพลรีบกลับบ้าน โดยให้ไปหาที่พักที่ปลอดภัยก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ทั้งนี้เราจะต้องดูแลอย่างเต็มที่และให้กำลังใจ ให้ความเป็นห่วง และกำชับกำลังพลทุกครั้งเวลาเดินทางกลับไปพักที่บ้าน
ไม่ฟันธงแก้แค้นทหารหรือเปล่า
“ทุกคนต้องดูแลตัวเอง และต้องเห็นใจทหารที่กลับไปพักเพราะเขาถืออาวุธไปไม่ได้ ไม่เหมือนกับบางประเทศ ถ้าเป็นโจรถืออาวุธได้ทุกที่ ส่วนการอุ้มฆ่าครั้งนี้จะเป็นการแก้แค้นหรือไม่นั้นยังไม่รู้ ต้องให้ทางหน่วยมีการตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ ถ้าใช่เราต้องคิดว่า จะต้องทำอย่างไรต่อไป บางทีคนทำงานอาจจะต้องประจำคนละพื้นที่กับบ้านตัวเอง นอกจากนี้จะต้องดูแลว่า จะทำอย่างไรให้ปลอดภัย หรืออาจต้องหาที่อยู่ชั่วคราวให้กับเขาเหล่านั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สมช.อ้างปกติ-รุนแรงช่วงรอยต่อ
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มที่ยังต้องการใช้ความรุนแรง สาเหตุเพราะความแตกต่างทางความคิด ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติ ประกอบกับปัจจัยต่าง ทั้งกลุ่มค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด จึงต้องให้เวลาในการแก้ปัญหา และถือเป็นภาระของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่รับปากจะไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ ยืนยันจะยังไม่มีการปรับกำลังและยุทธศาสตร์การทำงาน แม้ขณะนี้สถานการณ์จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในช่วงรอยต่อ
ปัดตบหน้ารัฐบาลเจรจาบีอาร์เอ็น
เวลานี้ต้องอดทนและต่อสู้กันไป เพราะการแก้ปัญหาต้องใช้ระยะเวลา โดยจะมีการประเมินความชัดเจนจากการเจรจากับแกนนำบีอาร์เอ็นเป็นระยะ อีกทั้งเกิดการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการตบหน้ารัฐบาล เพราะการพูดคุยถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่จะต้องมีการพัฒนาต่อไป
อ้างแผนล้มเจรจาจากลุ่มคัดค้าน
“ต้องเรียนให้เข้าใจตรงกัน กระบวนการพูดคุยที่เริ่มขึ้นไม่ว่าจะประวัติศาสตร์ที่ไหนมาก็ตาม ระหว่างตรงนี้มันจะมีรอยต่อของปัญหาอยู่ มันมีทั้งผู้เห็นต่างและผู้เห็นด้วย แม้ผู้เห็นด้วยก็ยังมีการหยิบยกประเด็นมาชิงการนำกันก่อนซึ่งกันและกัน ในขณะเดียวกันผู้เห็นต่างก็มีวิธีการของเขาที่จะทำให้วิธีการพูดคุยสะดุดหยุดลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจุดมุ่งมั่นที่จะเดินต่อไป เพราะฉะนั้น ตรงนี้มันเป็นปรากฏการณ์ปกติต่อการเริ่มต้นกระบวนการพูดคุย”พล.ท.ภราดร กล่าว
“ปู”โบ้ยแค่คุยไม่ถึงขั้นเจรจา
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การดูแลความสงบในจังหวัดชายแดนใต้ ยังคงต้องให้สมช.ดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังเป็นเพียงขั้นตอนการพูดคุยกับแกนนำบีอาร์เอ็นเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นตอนเจรจา เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันก่อน เนื่องจากต่างคนต่างไม่เข้าใจกันเป็นเวลานาน
ยิงชาวบ้านศรีสาครดับอีกศพ
สำหรับเหตุร้ายอื่นๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ร.ต.ต.สถิตย์ เกษตรการา ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ในพื้นที่ บ้านโคกสะตอ ม.2 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่กลางถนน ทราบชื่อต่อมาคือ นายดือราแม เฮ็งปียา อายุ 49 ปี ถูกยิงเข้าที่ลำคอและแผ่นหลัง 2 นัด จึงได้นำศพส่งชันสูตร
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายดือราแม กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดื่มน้ำชาในหมู่บ้านตามลำพัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุกก็มีคนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ประกบยิงเสียชีวิต
แขวนบึ้มทหารบาดเจ็บ2นาย
ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 2 เมษายน พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนเลียบคลองชลประทาน ม.3 ต.รูสะมิแล จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารสุกรี สุหลง อายุ 22 ปี อาการสาหัสจากถูกสะเก็ดระเบิดตามใบหน้า และลำตัวหลายแห่ง และ พลทหารพันธ์ศักดิ์ เชื้อสม อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัว ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ต้นไม้ที่อยู่ริมถนนถูกแรงระเบิดกระจัดกระจาย มีชิ้นส่วนกล้องเหล็ก และชิ้นส่วนระเบิดตกเกลื่อนไปทั่วบริเวณ
จากการสอบสวนทราบว่า ทหารทั้ง 2 นายสังกัด ร.1524 ฉก.ปัตตานี 23 โดยขณะเดินลาดตระเวนเส้นทางจนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่มืด คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในกล่องเหล็กและแขวนไว้บนต้นจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น และมีทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น