วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558

(ย้อนรอย) "กับดักกรือเซะ"


          เหตุการณ์ในวันที่ 28 เมษายน 2547 สรุปได้ประการหนึ่งว่า ฝ่ายขบวนผู้ก่อการ จงใจส่งคนไปตายที่มัสยิดกรือเซะ ให้เหมือนกับ บทเรียนทางประวัติศาสตร์ในอดีต ที่ฝ่ายขบวนผู้ก่อการในการต่อสู้หลายต่อหลายกรณีที่มีกำลังอ่อนแอกว่าใช้ยุทธวิธี ยอมตาย เพื่อให้การตายนั้นเป็นที่จดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน ฆ่าล้างแค้น เลือดล้างด้วยเลือด อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน

          นอกจากนั้น วันที่ 28 เมษายน 2547 ยังอาจถูกจงใจกำหนดให้ตรงกับ วันที่ 28 เมษายน 2491 อันเป็นวันเกิดของเหตุการณ์ที่ภาษาอำนาจรัฐส่วนกลางเรียกว่า กบฏดุซงญอ แต่ชาวปัตตานีเรียกว่า สงครามโต๊ะเปรัก-ดุซงยอ และนักประวัติศาสตร์มาเลเซียบางคนเรียกว่า เคบังอีตัน แปลว่า การลุกขึ้นสู้ อีกด้วย
          หากกรณีเมื่อ วันที่ 28 เมษายน 2547 จะสรุปได้ประการหนึ่งว่าฝ่ายขบวนผู้ก่อการ จงใจส่งคนไปตายที่มัสยิดกรือเซะ 

         กรณีที่เกิดถัดมาอีก 6 เดือน วันที่ 25 ตุลาคม 2547 ที่ สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก็น่าจะสรุปได้เช่นกันว่าฝ่ายขบวนผู้ก่อการ จงใจส่งคนไปตายที่ตากใบ นักเคลื่อนไหวมวลชนรุ่นเก่าที่มี จริยธรรมของนักเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเคยอยู่ในขบวนของ พคท., พูโล, บีอาร์เอ็น หรือ ฯลฯ เมื่อดูแผนที่ทางภูมิศาสตร์สรุปตรงกันว่า สภ.อ.ตากใบ มีสภาพพื้นที่เป็น จุดอับ, ทางตัน จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะ ระดมมวลชนเข้าไปชุมนุมด้วยท่าทีแข็งกร้าวและยั่วยุ มีทางออกทางเดียวคือ แม่น้ำ ซึ่งมีฝั่งตรงข้ามเป็น เขตแดนมาเลเซีย ใครก็ตามที่กุมยุทธศาสตร์การต่อสู้ในวันนั้นต้องการให้เกิด การล้อมปราบโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย, การสูญเสียมวลชนจำนวนมาก และ การหลบหนีข้ามพรมแดน ซึ่งย่อมจะต้องเล็งผลเลิศในขั้นต่อไปว่าอาจจะเกิด ค่ายชาวไทยอพยพขึ้นในพรมแดนมาเลเซีย 

         ประมวลความเป็นไปได้ทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วจะ ส่งผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงในเชิงการเมืองระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาต่อเนื่องกับกรณี กรือเซะ บังเอิญที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไทย สะกัดกั้นทางหนีด้านแม่น้ำ ไว้ได้ก็เลยไม่เกิด ภาพสุดท้าย แต่ก็มาเสียหายด้วย การตายปริศนาระหว่างขนส่งผู้ต้องหา อย่างที่ทราบกันดีอยู่

          เป็นแผนการอันแยบยลของแกนนำขบวนการที่หลอกผู้คนให้มาตายเพื่อวัตถุประสงค์ที่แอบแฝง ใครเป็นใครมาจากไหน ปฏิบัติการด้วยวัตถุประสงค์อะไร อยู่ภายใต้การชักจูงของใคร ถูกหรือผิด ความสำคัญอยู่ที่ พวกเขาถูกหลอกหรือเต็มใจมาตายในเหตุการณ์ เพื่อให้ถูกจดจำโดยพี่น้องมลายูปาตานี 3 จังหวัดภาคใต้ !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม