ชาวไทยพุทธนราฯ บริจาคเงินสร้างอาคารอาบน้ำละหมาดในมัสยิด พร้อมรับเกียรติบัตรจากอิหม่ามเพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทำความดี ด้านเจ้าตัวเผยการทำความดีไม่เกี่ยวศาสนา วอนอยากเห็นความรัก ความสามัคคีกลับคืนมาอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.57 ที่บริเวณหน้ามัสยิดดารุลอิสติกลาล ชุมชมยะกัง อ.เมือง จ.นราธิวาส นายมาหามะรือสะลี บินเซ็ง อิหม่ามประจำมัสยิดดารุลอิสติกลาล และคณะกรรมมัสยิดฯ ได้เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่ผู้บริจาค หรือวากาฟ สร้างเป็นอาคารอาบน้ำละหมาด และปรับภูมิทัศน์ในบริเวณมัสยิด โดยมีผู้ได้รับมอบเกียรติบัตรรวม 3 ท่าน รวมเงินบริจาค 360,000 บาท ประกอบด้วย นายมานพ สกุลจีน ,นายมัรดี แวดาโอะ ,และนายมัรลี แวดาโอะ ทั้งนี้ได้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 200 คน
ขณะที่นายมานพ สกุลจีน กล่าวว่า “ตนเป็นคนในพื้นที่นราธิวาสนับถือศาสนาพุทธ ในการบริจาคในครั้งนี้ ไม่ได้หวังชื่อเสียง แต่เป็นการให้ในตามแนวทางช่วยเหลือสังคม และตอบแทนแผ่นดินเกิด แม้ตนจะเป็นไทยพุทธ แต่การทำความดีไม่กีดกั้นพุทธ หรืออิสลามทุกคนทำได้ สิ่งที่อยากเห็นคือความรักความสามัคคีของคนในพื้นที่กลับมา และอยู่ร่วมกัน แม้จะแตกต่างแต่เราไม่แตกแยก และสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้”
ข้อมูลอ้างอิง : http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000117182
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังในการให้การรักษาความปลอดภัยสนามบินนราธิวาสอย่างเข้มงวด อำนวยความสะดวกให้แก่ญาติที่มารอบรับผู้แสวงบุญ และเพื่อป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบ
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 57 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณท่าอากาศยานนราธิวาส ได้มีการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทุกจุด ตั้งแต่ประตูทางเข้ารอบอาคาร และบริเวณภายในอาคารผู้โดยสาร ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติพี่น้องที่เดินทางมาต้อนรับผู้แสวงบุญที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
สำหรับการดูแลความปลอดภัยครั้งนี้ ได้สนธิกำลังระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีการตั้งจุดตรวจเอกซเรย์ก่อนเข้าตัวอาคารผู้โดยสารเพื่อป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง : http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000117032
สำหรับกลุ่มฮุจญาจที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์จากประเทศไทยในปีนี้ได้รับโควต้าทั้งหมด ๑๐,๔๐๐ คน สำหรับบรรยากาศการต้อนรับในครั้งนี้เป็นไปอย่างอบอุ่น ญาติของฮุจญาจจำนวนมากทยอยเดินทางมารอรับตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกให้บริการตรวจคัดกรองสุขภาพกลุ่มฮุจญาจเพื่อสุ่มตรวจโรคติดต่อเพื่อเป็นการป้องกันก่อนที่ฮุจญาจจะเดินทางกลับบ้าน
ด้านนายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า ในการต้อนรับฮุจญาจที่เดินทางกลับไปประกอบพิธีฮัจย์ในครั้งนี้ ได้อำนวยความสะดวกโดยจัดช่องทางในการเดินทางเข้าออกให้มีความสะดวกรวดเร็วขึ้น และส่วนในการการเพิ่มเที่ยวบินฮัจย์นั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ประสงค์ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์มีจำนวนมากขึ้นด้วย
ด้านนายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคไข้หวัดโคโรน่า และเชื้อไวรัสอีโบล่า หากฮุจญาจที่เดินทางกลับมาจากการประกอบพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย มีผิดปกติกับทางร่างกาย โดยมีไข้สูง ถึง ๓๘ องศา ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อไข้หวัดโคโรน่า และเชื้อไวรัสอีโบล่า จะมีการนำส่งไปวินิจฉัยโรค และทำการรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน
นายมูฮัมหมัดลุตตฟี แต หนึ่งในผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในครั้งนี้ บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้ประกอบพิธีฮัจย์อย่างสมบูรณ์ และเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนในการเปิดเที่ยวบินฮัจย์จำนวน ๒ เที่ยวบินที่จังหวัดนราธิวาส เพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้แสวงบุญในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น