แถลการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2553
คัดลอกมาให้อ่านกัน ว่าอัตลักษณ์แบบนี้แหละครับ ที่เรียกว่า
เป็นอัตลักษณ์ของผู้คน คนไทยเชื้อสายมาลายู ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พวกเขาอ้างเหมือนกับว่า พวกเขาคือผู้ดูแลความสงบสุข และยังอ้างว่า เค้าจะไม่รับรองความปลอดภัยของประชาชน แท้จริงพวกเขาคือคนที่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของประชาชนกระนั้นหรือ
ตอนท้าย ๆ ยังยืนยันหัวชนฝา ตามอัตลักษณ์ของกูคือ ไม่เอาความสมานฉันท์ หน่อยเดียวคือ แล้วทำไมมึงไม่บอกละ ว่าแล้วมึงจะเอายังงัย ถ้าไม่สมานฉัน
หลงเหลือมายาภาพของสหพันธ์นิสิตนักศึกษากลุ่มนี้ ไว้ตอนสุดท้ายว่า ขอประนามอย่างรุนแรงต่อกลุ่มใดก็ตามที่ใช้อาวุธเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะอยู่ในสังกัดใดก็ตาม หมายถึง ประนาม RKK หมายถึง ไอ้พวกที่อ้างว่าจะออกมาพัฒนาชาติไทย ที่ฆ่าคนบริสุทธิ์มานับไม่ถ้วน โดยอ้างคัมภร์ อ้างพระเจ้า ค้ายาเสพติด วางระเบิดชุมชน พวกนี้ด้วยหรือปล่าว
หรือว่า กูก็แกล้งประนามแม่ม ไปหยั่งงั้นแหละ เพื่อให้ภาพมันดูดี พวกสหพันธ์ ที่ผสมพันธ์กับโจรแบ่งแยกดินแดน ทำหน้าที่ตีสองหน้า ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ เห็นแล้วอนาถซะเหลือเกิน
**************************************************
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้(สนน.จชต.)
เรื่อง ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ที่ใช้อาวุธเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์และขอร้องรัฐ
อย่ามองประชาชนเป็นศัตรู
จากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จั
งหวัดชายแดนภาคใต้ที่ก้าวเข้าสู
่ปีที่ 7 ได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิ
ตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากจนมิ
อาจประเมินมูลค่าได้ และหากเทียบกับงบประมาณที่ภาครั
ฐได้ทุ่มลงมาเพื่อแก้ไขปั
ญหาความไม่สงบในจังหวั
ดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 109,000 ล้านบาทในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นยอดเงินที่สูงมาก แต่เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่สั
งคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้สู
ญเสียไป นั่นก็คือ ความเคารพ ความไว้วางใจ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่
างชาวมลายูมุสลิม ไทยพุทธ ไทยจีนและไทยคริสตร์ที่อาศัยอยู
่ในพื้นที่
หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
สร้างความบอบช้ำกับหลายๆ ฝ่ายไม่
ว่าจะเป็นเพศใด ศาสนาใดก็ล้วนแล้วแต่ได้รั
บความสูญเสียทั้งสิ้นและเหตุ
การณ์ครั้งล่าสุดที่ได้สร้
างความสะเทือนใจให้กับสังคมอี
กครั้งคือ
1- เหตุการณ์สังหารสองแม่ลูกที่ อ.ปะนาเระ
สำหรับเหตุการณ์สังหาร 2 แม่ลูกที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา
ผู้เสียชีวิตคือนางรัตยา แดงประเทศ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 2
ต.คอกกระบือ อ.ปะนาเระ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.เข้าศีรษะ 1 นัด และ
ด.ญ.จีรพัฒน์ แดงประเทศ อายุ 14 ปี ลูกสาวของนางรัตยา
เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา
ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกั
นเข้าลำตัว
ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านได้ยื่นจดหมายเปิ
ดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดปั
ตตานี พร้อมข้อเรียกร้องรวม 5 ข้อคือ
1.ให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายที
่ก่อเหตุสังหารสองแม่ลูกให้ได้
ภายใน 3 วัน
2.ให้จัดกำลังทหารเข้ามารับผิ
ดชอบพื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง ต.คอกกระบือ ต.ท่าน้ำ และ ต.พ่อมิง อย่างถาวร
3.ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ต.ท่าน้ำ รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ
้นทั้งหมด
4.
ถ้าชาวบ้านใน ต.คอกกระบือเสียชีวิตอีก จะไม่รับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ ต.คอกกระบือและ
5.
ไม่เอาความสมานฉันท์
2- เหตุการณ์สังหารสองแม่ลูกที่ บ้านกูจิงลือปะ
สำหรับเหตุการณ์สังหาร 2 แม่ลูกที่ บ้านกูจิงลือปะ เกิดขึ้นเมื่อเวลา
07:00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 มีคนร้ายไม่ทราบฝ่ายแต่งชุดไอ้
โม่ง ประมาณ 5-6 คน ได้ดักซุ่มยิงสองแม่ลู
กในสวนยางบนเชิงเขาลูโบ๊ะบาเดาะ เทือกเขาเมาะแต บ้านกูจิงลือปะ ประมาณ 20 นัด ทำให้สองแม่ลูกเสียชีวิตทันที
ในสวนยางพารา ในสภาพใส่ชุดที่กำลังจะไปกรี
ดยาง
ซึ่งสองแม่ลูกที่เสียชีวิตคือ นางเจ๊ะแมะ หะแย อายุ 50 ปี และน.ส.บัลลาาตี
ลาบอ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 บ้านกูจิงลือปะ ม.4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ
จ.นราธิวาส
จากการที่นักศึกษาได้ลงพื้นที่
ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อผลักดันให้
มีการแก้ปัญหาด้วยแนวทางสันติ
ประชาธรรมมาโดยตลอดนั้น ทำให้ทราบถึงทัศนคติของภาคสั
งคมโดยรวมซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริ
โภคข้อมูลข่าวสารจากสื่
อกระแสหลักเพียงด้านเดียวแล้วเกิดความรู้สึกจนเชื่อว่า เมื่อชาวมลายูมุสลิมเป็นผู้สู
ญเสียฝ่ายที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู
้กระทำคือชาวไทยพุทธ และเมื่อฝ่ายผู้สูญเสียเป็
นชาวไทยพุทธฝ่ายที่ต้องสงสัยว่
าเป็นผู้กระทำคือ ชาวมลายูมุสลิม เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้
ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่
าจะยุติลงและดูเหมือนว่าท่าที
ของภาครัฐเองกับปรากฏการณ์เช่
นนี้ก็ค่อนข้างจะปล่
อยเลยตามเลยตามยถากรรมของประชาช
นที่ต้องแบกรับโดยลำพังจนอดคิ
ดไม่ได้ว่าเป็
นความเจตนาของภาครัฐหรือไม่
รัฐบาลเองก็ดูจะไม่มีน้
ำยาอะไรมากนัก นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้วก็ยั
งไม่ได้แสดงออกถึงการเอาจริ
งเอาจังที่จะแก้ไขปัญหาอีกด้วย แต่สิ่งที่นักศึกษามีความกั
งวลเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้อ่
านจากแถลงการณ์ข้อเรียกร้
องของพี่น้องชาวตำบลคอกกระบือ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี กับกรณีเหตุการณ์ความสูญเสี
ยสองแม่ลูกอันเนื่องจากถูกคนร้
ายลอบทำร้ายจนเสียชีวิต คือชะตาชีวิตของประชาชนจังหวั
ดชายแดนภาคใต้กำลังก้าวเข้าสู่
เส้นทางของสงครามกลางเมืองอย่
างเต็มรูปแบบ เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างก็คิดว่
าฝ่ายตนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำจึ
งคิดว่ามีความชอบธรรมที่
จะตอบโต้ด้วยรูปแบบหรือวิธี
การต่างๆที่ไร้ขีดจำกัดจนเกิ
ดภาวะของการปราศจากหลักประกั
นความปลอดภัยจากภาครัฐอย่างสมบู
รณ์
ดังนั้นด้วยความที่ยังไม่หมดหวั
งกับแนวทางการแก้ปัญหาด้วยสันติ
วิธีที่อยู่บนพื้นฐานของความยุ
ติธรรมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็
นมนุษย์และคิดว่ารัฐเองก็เชื่
อว่าสันติวิธีแบบนี้เท่านั้นที่
จะสามารถนำมาซึ่งสันติภาพที่
ชายแดนใต้อย่างแท้จริง เราในนามสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจั
งหวัดชายแดนภาคใต้(สนน.จชต.)จึ
งขอเรียกร้องให้ภาครัฐและทุกรั
ฐประเทศในสากลที่เคารพในศักดิ์
ศรีความเป็นมนุษย์ทำตามหน้าที่
ของผู้ปกครองที่ไม่ได้
มองประชาชนเป็นศัตรู เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีความต่างกับความเป็นรัฐได้กำหนดชะตาชี
วิตของตนเองอย่างมีศักดิ์ศรี
และมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเที
ยมกัน โดยการสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนมลายูมุสลิ
มในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ได้มีพื้นที่ประชาธิ
ปไตยแบบการเมืองภาคพลเมือง โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการเมืองแบบผ่านตั
วแทน และจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่
มีความเกี่ยวข้องกับความสูญเสี
ยของ
ประชาชนในทุกเหตุการณ์ อย่างเช่น เหตุการณ์กรือเซะ เหตุการณ์ตากใบ
เหตุการณ์ซ้อมทรมานนักศึกษา เหตุการณ์ซ้อมทรมานอิหม่ามยะผา กาเซ็ง เป็นต้น
และหากแม้ว่ากองทั
พจะสามารถปราบปรามกลุ่มผู้ก่
อความไม่สงบล้มตายอย่
างราบคาบในวันพรุ่งนี้ก็ตาม เชื่อว่าความไม่สงบในจังหวั
ดชายแดนภาคใต้ก็จะยังไม่
สามารถสะกดคำว่าสันติภาพได้ ตราบใดก็ตามที่ภาครัฐในฐานะผู้
ปกครองยังไม่ยอมรับความจริ
งและไม่ทำให้ความจริงได้ปรากฎต่
อสาธารณชน ในความเป็นตัวตนของชาวมลายูมุ
สลิมที่ชายแดนใต้ของประเทศไทย
สุดท้ายนี้ขอประณามอย่างรุ
นแรงต่อกลุ่มใดก็ตามที่ใช้อาวุ
ธเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ว่ากลุ่
มนั้นจะอยู่ในสังกัดใดก็ตาม
ด้วยจิตคาราวะต่อผู้รักสันติ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้(สนน.จชต.)
21/02//2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น