วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เสียงสะท้อนความรู้สึกประชาชนในพื้นที่กับกรณี เผาโรงเรียน 6 โรง ใน 2 อำเภอ จ.ปัตตานี



เสียงสะท้อนความรู้สึกประชาชนในพื้นที่กับกรณี เผาโรงเรียน 6 โรง ใน 2 อำเภอ จ.ปัตตานี

         จากเหตุการณ์เมื่อ 12 ต.ค.57 ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวน ได้ทำการลอบวางเพลิงโรงเรียน 6 แห่งใน 2 อำเภอของ จ.ปัตตานี คือ อ.ทุ่งยางแดง และ อ.มายอ โดยในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง มีโรงเรียนที่ถูกวางเพลิงเผา 5 โรง ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านน้ำดำ ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.น้ำดำ โรงเรียนบ้านปากู ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.ปากู โรงเรียนบ้านเขาดิน ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.เขาดิน โรงเรียนบ้านมะนังยง ตั้งอยู่หมู่ 4 ต.ปากู และโรงเรียนบ้านตือเบาะ ตั้งอยู่หมู่ 7 ต.พิเทน

           ในส่วนที่ อ.มายอ โรงเรียนที่ถูกคนร้ายวางเพลิงเผา คือ โรงเรียนบ้านกาเสาะ ต.กาเสาะ อ.มายอ จ.ปัตตานี

         ทันทีที่มีการนำเสนอข่าวสารออกไปทั้งจากสื่อในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทุกคนที่ได้เห็นภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับการเผาทำลายโรงเรียน สถานที่ซึ่งเป็นที่ศึกษาเล่าเรียนของเด็กนักเรียนที่เป็นบุตรหลานของตัวเอง ต่างออกมากล่าวถึงเรื่องราวเหตุการณ์และการกระทำที่มีผลกระทบต่อความรู้สึก ลองมาฟังกันว่าคนในพื้นที่เหล่านี้รู้สึกอย่างไรต่อเหตุลอบเผาโรงเรียนของกลุ่มคนร้าย

         เด็กชายซุฟยาน อาบู วัย 12 ปี เขาบอกว่า ได้ข่าวว่าโรงเรียนถูกเผา แม่เห็นข่าวจากในทีวี มีข่าวเผาอาคารเรียน ก็รู้สึกสงสารเด็กๆ ในโรงเรียนเหล่านั้นที่จะไม่มีที่เรียนหนังสือ “อยากขอว่าอย่าให้มีการเผาโรงเรียนอีกเลย อย่าทำร้ายครู สงสารครู ถ้าไม่มีครู ไม่มีโรงเรียน พวกเราจะเป็นคนเก่งได้อย่างไร เราอยากเก่ง อยากเป็นครู มาสอนน้องๆ ให้เก่ง จะได้ไม่เป็นคนไม่ดี”

        ขณะที่ อาซูวรรณ สะมะแอ ผู้ใหญ่บ้านสะปาเราะ อ.ยะหา จ.ยะลา บอกว่า รู้สึกหดหู่และตกใจมากๆ เมื่อทราบข่าวการเผาโรงเรียนอีกครั้ง รู้สึกว่ายิ่งนับวันเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดว่าปัญหาเริ่มลดลงแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย มันยิ่งหนักขึ้น ยิ่งซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา

       “รู้สึกสงสารเด็กๆ ที่ไม่มีที่เรียน อาจต้องเรียนในที่ที่ไม่สะดวกสบายเหมือนในห้องเรียน และแน่นอนสมาธิในการเรียนก็ย่อมไม่มีด้วย ก็ขอภาวนาให้เหตุการณ์แบบนี้เบาบางลง เราจะได้ความสุขกับการทำงานและความเป็นอยู่มากขึ้นเสียที ที่สำคัญจะได้ลดความสูญเสียในทุกๆ ด้าน แต่เมื่อเหตุการณ์ร้ายยังคงเกิดขึ้น เราก็ต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้มันเกิด ต้องเข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัย ทั้งสามฝ่ายเลยนะ ไม่ใช่เข็มงวดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ประชาชนเองก็ควรเป็นหูเป็นตาให้ด้วย เพราะนับเป็นกำลังหลักที่สำคัญที่สุด โรงเรียนเป็นของเรา ต้องช่วยกันรักษา”

           อัยเสาะ มะแซ ชาวบ้าน จ.ปัตตานี กล่าวว่า นานแล้วที่ไม่ได้ยินว่ามีการเผาโรงเรียน แต่เมื่อวันอาทิตย์ได้ดูข่าวก็ตกใจ ไม่คิดจะมาทำช่วงนี้ เพราะโรงเรียนปิดเทอมอยู่ แต่การเลือกทำช่วงปิดเทอมน่าจะง่ายกว่า

         “ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ใครก็มาทำลายของของเราไม่ได้ เราต้องประณามคนร้ายที่ทำ ต้องละหมาดขอพรเมื่อเกิดเหตุ ทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่คิดร้ายได้กลับใจบ้าง ให้พวกเขาคิดใหม่ ไม่มาทำลายข้าวของแบบนี้ เพราะโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชุมชนพัฒนา เมื่อลูกหลานเรามีความรู้ ก็จะอยู่ในสังคมได้โดยไม่ถูกเอาเปรียบ คิดทันคนไม่ดี คนที่มาหลอกให้ไปทำสิ่งไม่ดี แต่ถ้าไม่มีโรงเรียน ทุกคนจะไม่มีความรู้ เด็กๆ จะไม่มีอนาคต เราก็ต้องลำบากต่อไป”

        หลากหลายความรู้สึกจากดินแดนปลายด้ามขวาน สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยิ่งยืดเยื้อยาวนาน ก็ยิ่งทวีความซับซ้อนขึ้นในความรู้สึกของคนในพื้นที่และชาวบ้านตาดำๆ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม