ความคืบหน้า กรณี นาย สหชัย เจียรเสริมสิน หรือ "เสี่ยโจ้" อายุ 46 ปี เจ้าของ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี มีกิจการขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล และกิจการค้าไม้ ถูกดำเนินคดีหลายครั้ง ทั้งน้ำมันเถื่อน หวยเถื่อน โต๊ะพนันบอล ตั้งแต่ ปี 2546 ก่อนถูกเก็บภาษีย้อนหลังถึง 400 ล้านบาท ทำให้เสี่ยโจ้หลบหนีคดีช่วงการประกันตัว ทางกรมสรรพากรยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีต่อ ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 เสี่ยโจ้ยังต้องสงสัยเกี่ยวพันกรณีเรือขนเงินร้อยล้านถูกปล้นปริศนากลางทะเลอ่าวไทยด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.ต.อรุณ ศรีสุขมาก รอง สวป.สภ.เมืองปัตตานี ช่วยราชการควบคุมผู้ต้องหาประจำศาลจังหวัดปัตตานี ละเมิดอำนาจศาลโดยปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไปว่า ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ร.ต.ต.อรุณแล้ว เบื้องต้นยังให้การภาคเสธเรื่องเจตนาปล่อยตัว เพราะหลบหนีในช่วงที่ทนายความเสี่ยโจ้กำลังดำเนินการขอประกันตัว หลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว แต่ถือว่า ร.ต.ต.อรุณบกพร่องต่อหน้าที่
พ.ต.อ.ปราบพาลกล่าวว่า ตั้งชุดติดตามไล่ล่าตัวเสี่ยโจ้แล้ว และแจกจ่ายภาพเสี่ยโจ้ไปทั่ว พร้อมประสานไปยัง สภ.ต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดที่เสี่ยโจ้ชอบไป เช่น หนองคาย นอกจากนั้นประสานตำรวจชายแดนและด่านตรวจชายแดนทั่วประเทศ ให้สกัดจับเสี่ยโจ้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ยังมีคนงานทำงานขนไม้ซื้อขายไม้ จากนั้นมี ผู้ดูแลออกมาบอกว่าไม่รู้ว่าเสี่ยโจ้อยู่ที่ไหน เพราะไม่สามารถติดต่อได้ ก็เป็นห่วงอยู่
เรื่องราวก่อนหน้าปล่อยตัว ความเป็นมา ก็เกียร์ว่างมาตลอด
คดี “เสี่ยโจ้” ไม่คืบ เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยเกียร์ว่างไม่ยอมดำเนินคดี
วันนี้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทาง พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับหน่วยกองกำลังทหารพราน จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.จตุพร กลัมพสูต รอง ผบ.หน่วยกองกำลังทหารพรานฯ และคณะทำงานปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำกำลังนับร้อยเข้าปิดล้อมตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ตามคำสั่งของ คมช. เมื่อวันที่ 17 มิย.57 ที่ผ่านมา และสามารถตรวจยึดของกลางหลายรายการ เช่น เรือประมงขนาดใหญ่ ที่ได้มีการดัดแปลงไว้บรรจุน้ำมันเถื่อน จำนวน 5 ลำ จอดไว้ที่บริเวณท่าเรือ ต.บานา อ.เมืองปัตตานี ไม้แปรรูปขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ดวงตราประทับผ่านเข้า-ออกชายแดนไทย ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตู้เซฟนิรภัยบรรจุเงินสดจำนวนหลายตู้ ได้เก็บไว้ในบ้านของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ โดยบางส่วนเจ้าหน้าที่สามารถเปิดได้พบเป็นเงินสกุลไทย และสกุลต่างประเทศ สามารถนับมูลค่าเป็นเงินได้ 28.2 ล้านบาทเศษ และบางส่วนยังอยู่ระหว่างการตรวจหารหัสเปิดเซฟตู้นิรภัย ซึ่งขณะนี้ยังคงเก็บไว้ภายในบ้านดังกล่าว โดยมีการจัดกำลังทหารเข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ภายใน หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้
นอกจากนั้น ยังมีเอกสารการเงิน บัญชีจ่ายส่วย สมุดบัญชี มีเงินไหลเวียนในระบบเป็นเงินมหาศาล และพบมีการกระทำความผิดเชื่อมโยงกับหลายหน่วยงาน จึงได้ทำหนังสือประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงรายงานให้ทางคณะทำงานของ คสช.ต่อไป
สืบเนื่องจาก นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ถูกกรมสรรพากรฟ้องเรียกเก็บเงินภาษีย้อนหลัง เป็นเงินมูลค่ามากถึง 414.2 ล้านบาทเศษ แต่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ เพราะสถานที่อยู่ที่ได้แจ้งมาของนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ในขณะนั้นเป็นเพียงบ้านพักเล็ก ๆ ในสลัมของ จ.เพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ได้พักอาศัยที่อยู่เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ดินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบพบว่า นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ได้เช่าที่ดังกล่าวไว้เพื่อเป็นที่ตั้งของ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ และเป็นที่พักจริง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งยกเลิกจากการเช่าที่ดินดังกล่าวจาก อบจ.ปัตตานี แต่อย่างใด แม้จะถูกศาลพิพากษาเป็นบุคคลล้มละลายมาแล้วก็ตาม
นอกจากนั้น หน่วยงานป่าไม้จังหวัดได้แจ้งผลการตรวจสอบไม้แปรรูปภายใน หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ พบมีบางส่วนที่ไม่ได้มีการประทับตราจากหน่วยงานป่าไม้อย่างถูกต้อง แต่กลับยังไม่ได้มีการดำเนินคดีเอาผิดแต่อย่างใด ในส่วนของทรัพย์สินของ นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ที่มีทั้งเงินสด และทรัพย์สินอีกหลายรายการที่มีมูลค่ามหาศาล แต่ทางสรรพากรจังหวัดปัตตานี กลับไม่ได้ดำเนินการยึด หรือพิทักษ์ทรัพย์ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ตั้งแต่ ปี 2555 มาแล้ว เพื่อคืนหนี้ให้แก่รัฐที่มีมูลค่ามากถึง 414.2 ล้านบาทเศษ แต่กลับบอกว่าไม่กล้าในเรื่องความปลอดภัย จึงไม่ดำเนินการยึดทรัพย์ดังกล่าว ปล่อยให้ทหารจัดเวรยามเฝ้าทรัพย์สินดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด ส่วนนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ยังคงถูกฝากข้างในเรือนจำกลางปัตตานี ในระหว่างการสอบสวน หลังจากที่ศาลจังหวัดปัตตานีไม่อนุญาตให้ประกันตัว
“ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการติดตามคดีพิเศษ ที่แม่ทัพภาคที่ 4 แต่งตั้งขึ้นเพื่อติดตามคดี ได้ดำเนินการบันทึกรายงานทั้งหมดถึงสถานการณ์ และสภาพความเป็นจริง กรณีการดำเนินคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควรให้ทาง คสช.รับทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนจะทำเรื่องโย้กย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา” พ.อ.จตุพร กลัมพสูต กล่าว
ล่าสุด พ.อ.จตุพร กลัมพสูต รอง ผบ.หน่วยกองกำลังทหารพรานฯ และคณะทำงานปราบปรามภัยแทรกซ้อน ระบุว่า ทางคณะอนุกรรมการติดตามคดีสำคัญที่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อให้มีการติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ โดย มี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้นั่งเป็นประธาน ได้ระบุถึงความคืบหน้าของผลการดำเนินการตรวจสอบ ตลอดจนการดำเนินคดีต่อ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ว่า ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปตรวจสอบ ได้แจ้งผลการตรวจสอบภายใน หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ จากของกลางที่ได้อายัดไว้ก่อนหน้านี้หลายรายการพบว่า มีการกระทำความผิดจริง แต่กลับไม่ยอมดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อเจ้าของตามขั้นตอนของกระบวนการของกฎหมาย
โดยเฉพาะสรรพากรจังหวัดปัตตานี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ต่อทรัพย์สินของนายสหชัย ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ได้ถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษามาแล้วให้นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อปี พ.ศ.2555 และศาลยังได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบุคคลดังกล่าวมาแล้ว
สืบเนื่องจาก นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ถูกกรมสรรพากรฟ้องเรียกเก็บเงินภาษีย้อนหลัง เป็นเงินมูลค่ามากถึง 414.2 ล้านบาทเศษ แต่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ เพราะสถานที่อยู่ที่ได้แจ้งมาของนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ในขณะนั้นเป็นเพียงบ้านพักเล็ก ๆ ในสลัมของ จ.เพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ได้พักอาศัยที่อยู่เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ดินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบพบว่า นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ได้เช่าที่ดังกล่าวไว้เพื่อเป็นที่ตั้งของ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ และเป็นที่พักจริง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งยกเลิกจากการเช่าที่ดินดังกล่าวจาก อบจ.ปัตตานี แต่อย่างใด แม้จะถูกศาลพิพากษาเป็นบุคคลล้มละลายมาแล้วก็ตาม
นอกจากนั้น หน่วยงานป่าไม้จังหวัดได้แจ้งผลการตรวจสอบไม้แปรรูปภายใน หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ พบมีบางส่วนที่ไม่ได้มีการประทับตราจากหน่วยงานป่าไม้อย่างถูกต้อง แต่กลับยังไม่ได้มีการดำเนินคดีเอาผิดแต่อย่างใด ในส่วนของทรัพย์สินของ นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ที่มีทั้งเงินสด และทรัพย์สินอีกหลายรายการที่มีมูลค่ามหาศาล แต่ทางสรรพากรจังหวัดปัตตานี กลับไม่ได้ดำเนินการยึด หรือพิทักษ์ทรัพย์ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ตั้งแต่ ปี 2555 มาแล้ว เพื่อคืนหนี้ให้แก่รัฐที่มีมูลค่ามากถึง 414.2 ล้านบาทเศษ แต่กลับบอกว่าไม่กล้าในเรื่องความปลอดภัย จึงไม่ดำเนินการยึดทรัพย์ดังกล่าว ปล่อยให้ทหารจัดเวรยามเฝ้าทรัพย์สินดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด ส่วนนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ยังคงถูกฝากข้างในเรือนจำกลางปัตตานี ในระหว่างการสอบสวน หลังจากที่ศาลจังหวัดปัตตานีไม่อนุญาตให้ประกันตัว
“ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการติดตามคดีพิเศษ ที่แม่ทัพภาคที่ 4 แต่งตั้งขึ้นเพื่อติดตามคดี ได้ดำเนินการบันทึกรายงานทั้งหมดถึงสถานการณ์ และสภาพความเป็นจริง กรณีการดำเนินคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควรให้ทาง คสช.รับทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนจะทำเรื่องโย้กย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา” พ.อ.จตุพร กลัมพสูต กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น