ทีมข่าวความมั่นคง รายงานในการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ระหว่างกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นกับตัวแทนรัฐบาลไทยตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา ยังมีคำถามกันอยู่ว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำการเจรจาของกลุ่มบีอาร์เอ็น มีอำนาจสั่งการกลุ่มขบวนการได้หรือไม่เพียงใด ที่สำคัญคือสองแกนนำตัวจริงที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง คือ นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อุเซ็ง รับรองการเจรจาครั้งนี้หรือไม่ และแกนนำทั้งสองคนมีบทบาทแค่ไหน อย่างไร ในการเจรจา เพราะหากการเจรจาครั้งนี้ ไม่ได้รับรองจากแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ และความน่าเชื่อถือจากแกนนำในพื้นที่จริง ปลายทางแห่งสันติภาพคงยากที่จะปรากฏให้เห็นในเร็ววัน
ฮัดซัน ตอยิบ
แหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การันตีว่า
การเจรจาครั้งนี้ทั้ง นายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้ที่อยู่ "เบื้องหลัง" การเจรจาจริง รวมทั้งยังอยู่เบื้องหลังการสั่งการให้ก่อเหตุรุนแรงรายวันในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งสองได้เก็บงำความลับเกี่ยวกับสถานที่กบดานอยู่ในชั้นลับสุดยอด โดยมีข่าวมา 2 ทาง
- ทางหนึ่ง คือ หลบหนีอยู่ภายใน ประเทศมาเลเซีย
- และอีกทางหนึ่งมีข่าวว่าทั้งสองพำนักอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย
อิสมาแิอ ระยะหลง
สำหรับการสั่งการของแกนนำทั้งสองคน จะกระทำผ่านมายังผู้นำกองกำลังทหารที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่ ปัจจุบันมีแกนนำคนสำคัญ 2 คน คือ นายรุสดี ยี่งอ และ นายอิสมาแอ ระยะหลง ซึ่งเป็นแกนนำหลักทางการทหาร โดยมีหน้าที่สั่งการต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายปฏิบัติการและเตรียมกำลังเพื่อก่อเหตุรุนแรง ภารกิจหลักในปัจจุบันของกองกำลังในพื้นที่ จะเน้นหนักไปที่การโจมตีฐานปฏิบัติการของทหาร และตำรวจ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมและเป็นจุดอ่อน
ส่วนสาเหตุที่แกนนำทั้งสองรายยังคงสั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ พุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ แม้จะมีการเผยแพร่ข้อตกลงเรื่องการลดการก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือน "รอมฎอน" ทางหน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่า เป็นปฏิบัติการตอบโต้และกดดันรัฐบาลไทยที่ไม่ยอมรับ 5 ข้อเสนอหลัก ที่นำเสนอโดย นายฮัสซัน ตอยิบ ลงในเว็บไซต์ยูทูบโดยเฉพาะข้อเสนอหลักเรื่องการถอนกำลังทหาร-ตำรวจ ข้อเสนอเรื่องการปลดหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มขบวนการ และข้อเสนอเรื่องการขอ "ปกครองตนเอง" เมื่อรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ ทั้งยังไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐสภาลงนามรับรองข้อเสนออย่างเป็นทางการ ดังนั้น การก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้ และกดดันท่าทีของฝ่ายรัฐบาลไทยจึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และเชื่อว่าในเดือนรอมฎอนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป สถานการณ์ความรุนแรงก็จะไม่ลดลง อย่างที่รัฐบาลไทยคาดหวังอย่างแน่นอน
การข่าวของฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนว่า ในช่วงนี้แกนนำหลักทั้งสองคนได้สั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ เตรียมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมีเป้าหมายใน จ.นราธิวาส ที่ อ.บาเจาะ และ อ.ศรีสาคร ใน จ.ยะลา ที่ อ.ยะหาและอ.บันนังสตา และใน จ.ปัตตานี ที่ อ.หนองจิก และ อ.ยะรัง
ทั้งนี้ สำหรับบทบาทการสั่งการอยู่เบื้องหลังการเจรจาครั้งที่ผ่านๆ มา ทั้ง
นายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้สั่งการ และกำหนดเกมผ่านตัวเปิด คือ
นายฮัสซัน ซึ่ง
ประเด็นในการเจรจาทั้งหมด จะถูกกำหนดโดยแกนนำทั้งสองคนมาแล้วทั้งหมด รวมทั้งการออกมา
ชิงการนำและกดดันรัฐบาลผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หลังตัวแทนรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ 5 ข้อที่นำเสนอบนโต๊ะเจรจา
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ยอมรับว่า การพูดคุยระหว่าง สมช.กับ บีอาร์เอ็น ทางนายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้คัดเลือกบุคคลเข้ามาเจรจาทั้งหมด รวมทั้งเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ส่งสัญญาณมาให้รัฐบาลไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดคำแปลเพื่อชี้แจงมายังรัฐบาลอีกครั้ง
ขณะที่เป้าหมายของ บีอาร์เอ็น ยังวางไว้สูงและไม่ลดระดับลงจากการสถาปนา "รัฐปัตตานี" และหากสามารถเดินไปสู่บันไดขั้นที่ 7 คือ แบ่งแยกดินแดนหรือปกครองตนเองได้สำเร็จ ทางกลุ่ม บีอาร์เอ็น ก็เตรียมที่จะแบ่งเค้กฟอร์มทีม "คณะผู้ปกครอง" ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความกระอักกระอ่วนใจของฝ่ายไทยที่เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ลำบากเช่นทุกวันนี้
เปิดปูม "สะแปอิง บาซอ"
"นายสะแปอิง บาซอ" มีฐานะตำแหน่งเป็นถึง
"ครูใหญ่" แห่ง "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" ซึ่งเปิดสอนถึงขั้นอนุปริญญา ภายใต้การบริหารของ "นายสะแปอิง บาซอ" ชาวตำบลเมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี อดีตกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สำหรับ "นายสะแปอิง บาซอ" จบการศึกษาด้านศาสนาจากเมืองมาดีนะห์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ในยุคก่อนที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย จะปรับปรุงระบบการเรียนการสอนทางด้านศาสนา ด้วยการหันไปยึดแนวทางของ
วาฮาบี "
โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ
นายสะแปอิง บาซอ" เป็นแกนนำสำคัญของ "ขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น โคออดิเนต" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้หลายครั้ง นี่คือภาพลักษณ์ของ "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" และบทบาทของ "นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นำพาโรงเรียนนี้สู่ความรุ่งเรือง เป็นบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่วันนี้ถูกยกระดับให้แกนนำคนสำคัญของ ขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแกนนำสำคัญระดับที่หน่วยงานของรัฐไทยเชื่อว่า ชายชื่อ
"นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นี้ คือว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปัตตานี
เบื้องหลังนายมะแซ อุเซ็ง
นายมะแซ อุเซ็ง มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 33/1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทั้งนี้ นายมะแซ เคยรับราชการเป็นทหารเกณฑ์ในค่ายเสนาณรงค์ สังกัด ร้อย.5 พัน.1 ระหว่างรับราชการทหารมีส่วนร่วมในการปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) ในระหว่างปี 2522-2525
โดย นายมะแซ มีประวัติการฝึกการก่อวินาศกรรม และการรบแบบกองโจรจากโรงเรียนนายร้อยประเทศลิเบีย จากนั้นในปี 2547 เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นปืนค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายมะแซ ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง พบแผนการปฏิบัติการ 7 ขั้นตอน เพื่อการสถาปนารัฐปัตตานี
และเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ บีอาร์เอ็น อย่างไรก็ตาม นายมะแซ สามารถหลบหนีไปได้โดยหลบหนีข้ามแดนไปยังมาเลเซีย โดยการช่วยเหลือของ นาย เจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ประธานขบวนการมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี และเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการกองกำลังกลุ่มบีอาร์เอ็น เพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้จนกระทั่งปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น