วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข้อคิดจาก "ดุซงญอ"


ข้อคิดจาก "ดุซงญอ"
ข้อคิดจาก "ดุซงญอ"


         เหตุระเบิดที่ร้านขายของชำ หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาคนร้ายใช้วิธีการจี้ชิงทรัพย์และทำร้าย นางวิลาวัลย์ สันติตระกูล เจ้าของร้านจนสลบ จากนั้นวางระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุไว้ในถังแก๊สปิกนิค น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมซุกรอเจ้าหน้าที่!!! และ็เป็นตามแผน


        ..ทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ็ ได้รีบนำกำลังไปตรวจสอบสถานทีุ่ พร้อมๆกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุต่างมุงดูด้วยความสนใจ และในนาทีนั้นคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ฉวยโอกาสขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบสถานที่ กดรีโมทคอนโทรลจุดระเบิดขึ้นทันที ผลคือมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ ผู้บาดเจ็บ 16 คน!! 

         เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานทั้งชุด 12 นายได้รับบาดเจ็บกันถ้วนทั่ว มากบ้างน้อยบ้างอยู่ที่ใครใกล้จุดระเบิดมากกว่ากัน เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้ทำหน้าที่ดูแล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างเต็มความสามารถ เขาเหล่านี้ เสียสละเพื่อประชาชนทุกวินาที และอาจจะเกิดเหตุความรุนแรงได้ทุกขณะเขาย่อมรู้ดี 

        แต่ที่สิ่งที่น่าสลดใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ นั่นคือผู้ที่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทั้งพุทธและมุสลิมเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถึง 5 ศพ ยิ่งไปกว่านั้นพบว่ามีเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานพี่น้องมุสลิมที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระบิด 2 คน อาการสาหัส 1 คนคือเด็กชายสาริช มะรอนิง อายุเพียงแค่ 10 ขวบถูกสะเก็ดระเบิดฝังบริเวณศรีษะหมอต้องเร่งผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 

          เหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อต้นปี 2547 เป็นต้นมานับร้อยครั้งมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับพันคนและผู้ที่ตกเป็น เหยื่อของเป้าโจมตีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้ง พุทธและมุสลิมเกินกว่าครึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่โดนลูกหลง 

           เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เช่นกันเชื่อว่าคนร้ายที่สังเกตการณ์ก่อนที่จะ ลงมือกดรีโมทจุดชนวนระเบิดต้องเห็นความเคลื่อนไหวโดยตลอดและก็เห็นด้วยว่ามี เด็กรวมอยู่ในสถานที่แห่งนั้นด้วยอย่างแน่นอนแต่ก็ยังทำได้ลงคอ!! 

           จิตใจทำด้วยอะไรถึงได้เลือดเย็นและโหดเหี้ยมเหมือนคนไร้ศาสนา ทั้งๆที่พยายามสร้างภาพให้สังคมทั่วไปเห็นว่าเคร่งครัดในหลักศาสนา แต่กลับใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือบิดเบือนครอบงำเยาวชนให้หลงผิดแล้วใช้เป็น เครื่องมือทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไม่เว้นแม้กระทั้งเด็ก สตรี หรือคนชรา..นี่หรือผู้ที่คิดจะมาแบ่งแยกดินแดนปกครองเอง
  
            และสมมุติว่าหากเป็นไป ได้เช่นนั้นจริงๆ คงมิต้องใช้อำนาจเถื่อนไล่ฆ่าผู้คนที่เห็นแย้งกับหลักการของพรรคพวกกลุ่มตน อย่างงั้นหรือ คำถามลอยลมไปยังพี่น้องชายแดนใต้ว่ายังเห็นคนกลุ่มนี้มีความชอบธรรมอยู่อีกหรือ ที่เรียกร้องสิ่งที่ต้องการโดยใช้วิธีการสร้างความรุนแรง โดยไม่คำนึงว่าผู้ได้รับผลกระทบจะเป็นใคร..เด็กหรือผู้หญิง ครอบงำบุตรหลานของพี่น้องมุสลิม แล้วใช้เป็นเครื่องมือเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมด้วยกันเองอย่างไร้เหตุผล 

         อย่างนี้เขาไม่เรียกว่านักรบ เพราะคำว่า "นักรบ" หมายถึงเป็นผู้ที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี จะกระทำการตอบโต้ก็เฉพาะผู้ที่เป็นศัตรูที่รุกรานเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันเขาจะปกป้องผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของคนกลุ่มนี้ที่เรียกตัวเองว่า "นักรบฟาฏอนี" กลับมีค่าในสายตาของประชาชนสังคมชายแดนใต้ได้แค่โจรกลุ่มหนึ่งที่ก่อกวนชาวบ้านไปวันๆ ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า 


        ที่ผ่านมาพบว่ามีกลุ่มแนวร่วมที่เป็นเยาวชนบางคนติดยาเสพติดรับจ้างก่อเหตุแลกเศษเงินซื้อยาเสพเพียงเล็กน้อย และยิ่งร้ายไปกว่านั้น พวกนี้จะเสี้ยมสอนให้ทำร้ายคนทุกคนโดยไม่เลือกหน้า แม้ว่าคนเหล่านั้นอาจเป็นญาติพี่น้องตนเอง!! 

         ถึงเวลานี้แล้วเราอย่าปล่อยให้สังคมชายแดนใต้ที่เคยมีแต่ความสงบสุขร่มเย็น เสียหายผู้คนล้มตายไปมากกว่านี้เลย เชื่อว่าไม่มีพลังใดที่จะต้านพลังความสามัคคีได้ และถ้าหากพวกเราพี่น้องชายแดนใต้ทุกผู้ทุกนามจะร่วมผนึกกำลังกันสร้างสันติสุข ให้คืนกลับมาอีกครั้งคงทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ทุกคนมีเจตนาร่วมกันลดความหวาดระแวง" 

         เลิกกลัวเกรงพวกโจรก่อกวนเหล่า"นี้แล้วช่วยกันดูแลบุตรหลานป้องกันไม่ให้ตกเป็น เครื่องมือของคนพวกนี้ ร่วมมือกันแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ดึงบุตรหลานที่หลงผิด ออกมาจากวงจรอุบาทว์ ก่อนที่จะถลำไปไกลเกินกว่าที่จะแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งทางราชการพร้อมและยินดีต้อนรับผู้ที่จะมาร่วมกันพัฒนา ร่วมสร้างสันติสุขตลอดเวลา พร้อมทั้งให้โอกาสในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในทุกด้านอย่างเท่าเทียม กันทุกคนเฉกเช่นคนไทยในผืนแผ่นดิน 


        เมื่อสังคมเปิดโอกาสให้ถึงขนาดนี้แล้วเราจะเอาเลือดเนื้อชีวิตของลูกหลานไปเซ่นสังเวยเป็นสะพานให้คนเพียงหยิบมือที่มักใหญ่ใฝ่สูงก้าวย่ำไปเสพสุขกับสิ่งที่แลกมาด้วยชีวิตของลูกหลานเรา เราจะยอมอย่างนั้นหรือ...?
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม