แกนนำมุสลิมเดินหน้าจี้รัฐผุดเขตปกครองพิเศษชายแดนใต้
Wed, 2007-07-11 04:25
ประชาไท - 11 ก.ค. 50 แกนนำภาคประชาชาชนชายแดนใต้ ผลักดันเขตวัฒนธรรมพิเศษต่อ ประกาศถ้าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านประชามติ จะเจาะช่องการปกครองส่วนท้องถิ่น ผุดเขตปกครองพิเศษ ผู้ว่าฯ สงขลา หนุนเผยแพร่คำวินิจฉัยเลขาธิการโลกมุสลิมสู้ภัยไฟใต้
นายวุสนุง มัดดา ภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะผู้ร่วมผลักดันให้ระบุเขตวัฒนธรรมพิเศษในร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กล่าวว่า แนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการปกครองในรูปแบบพิเศษ โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถผลักดันให้กำหนดเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษ โดยมุ่งเน้นการใช้ศีลธรรมทางศาสนาเป็นหลักในการปกครองพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
นายวุสนุง กล่าวว่า ถึงแม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้ระบุเรื่องเขตวัฒนธรรมพิเศษ แต่ในหมวดว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น ก็ไม่ได้ปิดกั้นช่องทางให้กำหนดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลอีกครั้ง รวมทั้งต้องรอดูว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะผ่านความเห็นชอบจากประชาชนในการลงประชามติหรือไม่
นายวุสนุง กล่าวต่อไปว่า แม้จะยังไม่ทราบว่าการปกครองในรูปแบบพิเศษ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และอาจไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดต่อไปคงจะสานต่อ เนื่องจากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลรวมทั้งประชาชนทั่วไป ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เพราะตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย
"ดังนั้น หากเขตปกครองแบบพิเศษมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริง รวมทั้งมีองค์กรที่สนับสนุนแนวคิดเขตวัฒนธรรมพิเศษ เราก็จะผลักดันให้กำหนดเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษไปด้วยอย่างเต็มที่ เพราะเป้าหมายหลัก คือ ต้องการใช้ศีลธรรมเป็นตัวนำในการปกครอง และต้องเป็นพื้นที่ที่ปราศจากอบายมุขต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่หมดไป" นายวุสนุง กล่าว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 50 ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้บรรยายพิเศษสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้และแนวทางแก้ไขปัญหา ต่อนักเรียนนายอำเภอรุ่น 62 ประมาณ 50 คน ที่จะลงมาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายสนธิ บรรยายว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบ ต้องใช้ทั้งการทหารและการเมือง สำหรับการทหาร ทางตำรวจและทหารทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว ส่วนด้านการเมืองทุกฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จมาก เห็นได้จากผู้นำองค์กรศาสนาอิสลามระดับโลก ต่างชื่นชมและประทับใจกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า ชาวมุสลิมจะเชื่อฟังผู้นำศาสนามาก ดังนั้นคำวินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเลขาธิการโลกมุสลิม ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ จึงมีความสำคัญมาก จำเป็นที่ผู้ที่มีหน้าที่แก้ปัญหาต้องนำมาเรียนรู้ ด้วยการนำคำวินิจฉัยที่เป็นทางการดังกล่าว มาแปลแจกจ่ายให้นักเรียนนายอำเภอศึกษาเรียนรู้ เพื่อจะได้นำมาใช้ประกอบการแก้ปัญหาในพื้นที่
**********************************
แล้วส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีการกระจายรายได้ที่ใกล้เคียงกันเป็นธรรม สร้างงานสร้างอาชีพให้คนมีงานทำสร้างระบบสารธารณูปโภคให้เท่าเทียมกันไม่มีความแตกต่างกันระหว่างคนต่างจังหวัดและในกรุง เมื่อคนมีงานทำมันก็มีเงินคุณภาพชีวิตก็ดีขึ้นมีการศึกษาที่ดีขึ้นโดนหลอกลวงไม่ได้ง่ายๆโดนชักจูงไม่ได้ง่ายๆ รับรอง ไอ้เรื่องกบฏแบ่งแยกดินแดนมันก็สูญพันธ์ไปเองและไอ้เรื่องที่จะคิดตั้งเขตปกครองพิเศษโดยอ้างเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมมันก็จะหมดไปไม่มีรับรองได้ เพราะมันจะหมดเงื่อนไขไปเองเมื่อทุกคนท้องอิ่ม มีบ้าน มีรถ มีโรงพยาบาล มีโรงเรียน มีมหาวิทยาลัย มีงานทำมีรายได้ที่เหมือนๆกัน
แต่นับถือศาสนาอื่น
" มีการฆ่ารายวัน" ทุกวัน
กษัตริย์ของชาวไทย แล้วเข้ามามีอำนาจแทนที่
ดังเช่น อินเดีย อาฟกานิสถาน เป็นต้น
ตอนกรุงแตก อาณาจักรล่มสลาย และหลังจากบ้านเมือง เป็นปึกแผ่นแล้ว พระเจ้าตากสินและกษัตริย์ทุกพระ องค์
ทรงใช้หลักธรรมของชาวพุทธ ในการคุ้มครองรักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เป็นเอกราชตราบเท่าทุกวันนี้
เมื่อใดที่ผู้นำไม่มีหลักธรรมปกครองแล้วไซ้ร ความพินาศย่อมตกถึงผู้อยู่ใต้การปกครองแน่นอน..
จึงควรมีหน้าที่ ในการรักษาและทำนุบำรุง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดุจดังเช่น บุรพกษัตริย์
ได้ทรงกระทำมา จึงจะรักษาเอกราชของชาติไทยไว้ได้
กำลังได้ผลเพิ่มขึ้น ดังนั้น เราคนไทยทุกคน ควรที่จะช่วยกันป้องกัน เพื่อมิให้ได้ชื่อว่า
"วัวไม่หาย ไม่คิดล้อมคอก" "เมืองไม่แตกไม่คิดรักษาเมือง"
ถึงเวลาตอบแทนคุณแผ่นดินแล้วหรือยัง อย่าเห็นว่าธุระไม่ใช่ บ้านของเรา เราต้องรักษา ใครมาทำลายเราสู้
สู้ด้วยกำลังเสียงเล็กๆ ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
ที่กำลังรอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ...เป็น
พ.ร.บ.ที่มีการหมกเม็ดเพื่อการกลืนศาสนาพุทธและกลืนชาติ...
เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม" ที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ การแก้ไขเพิ่มเติมข้อความว่า"คำปรึกษา
ความคิดเห็นและข้อวินิจฉัยของจุฬาราชมนตรี ตามความในวรรคหนึ่งให้เป็นที่สุด
ส่วนราชการและมุสลิมทุกครนต้องปฏิบัติ" นี่ไม่ใช่คำปรึกษา แต่เป็นประกาศิต ที่ใครจะขัดไม่ได้
มีอำนาจมากกว่าในหลวงอีกหรือไม่
แกไขเพิ่มเติมข้อความ "และส่วนราชการภายในจังหวัด" กรรมการอิสลามประจำจังหวัด
สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของหน่วยราชการทุกหน่วยในจังหวัดได้ ใครไม่ปฏิบัติตาม
ก็จะนำเสนอให้จุฬาราชมนตรีประกาศิตลงมา..............
ตื่นกันได้แล้ว...แผ่นดินไทยจะกลายเป็นรัฐอิสลามในที่สุดก้จะสิ้นชาติ
ที่เป็นคณะกรรมาธิการการศึกษาและศาสนา ได้แต่งตั้งมุสลิม 8 พุทธเพียง 2 ดังนี้
ให้เผด็จการครองเมือง....วันหนึ่งท่านจะไม่เหลือศาสนาพุทธให้เราได้สืบทอด
แผ่นดินไทยจะกลายเป็นรัฐอิสลามในที่สุดก้จะสิ้นชาติ