วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

เรามาถูกทางแล้วนะ

โจรใต้ลอบวางระเบิด ทำสองสามีภรรยาบาดเจ็บ ที่ อ.รามัน จ.ยะลา
วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.ปฏิเวธ ตาลสุข ร้อยเวร สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุมีสองสามีภรรยาถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บ เขตรอยต่อ หมู่ที่ 2 บ้านบลูกาลูวะ และ หมู่ที่ 5 บ้านบึงน้ำใส ต.ตะโละหะลอ หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.อ.จรวย พยัคฆา รักษาการ สว.พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา 12 สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง ไปสอบสวน ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางเข้าสวนยางพาราเป็นถนนแคบ ๆ พบซากรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพเก่าพังยับเยินได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อนายมะดิง กะดะแซ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ที่ 5 ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน และ นางอรอนงค์ ทวีชัย อายุ 48 ปี ภรรยา ทั้งคู่ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าแข้ง บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15222 ได้นำส่งโรงพยาบาลรามันแล้ว ในที่เกิดเหตุพบหลุมลึก 50 ซม.กว้าง 80 ซม.สะเก็ดระเบิด เศษวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
   
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมะดิง กะดะแซ ได้พานางอรอนงค์ ซ้อนท้ายรถ จยย.เดินทางเข้าไปกรีดยางพาราในสวนท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสวนยางของลุงไสว เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ รถ จยย.ที่ขับขี่แล่นไปได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก ไม่ต่ำ กว่า 5 กิโลกรัม คาดว่าเป็นของกลุ่มของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้แอบนำมาฝังไว้จนเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้นายมะดิงและนางอรอนงค์ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนคนร้ายคาดว่าเป็นกลุ่มที่พยายามก่อเหตุการณ์ความไม่สงบเพื่อสร้าง สถานการณ์ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*******************************************

“สุเทพ” ยันงบฟื้นฟูภาคใต้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ชี้มีตัวเลขให้ดู ยันสรุปงบ ศอฉ.ทันสมัยประชุมสภาแน่ ย้ำลอบทำร้ายครูไม่ใช่สัญลักษณ์อะไร  

    เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันมีจำนวนมากกว่าแสนล้านบาท ซึ่งฝ่ายค้านมีการหยิบยกขึ้นมาอภิปรายว่า ปี 2547 ถึง 2550 เป็นของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและจะมาอภิปรายอะไร รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ปีหนึ่งใช้หมื่นกว่าล้าน และตนก็มีตัวเลขให้ดู ตนทำโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ประมาณ 18,000 ล้านบาทถึง 19,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสถานการณ์โดยรวมก็ดีขึ้น สื่อมวลชนไปดูในพื้นที่ด้วยกัน เดี๋ยวจะชวนไปดู
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แทนที่ปัญหาจะลดลงแต่การก่อการร้ายจนถึงขณะนี้เข้าไปสู่ตัวเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ครับ จากสถิติจำนวนครั้งของการก่อเหตุร้ายลดลง จำนวนคนบาดเจ็บเสียชีวิตก็ลดลง แต่ความรุนแรงที่เขาจะทำยังมีอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทุกวันนี้เขานึกจะยิงใครก็ยิงได้เลย นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ใช่เสรีอย่างนั้น
    เมื่อถามถึงความคืบหน้าการสรุปงบของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงเปิดสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไงก็ต้องทำให้ทัน ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคใต้วันนี้ (17 ม.ค.) จะทำให้พื้นที่ดีขึ้นหรือไม่ หลังจากที่ไปติดตามเหตุการณ์โดยรวม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอเรียนว่าสถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้น และนายกรัฐมนตรีก็พยายามที่จะลงไปเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ ปฏิบัติงาน ในฝ่ายต่างๆ และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน
    เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ก่อการร้ายมารอบทำร้ายครูอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นสัญลักษณ์อะไร เขาพยายามทำทุกเวลาที่โอกาสอำนวย
*************************************************

เมื่อ เวลา 00.45 น. วันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ. จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.หาดใหญ่ สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ ติดตามจับกุมตัวนายสุริยะ หรือเป็ด แก้วสุริยา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ถ.ทะเลหลวง ซ.ดอกรัก ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหามีหมายจับของสภ. หาดใหญ่ ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2553 โดยนายสุริยะร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายปฐวีร์ หรือเดฟ แย้มแสง และนายสัมพันธ์ จันทร์แก้ว ก่อเหตุฆ่านายบัง (ไม่ทราบนามสกุล) เหตุเกิดที่ศาลาริมคลอง ริมถนนชลธารา ก่อนหน้านี้ตำรวจสามารถจับกุมนายปฐวีร์ไว้ได้เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2553 ยังคงเหลือนายสัมพันธ์ จันทร์แก้ว ที่ยังคงหลบหนีอยู่ เบื้องต้นนายสุริยะยังให้การปฏิเสธ จึงส่งพนักงานสอบ สวนสภ.หาดใหญ่ดำเนินคดี
*********************************
เหตุ ไม่สงบทางภาคใต้ยังทำให้มีคนล้มตายรายวัน ล่าสุด คนร้ายขี่จยย.ตามประกบ กระหน่ำยิง 'ครู' ในจังหวัดปัตตานีดับสยองก่อนถึง 'วันครู' เพียงวัน เดียว ส่วนที่นราธิวาส มือปืนกราดยิงเอ็ม16 สังหารโหด 'ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ตายจมกองเลือดคาถนนหน้ามัสยิด ด้านสาวใหญ่เหยียบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายลอบฝังไว้ในสวนยางจนได้รับบาด เจ็บ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ. มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงครูเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนหน้าวัง ซอย 3 ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบทันที

เมื่อ ไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตนอนตะแคงซ้ายถูกรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กธน 260 ปัตตานี ล้มทับอยู่ ทราบชื่อนายมาโนช ชฎารัตน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/19 ถ.เจริญประดิษฐ์ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ประกอบอาชีพเป็นข้าราชการครู สอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ที่โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูลปัตตานี สภาพศพถูกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นเข้าศีรษะและกลางหลัง รวม 4 นัด

สอบ สวนเบื้องต้นพบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะนายมาโนช ผู้ตาย กำลังขี่รถจักรยาน ยนต์กลับจากสอนหนังสือให้กับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนที่โรงเรียนเทศบาล 1 แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงใส่ด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด จำนวน 2 นัด กระสุน เจาะเข้าตรงหลังรถจักรยานยนต์จนรถเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายลงมาจ่อยิงซ้ำที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่ ส่วนประเด็นสาเหตุสังหารโหดเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่ที่พยายามสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันพรุ่งนี้ 16 ม.ค. ยังเป็นวันครูอีกด้วย

ด้านนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราช การ จ.ปัตตานี กล่าวว่า เหตุคนร้ายยิงนายมาโนชถือได้ว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรด้านการศึกษาที่สร้าง ความสะเทือนใจอีกครั้ง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงวันครูแห่งชาติ ทำให้กลายเป็นประเด็นที่คนร้ายจ้องสร้างสถานการณ์เพื่อข่มขวัญครู

ก่อน หน้านี้ เวลา 10.25 น. พ.ต.ท.มงคล บัวจันทร์ สว.เวร สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดภายในสวนยางพาราบ้านเชิงเขา ม.4 ต.ปะลุกาสาเมาะ จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.อภิรัฐ สังข์ขาว รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิ วาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่ เกิดเหตุ บริเวณโคนต้นยางพาราภายในสวนดังกล่าวมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 1 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อพีวีซี หนัก 2 ก.ก. จุดชนวนด้วยระบบเท้าเหยียบ ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ และมีรอยคราบเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้า แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนางสมสันต์ สุขไพบูลย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/2 ม.4 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าของสวนยางพารา มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บเล็กน้อยตรงขาทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานเอาไว้

จากการสอบสวนทราบว่า ระหว่างที่นางสมสันต์กำลังเดินกรีดยางพาราภายในสวนยางอยู่นั้น เท้าได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายฝังอำพรางไว้บริเวณโคนต้น ยางพารา และเกิดระเบิดขึ้นทำให้นางสมสันต์ถูกอานุภาพระเบิดอัดจนกระเด็นล้มลงนอนกับ พื้น เมื่อเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงระเบิดจึงวิ่งกรูออกมาดูเห็นนางสมสันต์ ร้องขอความช่วยเหลือจึงช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยา บาล และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

สำหรับสาเหตุการวางระเบิดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากก่อนหน้านี้พื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ กลุ่มคนร้ายได้ประกาศข่มขู่จะลอบวางระเบิดเพื่อทำร้ายชาวบ้านไทยพุทธ จำนวน 6 จุด ซึ่งที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดไปแล้ว 2 ครั้ง และเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดเอาไว้ได้ 3 ลูก และครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องไปฝังไว้ เพื่อสังหารชาวบ้านไทยพุทธตามคำข่มขู่

วันเดียวกัน พ.ต.อ.จิรวุฒิ ทิศเสถียร ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนหน้ามัสยิด ยามาตุล อิสลามียะห์ บ้านกาแย ม.5 ต.ดุซงญอ อ.ระแงะ จึงจัดกำลังตำรวจ-ทหารไปตรวจสอบ

ที่ เกิดเหตุ พบศพนายสุไลมาน ฮามิ อายุ 51 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านกาแย อยู่บ้านเลขที่ 10 บ้านกาแย ม.5 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ สภาพ ศพนอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม16 เข้าศีรษะ ลำตัวพรุน เสียชีวิตคาที่ นอกจากนั้น เจ้าหน้า ที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 จำนวน 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุไลมาน ผู้ตาย เดินทางไปละหมาดซุบฮีที่มัสยิดดังกล่าว อยู่ห่างจากบ้านพักไม่ถึง 100 เมตร เมื่อเสร็จละหมาดจึงเดินออกจากมัสยิด ขณะที่คนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ซีซี สีแดงทะเบียน ขกษ 848 นราธิวาส ตามประกบและใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่หลายนัด ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ดักสังหารคนของทางการเพื่อสร้างสถานการณ์ป่วนภาคใต้


ฆ่าครู - นายมาโนช ชฎารัตน์ อายุ 38 ปี ครูร.ร.เดชะปัตตนยานุกูลปัตตานี ถูกคนร้ายประกบยิงขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน ผู้ว่าฯ ปัตตานีชี้คนร้ายจงใจลงมือ

************************************************
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 16 ม.ค. พ.ต.อ. ชัชชัย วงศ์สุนะ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตา นี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่ ม.7 บ้านแคนนา ต.บางเขา หลังรับแจ้งจึงนำกำลัง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ปัตตานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือนายมะดิง หมัด อายุ 40 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นลูกสาวคือ ด.ญ.สุไหวบะ หมัด อายุ 5 ขวบ ถูกยิงที่ข้อมือซ้ายพลเมืองดีช่วยนำส่งร.พ.หนองจิก สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่นายมะดิง กำลังช่วยภรรยารับซื้อขายปู กุ้ง ปลา อยู่ที่บ้านเลขที่ 130 ม.7 ต.บางเขา ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมาจอดบริเวณหน้าร้าน คนที่นั่งซ้อนท้ายเดินลงจากรถทำทีซื้อกุ้ง แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จ่อยิงหลายนัดกระสุนถูกที่ศีรษะ ต้นคอ มือ เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ และกระสุนยังไปถูกบุตรสาวได้รับบาดเจ็บไปอีกคน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป
*********************************
เมื่อ เวลา 00.40 น. วันที่ 16 ม.ค. ร.ต.ท. ชวลิต ดิษฐะ ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งมีผู้พบศพคนลอยอยู่ในคลองระบายน้ำที่ 4 ม.11 ต.คลองแห จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผกก. ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังอยู่ห่างจากถนนใหญ่ ประมาณ 200 เมตร พบศพทราบชื่อต่อมาว่านายเอกศักดิ์ ขวัญทอง อายุ 33 ปี เสียชีวิตในสภาพสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ ที่หน้าผากมีรอยยุบเขียวช้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน นอกจากนี้ยังพบมีใบโพยพนันฟุตบอล 1 ใบ อยู่ในกระเป๋ากางเกง สอบสวน น.ส.จินดา จันทาพูน อายุ 36 ปี ซึ่งทราบข่าวและเดินทางมาแจ้งกับพ.ต.อ.จิระวัฒน์ว่า ศพดังกล่าวคือสามี ที่หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ก่อนติดตามคนร้ายดำเนิน คดีต่อไป
*************************************

"อภิสิทธิ์"ลงพื้นที่ปัตตานี ให้กำลังใจครูใต้ พร้อมตรวจเยี่ยมประชาชนอำเภอแม่ลาน หลังนำร่องยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปจ.ปัตตานี เพื่อเป็นประธานงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 3 ที่โรงแรงซีเอสปัตตานี และเยี่ยมประชาชนในอำเภอแม่ลาน ซึ่งได้ยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่ลาน และเป็นประธานในพิธีกดปุ่มโอนเงิน โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้าน (พนม.) จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบรางวัลหมู่บ้านชนะการประกวด โครงการ พนม. ปี 2553 ก่อนเดินทางกลับมาประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 15.00 



****************************************************

คมชัดลึก : เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า รัฐบาลกำลังที่จะใช้ "มาตรา 21" แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง) ซึ่งมีกลิ่นอายคล้ายกับ "นโยบาย 66/23" ของรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

สำหรับพื้นที่นำร่องในการทดลองใช้มาตรา 21 ดังกล่าว คือ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ซึ่งรัฐบาลเพิ่งประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และปรับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมา

 มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2554 ที่อนุมัติให้ใช้มาตรา 21 ใน 4 อำเภอ จ.สงขลา นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของนโยบายดับไฟใต้ในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เหตุปล้นปืนเมื่อปี 2547 เป็นต้นมา เพราะนี่ไม่ต่างกับ "นิรโทษกรรม" ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง
 เนื้อหาเต็มๆ ของมาตรา 21 ระบุว่า "ภายในเขตพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ กอ.รมน.ดําเนินการตามมาตรา 15 หากปรากฏว่าผู้ใดต้องหาว่าได้กระทําความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
 แต่กลับใจเข้ามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ดําเนินการสอบสวนแล้วปรากฏว่า ผู้นั้นได้กระทําไปเพราะหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และการเปิดโอกาสให้ผู้นั้นกลับตัวจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
 ในการนี้ให้พนักงานสอบสวนส่งสํานวนการสอบสวนของผู้ต้องหานั้น พร้อมทั้งความเห็นของพนักงานสอบสวนไปให้ผู้อํานวยการ (ผอ.รมน.ภาค 4 หรือแม่ทัพภาคที่ 4)
 ในกรณีที่ผู้อํานวยการเห็นด้วยกับความเห็นของพนักงานสอบสวนให้ส่งสํานวนพร้อมความเห็นของผู้อํานวยการให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคําร้องต่อศาล
 หากเห็นสมควรศาลอาจสั่งให้ส่งผู้ต้องหาให้ผู้อํานวยการเพื่อเข้ารับการอบรม ณ สถานที่ที่กําหนดเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน และปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่ศาลกําหนดด้วยก็ได้
 การดําเนินการตามวรรคสอง ให้ศาลสั่งได้ต่อเมื่อผู้ต้องหานั้นยินยอมเข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาได้เข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกําหนดดังกล่าวแล้ว สิทธินําคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหานั้นเป็นอันระงับไป
 นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงจุดประสงค์ของมาตรา 21 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้วยความหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งฐานความผิดจะมี อาทิ ความผิดต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือกระทั่งการวางระเบิด นอกจากนี้ยังมีการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากผู้กระทำความผิดด้วย
 นายถาวรกล่าวถึงขั้นตอนการฝึกอบรมว่า กระบวนการฝึกอบรมจะมีคณะกรรมการ 4 ชุด คือ 1.คณะกรรมการคัดสรรตัวบุคคล 2.คณะกรรมการสอบสวนโดยมีพนักงานอัยการเข้ามาร่วม 3.คณะกรรมการช่วยเหลือคดี และเยียวยาชุมชน หรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากผู้ที่เข้ามามอบตัว และ 4.คณะกรรมการกลั่นกรองผู้เข้ารับการอบรมแทนการฟ้อง โดยสถานที่ฝึกอบรมจะอยู่ที่โรงเรียนเสริมสร้างสันติสุข อ.บ่อทอง จ.ปัตตานี และที่กองพลพัฒนา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 อ.เมือง จ.สงขลา
 "ขณะนี้มี 27 คน ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการและกลับตัวกลับใจ ซึ่งยังถือเป็นข้อมูลลับอยู่ แต่สิ่งที่กังวล คือ อาจจะมีผู้เข้าร่วมกระบวนการอาร์เคเค หรือกลุ่มฮาร์ดคอร์ อาจกล่าวหาว่าบุคคลเหล่านี้หักหลักกระบวนการ จึงเกิดความเคียดแค้น ดังนั้นจำเป็นที่จะมีกระบวนการคุ้มครองดูแลทั้งครอบครัว ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" นายถาวร กล่าวด้วยความมั่นใจ
 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาอนุมัติให้ส่งตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรม ก็แสดงความเห็นด้วยกับแนวทางตามมาตรา 21 อย่างเต็มที่
 โครงการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นเตรียมการ และจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าไปพูดคุยกับญาติของผู้ต้องหาบางส่วน เพื่อขอให้เข้ามามอบตัวแล้ว
 "ผมเชื่อว่า ถ้าเรื่องนี้เกิดจากความสมัครใจของผู้ที่หลงผิด สถานการณ์ในพื้นที่น่าจะมีทางออก และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนที่เป็นห่วงในเรื่องกระแสต่อต้านของญาติผู้สูญเสียนั้น ก็ยังไม่พบแรงต่อต้าน ซึ่งทุกฝ่ายก็สนับสนุนเต็มที่" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเคยรับผิดชอบการแก้ปัญหาในพื้นที่มานานถึง 2 ปี กลับแสดงความเป็นห่วงขอบเขตในการนิรโทษผู้ต้องหา
 เขากระตุกเตือนว่า เรื่องนี้ต้องแยกแยะให้ดี ซึ่งมองในภาพรวมว่า ถ้าเราเอานโยบาย 66/23 มาศึกษาดูว่า ตรงไหนควรใช้ ตรงไหนไม่ควรใช้ ในการบังคับใช้ก็ต้องแล้วแต่คดีความด้วย
 "อย่างคดีฆ่าคนตายโดยเจตนายังอยู่ในมาตรานี้ได้ มันจะถูกหรือไม่ถูกก็ต้องดู หรือบางคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แต่กลับมาต้องคดี ก็ต้องมาพิจารณา เรื่องพวกนี้ต้องมีขอบเขต และต้องมาศึกษากันให้ดีก่อน"
 พล.อ.สนธิ มองแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ ทั้งในฐานะอดีต ผบ.ทบ. และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ซึ่งมี ส.ส.อยู่ในพื้นที่ว่า ปัญหาสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา คือ ความเป็นเอกภาพ เพราะฉะนั้นการบูรณาการจึงไม่เกิด กระทรวงใครกระทรวงมัน ต่างคนต่างทำ
 ดังนั้น พรรคมาตุภูมิจึงมีความคิดในการเสนอให้ตั้งหน่วยงานระดับ "กระทรวง" หรือ"ทบวง" เพื่อรับผิดชอบการแก้ปัญหาโดยตรง เพราะอย่างประเทศอังกฤษก็ใช้หน่วยงานระดับทบวงลงไปแก้ปัญหาความขัดแย้งในไอร์แลนด์เหนือ
 โดยคนที่รับผิดชอบต้องเป็นระดับ "รัฐมนตรี" มีหน้าที่ควบคุมดูแลปัญหาในพื้นที่ให้เป็นเอกภาพ มีอำนาจสั่งการข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม รวมทั้งทหาร และตำรวจด้วย
 ส่วนการแก้ปัญหาความรุนแรงก็ให้ใช้ "กำลังภาคประชาชน" แทนการใช้กำลังทหารจำนวนมาก โดยให้ทหารสนับสนุนอยู่ข้างนอก ขณะที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ จะมีหน้าที่เข้าไปดูแล เพราะคนในพื้นที่ย่อมรู้และแก้ปัญหาของตัวเองได้ดีที่สุด
 "การแก้ปัญหาภาคใต้ต้องใช้การเมืองนำการทหาร ถ้าใช้ความรุนแรงไม่มีทางแก้ปัญหาจบ ต้องสร้างความรักความผูกพันระหว่างคนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ให้เป็นผลึกเดียวกันให้ได้ ถ้าเราทำอย่างนั้นได้ปัญหาก็จะจบ" พล.อ.สนธิ กล่าวทิ้งท้าย
******************************************




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม