วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

บทพิสูจน์ปอเนาะสีเทากับวิสามัญ 3 โจรใต้


โดย ‘อิมรอน’ http://pulony.blogspot.com/

            9 มกราคม 2558 เป็นอีกวันหนึ่งที่ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งนำโดยเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และได้สนธิกำลังร่วมอีกหลายฝ่าย ที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณโรงเรียนยุวอิสลาม บ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุการณ์นี้มีโจรใต้ฟาตอนีเสียชีวิต 3 ราย หลบหนีรอดไปได้ 2 ราย จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 ราย นำตัวมาทำการซักถามขยายผล

         เหตุการณ์ครั้งนี้ตามคาดว่าจะต้องมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อข่าวได้แพร่สะพัดออกไปมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในร้านน้ำชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งส่วนมากจะเป็นแนวร่วมเครือข่ายโจรใต้ฟาตอนี ได้ทำการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเกินกว่าเหตุ ชี้ให้เห็นว่าในสถานศึกษาไม่ควรถูกใช้เป็นสมรภูมิรบ เจ้าหน้าที่ฆ่าเด็กนักเรียนปอเนาะ และเจ้าหน้าที่ยัดอาวุธปืนกับศพผู้เสียชีวิต และอีกมากมายที่มีการบิดเบือนกัน…

           ใครจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรน่าจะมีเหตุมีผลมากกว่านี้ เพราะทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ปะทะกับโจรใต้ฟาตอนีจนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต แนวร่วมเหล่านี้ต่างดาหน้าออกมาบิดเบือนข้อมูลสร้างความสับสนมาโดยตลอด แต่ความจริงก็คือความจริงเพราะผู้ที่เสียชีวิตต่างเป็นโจรใต้ฟาตอนีตัวเป้ง มีหมายจับ ป.วิ.อาญาหลายหมาย เคยก่อเหตุสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนต่างเคยถูกโจรใต้ฟาตอนีกลุ่มนี้ลงมือกระทำอย่างโหดเหี้ยม ไร้ความปราณี ผู้เขียนจะแฉประวัติความชั่วโจรใต้ฟาตอนี 3 ราย ให้เห็นกันครับ...



         นายมะรูดิน ตาเฮ รายแรกถือได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ หัวหน้า Kompi ของขบวนการโจรชั่ว เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ นายมะรูดินฯ เป็นหัวหน้า Kompi ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง, อำเภอมายอ และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 5 หมาย ด้วยกัน
  • หมายจับที่ 1 เหตุลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านพ่อมิ่ง เมื่อ 8 มิถุนายน 2550
  • หมายจับที่ 2 เหตุระเบิดขบวนรถยนต์ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล เมื่อ 26 เมษายน 2554 
  • หมายจับที่ 3 เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555 
  • หมายจับที่ 4 เหตุลิบยิงนางสาวตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโง และนายสมศักดิ์ ขวัญมา อาจารย์โรงเรียนบ้านบาโง เสียชีวิตทั้ง 2 คน เมื่อ 11 ธันวาคม 2555
  • หมายจับที่ 5 เหตุลอบยิงนายนิมุ เจ๊ะอาแว ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ เสียชีวิตและพวกได้รับบาดเจ็บ เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2556
      นายปาตะ ลาเต๊ะ รายที่สองเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการอำเภอทุ่งยางแดง อดีตทหารกองประจำการ สังกัดกองพลนาวิกโยธินกองทัพเรือ เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ นายปาตะฯ เป็นครูสอนการใช้อาวุธให้กับสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงฝึกใหม่ มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 3 หมายด้วยกัน



  • หมายจับที่ 1 เหตุลอบยิงนายสุรพล แดงประเทศ เสียชีวิต เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2556
  • หมายจับที่ 2 เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555
  • หมายจับที่ 3 เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน เสียชีวิต 5 นาย เมื่อ 11 กันยายน 2556


       นายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ รายที่สามซึ่งเป็นเพื่อนนายบัดรุดีน แจ๊ะแว ลูกชายของบาบอโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เสียชีวิตบริเวณภายในบ้านของบาบอพร้อมปืนเล็กยาว M-๔ คาร์บาย สืบเนื่องจากได้หลบซ่อนตัวบริเวณฝ้าเพดานบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นห้องลับ

         นายมาหะมะซาบรีฯ เคยถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 เป็นผู้ต้องสงสัยเหตุลอบยิงอาสาสมัครทหารพรานอุสมาน จะรง เสียชีวิตในพื้นที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 แต่จากผลการซักถามได้ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวในเวลาต่อมา

       นี่คือผลงานความชั่วของโจรใต้ทั้ง 3 ราย ที่ได้กระทำมาต่างกรรมต่างวาระสะสมผลกรรมที่ได้ก่อไว้ อัลเลาะห์ท่านเห็น อัลเลาะห์ท่านรู้ดีว่าบุคคลเหล่านี้ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้อีก
จากการบิดเบือนในเครือข่ายสังคมออนไลน์ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ยัดปืน M - 4 คาร์บาย ให้คนร้าย หรือพวกบอกว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นนักเรียนปอเนาะบ้างแล้วแต่จะมั่วกันไป นอกจากนี้ยังมีหลายจุดที่กลุ่มแนวร่วมไม่ยอมรับ หากท่านผู้อ่านได้อ่านข้อมูลประวัติความชั่วของแต่ละคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ตกเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อของแนวร่วมโจรใต้ฟาตอนีที่ออกมาบิดเบือนข้อมูลผิดๆ กัน

       จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรามาลองตั้งคำถามเล่นๆ กันดูว่า
       ทำไม? จึงเกิดการสูญเสียถึง 3 ศพ ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่รัฐพยายามเกลี้ยกล่อมนานนับ 9 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล แต่มีการโฆษณาว่าเจ้าหน้าที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ กระทำเกินกว่าเหตุ ใช้อาวุธปืนในสถานศึกษา..

  • 1. ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงทำไม? ไม่ยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดี แถมมีการเปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่ อย่าคิดนะครับว่ามีแค่ปืนพก มีทั้งปืนAK – 102, ปืนเล็กยาว M-4 Cabine อีกด้วย แถมมีการขว้างระเบิดเพื่อเปิดทางในการหลบหนีถึง 2 ลูกด้วยกันแต่โชคดีที่ระเบิดด้าน แค่นี้ก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นโจรหรือเปล่า?
  • 2. นายอับดุลเลาะมัน เจ๊ะแว บาบอเจ้าของโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิจะไม่รู้เห็นเลยหรือ ว่ามีการซ่องสุมของโจรใต้ในบ้านของตัวเอง และกลุ่มโจรใต้ที่มาหลบซ่อนตัวเหล่านี้มีถึง 5 คนด้วยกัน แต่ละคนมีหมายจับ ป.วิ.อาญาทั้งนั้น เรื่องนี้น่าสงสัยจริงๆ อีกทั้งฝ้าเพดานบ้านของบาบอมีห้องลับใช้ในการหลบซ่อนตัว ซึ่งนายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ โจรใต้รายที่สามที่เสียชีวิตขึ้นไปหลบในห้องลับดังกล่าว
  • 3. ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการจากเบาไปหนัก คือใช้การเจรจา โดยให้ผู้นำศาสนาไปพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว อีกทั้งนายบัดรุดีน เจ๊ะแว ลูกชายบาบอเจ้าของโรงเรียนได้เข้าไปชักชวนให้ออกมามอบตัวถึง 3 ครั้งแต่ได้รับการปฏิเสธไม่ยอมมอบตัว แถมยังประกาศจะสู้ตายอีก พฤติกรรมเช่นนี้บ่งบอกได้เลยว่าบุคคลเป้าหมายเหล่านี้กระทำความผิดมาจริงหรือไม่? ฝากให้ผู้อ่านลองคิดดูกันครับ..
          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนปอเนาะครั้งนี้
         เป็นสิ่งที่ยืนยัน และเป็นข้อมูลอย่างดีที่สนับสนุนแนวความคิดความเชื่อที่ว่า

        สถาบันปอเนาะ หรือโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามบางแห่ง
        มีการบ่มเพาะ มีการซ่องสุมกำลัง เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธวัตถุระเบิด 
       และเป็นสถานที่ในการวางแผนในการก่อเหตุของแกนนำแนวร่วมในพื้นที่ 
       หรือบาบอเจ้าของโรงเรียนจะปัดความรับผิดชอบไม่รู้ไม่เห็นด้วย..
        ท่านผู้อ่านลองใช้สติพิจารณาเอาว่าจริงหรือไม่จริง?

       เสียดายที่บทความ ‘ปอเนาะสีเทา’ ซึ่งเขียนโดย;อับดุลเลาะ วันอะฮ์หมัด เรื่องสั้นรางวัลชมเชยในโครงการ ‘เรื่องดีๆ ที่บ้านเรา ประจำปี 2557’ โดยกระทรวงวัฒนธรรม มีความพยายามสื่อให้สาธารณชนและผู้อ่านได้รับรู้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐไปรังแกโรงเรียนปอเนาะ 

        หลายต่อหลายครั้งที่จับได้คาหนังคาเขากลับไม่ยอมรับความจริง

        ..และครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อได้อย่างลงตัวว่า

        ‘ปอเนาะ’คือ “แหล่งบ่มเพาะ มีการซ่องสุมกำลัง เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธวัตถุระเบิด และเป็นสถานที่ในการวางแผนกระทำความชั่วของขบวนการโจรใต้...”อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม