ร.อ.-ลูกน้องพลีชีพ4ศพ ทบ.ปูนบำเหน็จ9ชั้นยศ
สุดสลด! ชายชาติทหารพลีชีพเซ่นไฟใต้ 4 ศพ เจ็บสาหัสอีก 6 นาย ถูกแนวร่วมโจรใต้เหิมหนัก ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ โจมตีฐานทหาร ปล้นปืนกว่า 50 กระบอก กระสุนอีก 4,000 นัดเผ่นหนี มี “ร.อ.” เพื่อนร่วมรุ่นผู้กองแคน เซ่นชีพด้วย แฉฝีมือมะแซ อุเซ็ง เป็นหัวโจกฝึกแนวร่วมชุดใหม่นับ 100 คน วางแผนบงการอย่างเป็นระบบ แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด จู่โจมและคุ้มกัน เริ่มปฏิบัติการด้วยการตัดไฟ แล้วยกพลจู่โจมแบบไม่ทันได้กระดิกตัว แถมตัดต้นไม้-โรยตะปูเรือใบขวางถนน ป้องกันการส่งกำลังช่วยเหลือ เปิดทางหลบหนี เป้าหมายนำอาวุธไปก่อเหตุครั้งใหญ่ ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้
จากกรณีกลุ่มคนร้ายหลายสิบคนพร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือ บุกฐานปฏิบัติการทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ถนนสายยี่งอ-รือเสาะ หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แล้วใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ทหาร จนทำให้มีทหารในฐานปฏิบัติการได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แล้วจุดไฟเผาค่ายทหาร และชิงอาวุธปืนหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงค่ำ วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ม.ค. นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และคณะทีมงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางไปตรวจสอบฐานปฏิบัติการทหาร ที่ถูกลอบโจมตี เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นพบว่า โรงเรือนแบบน็อกดาวน์ และเพิงพักทหาร ถูกคนร้ายวางเพลิง ได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถจยย.ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่โรงเรือนแบบน็อกดาวน์ ที่ดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บคลังอาวุธ ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ไปกว่า 50 กระบอก พร้อมกระสุนกว่า 4,000 นัด หลบหนีไป
นอกจากนี้ที่บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐานในสวนยางพารา พบกลุ่มคนร้ายใช้แผ่นไม้กระดานขนาดยาวประมาณ 3 เมตรกว่า 10 แผ่น วางพาดเป็นสะพานบุกเข้าโจมตีทหารแบบประชิดตัว และสามารถเก็บรวบรวมหลักฐาน ชิ้นส่วนวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง ที่กลุ่มคนร้ายใช้โจมตีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 กว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 เอ็ม 60 อาก้า และปลอกกระสุนปืนลูกซอง 9 มม. และ 11 มม. ตกอยู่เกลื่อนฐานทหาร กว่า 700 นัด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย 1. ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร 15121 ฉก.นราธิวาส 38 หัวหน้าฐานปฏิบัติการ ทหาร ร้อย ร 15121 ฉก.นราธิวาส 38 และเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (นพท.รุ่น 38) รุ่นเดียวกับ ร.ต.อ.ธรณิศ หรือผู้กองแคน ศรีสุข ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2. ส.ท.เทวรัตน์ เทวา 3. ส.ท.ดุลเลาะ ดะหยี และ 4. พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 13 นาย อาการสาหัส 6 นาย ทราบชื่อ จ.ส.อ.จินตนะ นุชตะมา ส.อ.ณัฐกิจ โพธิจันทร์ ส.อ.สุพล ชูศรี พลทหารสุคนธ์ สามาบุตร พลทหารธันวา ยอดแก้ว ถูกนำส่งรพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.สงขลา ส่วนอีก 7 นาย ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาบาดแผลได้ด้วยตัวเอง และมีบางส่วนแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
แหล่งข่าวจากชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุได้ประเมินว่า จากการปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน และมีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้เป็นอย่างดี และเป็นระบบกว่าเหตุคนร้ายปล้นปืนที่ กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 อีกทั้งกลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวภายในฐาน ว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์น้อย จึงบุกโจมตี ด้วยการแบ่งกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมีกำลังประมาณ 10-15 คน ทำหน้าที่จู่โจมด้านหน้าฐานปฏิบัติการทหาร เริ่มจากทำการตัดระบบไฟฟ้าภายในฐานทั้งหมด แล้วระดมยิงเข้าไปในฐานเป็นระลอก ๆ โดยมีปืนเอ็ม 79 คอยยิงสนับสนุนอยู่ทางด้านหลังเป็นระยะ ๆ เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลัง ยิงปะทะอยู่ในฐาน เพื่อสกัดไม่ให้เข้าไปด้านใน
จากนั้นกลุ่มคนร้ายชุดที่ 2 มีกำลังไม่ต่ำกว่า 30 คน พร้อมอาวุธหนักครบมือ ทั้งอาก้า เอ็ม 16 และปืนกล ที่ซ่องสุมกำลังอยู่ในป่าสวนยางรกทึบ ด้านหลังของฐานปฏิบัติการ พากันวิ่งกรูบุกจู่โจมเข้าไปทางด้านหลังของฐานอย่างรวดเร็ว โดยใช้ไม้กระดานขนาดยาวกว่า 10 แผ่น วางพาดคูน้ำและรั้วลวดหนามของฐาน มุ่งหน้าเข้าไปสังหารทหารชุดสื่อสารเป็นกลุ่มแรก แล้วกระจายกำลังจู่โจมแบบประชิดตัว ตามจุดต่าง ๆ ในฐานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับขโมยอาวุธปืน และกระสุนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนทางด้านนอกฐานปฏิบัติการ มีการตัดต้นไม้ขวางถนน และโรยตะปูเรือใบตามเส้นทางต่าง ๆ ที่จะเข้ามาที่บริเวณฐานปฏิบัติการทหาร เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ และเบื้องต้นทราบว่ามีคนร้ายอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ เคยร่วมบุกปล้นปืนมาแล้ว โดยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธ เพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงประมาณเดือน ก.พ. และ มี.ค. ที่จะ
ถึงนี้
ขณะที่ การติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงคราม ดมกลิ่น กระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาด้านหลังฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย และพบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขาบูโด ห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร จึงคาดว่าน่าจะมีกลุ่มคนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปหลายคน จึงเร่งประสานงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามโรงพยาบาล และสถานีอนามัยต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านไปรักษาตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มก่อความไม่สงบ บุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร ที่ จ.นราธิวาส ทำให้มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ขอแสดงความเสียใจ ขอยกย่องเจ้าหน้าที่ว่าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี และคิดว่าสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เริ่มมีผลในทางบวก เพราะมีประชาชนให้การสนับสนุนมากขึ้น ทำให้ฝ่ายก่อการร้ายพยายามแสดงอำนาจ อิทธิพล จึงระดมคนพร้อมอาวุธครบมือลงมาจากเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ บุกเข้าปิดล้อมโจมตี แต่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นกลุ่มไหน และจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ไม่สามารถอธิบายในรายละเอียดในเรื่องเส้นทางได้ ทราบเพียงว่าเป็นการบุกโจมตีลงมาจากเทือกเขา แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คงจะต้องปรับกระบวนการปฏิบัติงานให้มากขึ้น
ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ และประณามกลุ่มโจรใต้ที่บุกถล่มฐานทหาร จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก จึงสั่งกำชับให้เร่งไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีพร้อมติดตามอาวุธ กลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ติดกล้องออกสำรวจตามเทือกเขา สถานที่แหล่งซ่องสุมของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อย่างไรก็ดี อย่ามองว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อต้องการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของทหารกล้าที่เสียสละต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อ เหตุรุนแรง ปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาค ใต้ สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มของนายแวอาลี คอปเตอร์ วาจิ ที่มีสมาชิกกลุ่ม ประมาณ 30 คน ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และเคลื่อนไหวในบริเวณเทือกเขาบูโด และเคยเคลื่อนไหวหลบซ่อนตัว บนเทือกเขาตะแว และจากการเข้าไปตรวจค้นพบที่พักชั่วคราว จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะเข้าไปหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นเขตรอยต่อในหลาย ๆ อำเภอ ของจ.นราธิวาส และปัตตานี
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวต่อว่า ในส่วนการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้น ทางราชการจะช่วยเหลือดูแลครอบครัวตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ ในทุกส่วนราชการ ตั้งแต่สำนักนายกรัฐมนตรี กอ.รมน.ภาค 4 สน. ส่วนราชการที่เป็นต้นสังกัด รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ จะได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับผู้บาดเจ็บจะดูแลในการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว จะมีเงินชดเชย และเงินค่าเยียวยาตามเกณฑ์ของแต่ละส่วนราชการต่อไป
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญ ให้กำลังใจทหารที่บาดเจ็บ ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ทางด้าน ดร.สมัคร เจียมบุรเศรษฐ์ ประธานมูลนิธิรักษ์สามัคคี ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตของทหารหาญและผู้บาดเจ็บ โดยจะนำคณะลงพื้นที่ไปเยี่ยมปลอบขวัญและหาทางช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ต่อไป
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เสียใจกับผู้สูญเสียและครอบครัว และขณะนี้กองทัพดำเนินการปรับแนวทางในบางเรื่อง ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตต่าง ๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุทราบว่ายังเป็นกลุ่มเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงสร้างไปจากรุ่นเก่า ๆ ส่วนอาวุธปืน และกระสุนที่หายไป อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะเดียวกันนี้ มีรายงานว่า คนร้ายก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง โดยเวลา 09.20 น. คนร้ายใช้จยย.บอมบ์ ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ ช่วงบริเวณบ้าน บือเร๊ะ ต.บาเร๊ะใต้ ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนซ้าย และจ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว ต่อมาเวลา 10.55 น. เกิดเหตุระเบิดที่ถนนสายตะบิงตีงี-ศรีสาคร หมู่ 3 บ้านทรายแก้ว ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้มีตำรวจตระเวนชายแดนของร้อยเฉพาะกิจรบพิเศษ 4 (ร้อย ฉก.รพศ.4) 7 นาย มีอาการจุก และหูอื้อ อีกราย เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหัวสะพาน หมู่ 4 บ้านต้นมะขาม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เวลา 17.40 น. พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ศรีอาราม สวญ.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อม พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา 12 สนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบชันสูตรศพนายมะซอเร ดอเลาะบาแซ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 5 ต.เกะรอ ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านอูแตบาโงย หมู่ 7 ต.เกะรอ กระสุนเจาะศีรษะ พบว่ามีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกและแขนซ้ายขวา รวม 5 นัด นอนตายจมกองเลือดข้างรถจยย.ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขขพ 147 นราธิวาส ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจสันติบาลได้รายงานสถานการณ์ด้านความมั่นคงให้หน่วยข่าวในพื้นที่ทราบ ว่า ขณะนี้มีกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบราว 100 คน เพิ่งสำเร็จการฝึกอบรม จึงลงมือก่อเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ และชิงอาวุธปืน เพื่อนำไปก่อเหตุร้ายรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ มีรายงานด้วยว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ส่งจดหมายและโทรศัพท์ข่มขู่ จะเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ และระหว่างเกิดเหตุคนร้ายบุกถล่มฐานปฏิบัติการ และไล่ล่า ร.อ.กฤช เพราะตกเป็นเป้าหมายเอาชีวิต เนื่องจากได้นำกำลังออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มแนวร่วมอย่างจริงจังและต่อ เนื่อง
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่บริเวณกุโบร์ (สุสาน) บ้านจันเรียน หมู่ 2 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รอง ผวจ.ยะลา เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทาน วางบนหลุมฝังศพ อส.ทพ.สุทธิพร กันสุริ อายุ 29 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4113 กรมทหารพรานที่ 41 ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเสียชีวิต ที่ถนนสายยะลา-รามัน หมู่ 2 บ้านบือแน ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา สร้างความปลาบปลื้มปีติให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
สุดสลด! ชายชาติทหารพลีชีพเซ่นไฟใต้ 4 ศพ เจ็บสาหัสอีก 6 นาย ถูกแนวร่วมโจรใต้เหิมหนัก ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ โจมตีฐานทหาร ปล้นปืนกว่า 50 กระบอก กระสุนอีก 4,000 นัดเผ่นหนี มี “ร.อ.” เพื่อนร่วมรุ่นผู้กองแคน เซ่นชีพด้วย แฉฝีมือมะแซ อุเซ็ง เป็นหัวโจกฝึกแนวร่วมชุดใหม่นับ 100 คน วางแผนบงการอย่างเป็นระบบ แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด จู่โจมและคุ้มกัน เริ่มปฏิบัติการด้วยการตัดไฟ แล้วยกพลจู่โจมแบบไม่ทันได้กระดิกตัว แถมตัดต้นไม้-โรยตะปูเรือใบขวางถนน ป้องกันการส่งกำลังช่วยเหลือ เปิดทางหลบหนี เป้าหมายนำอาวุธไปก่อเหตุครั้งใหญ่ ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้
จากกรณีกลุ่มคนร้ายหลายสิบคนพร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือ บุกฐานปฏิบัติการทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ถนนสายยี่งอ-รือเสาะ หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แล้วใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ทหาร จนทำให้มีทหารในฐานปฏิบัติการได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แล้วจุดไฟเผาค่ายทหาร และชิงอาวุธปืนหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงค่ำ วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ม.ค. นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และคณะทีมงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางไปตรวจสอบฐานปฏิบัติการทหาร ที่ถูกลอบโจมตี เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นพบว่า โรงเรือนแบบน็อกดาวน์ และเพิงพักทหาร ถูกคนร้ายวางเพลิง ได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถจยย.ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่โรงเรือนแบบน็อกดาวน์ ที่ดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บคลังอาวุธ ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ไปกว่า 50 กระบอก พร้อมกระสุนกว่า 4,000 นัด หลบหนีไป
นอกจากนี้ที่บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐานในสวนยางพารา พบกลุ่มคนร้ายใช้แผ่นไม้กระดานขนาดยาวประมาณ 3 เมตรกว่า 10 แผ่น วางพาดเป็นสะพานบุกเข้าโจมตีทหารแบบประชิดตัว และสามารถเก็บรวบรวมหลักฐาน ชิ้นส่วนวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง ที่กลุ่มคนร้ายใช้โจมตีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 กว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 เอ็ม 60 อาก้า และปลอกกระสุนปืนลูกซอง 9 มม. และ 11 มม. ตกอยู่เกลื่อนฐานทหาร กว่า 700 นัด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย 1. ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร 15121 ฉก.นราธิวาส 38 หัวหน้าฐานปฏิบัติการ ทหาร ร้อย ร 15121 ฉก.นราธิวาส 38 และเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (นพท.รุ่น 38) รุ่นเดียวกับ ร.ต.อ.ธรณิศ หรือผู้กองแคน ศรีสุข ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2. ส.ท.เทวรัตน์ เทวา 3. ส.ท.ดุลเลาะ ดะหยี และ 4. พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 13 นาย อาการสาหัส 6 นาย ทราบชื่อ จ.ส.อ.จินตนะ นุชตะมา ส.อ.ณัฐกิจ โพธิจันทร์ ส.อ.สุพล ชูศรี พลทหารสุคนธ์ สามาบุตร พลทหารธันวา ยอดแก้ว ถูกนำส่งรพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.สงขลา ส่วนอีก 7 นาย ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาบาดแผลได้ด้วยตัวเอง และมีบางส่วนแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
แหล่งข่าวจากชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุได้ประเมินว่า จากการปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน และมีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้เป็นอย่างดี และเป็นระบบกว่าเหตุคนร้ายปล้นปืนที่ กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 อีกทั้งกลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวภายในฐาน ว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์น้อย จึงบุกโจมตี ด้วยการแบ่งกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมีกำลังประมาณ 10-15 คน ทำหน้าที่จู่โจมด้านหน้าฐานปฏิบัติการทหาร เริ่มจากทำการตัดระบบไฟฟ้าภายในฐานทั้งหมด แล้วระดมยิงเข้าไปในฐานเป็นระลอก ๆ โดยมีปืนเอ็ม 79 คอยยิงสนับสนุนอยู่ทางด้านหลังเป็นระยะ ๆ เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลัง ยิงปะทะอยู่ในฐาน เพื่อสกัดไม่ให้เข้าไปด้านใน
จากนั้นกลุ่มคนร้ายชุดที่ 2 มีกำลังไม่ต่ำกว่า 30 คน พร้อมอาวุธหนักครบมือ ทั้งอาก้า เอ็ม 16 และปืนกล ที่ซ่องสุมกำลังอยู่ในป่าสวนยางรกทึบ ด้านหลังของฐานปฏิบัติการ พากันวิ่งกรูบุกจู่โจมเข้าไปทางด้านหลังของฐานอย่างรวดเร็ว โดยใช้ไม้กระดานขนาดยาวกว่า 10 แผ่น วางพาดคูน้ำและรั้วลวดหนามของฐาน มุ่งหน้าเข้าไปสังหารทหารชุดสื่อสารเป็นกลุ่มแรก แล้วกระจายกำลังจู่โจมแบบประชิดตัว ตามจุดต่าง ๆ ในฐานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับขโมยอาวุธปืน และกระสุนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนทางด้านนอกฐานปฏิบัติการ มีการตัดต้นไม้ขวางถนน และโรยตะปูเรือใบตามเส้นทางต่าง ๆ ที่จะเข้ามาที่บริเวณฐานปฏิบัติการทหาร เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ และเบื้องต้นทราบว่ามีคนร้ายอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ เคยร่วมบุกปล้นปืนมาแล้ว โดยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธ เพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงประมาณเดือน ก.พ. และ มี.ค. ที่จะ
ถึงนี้
ขณะที่ การติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงคราม ดมกลิ่น กระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาด้านหลังฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย และพบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขาบูโด ห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร จึงคาดว่าน่าจะมีกลุ่มคนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปหลายคน จึงเร่งประสานงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามโรงพยาบาล และสถานีอนามัยต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านไปรักษาตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มก่อความไม่สงบ บุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร ที่ จ.นราธิวาส ทำให้มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ขอแสดงความเสียใจ ขอยกย่องเจ้าหน้าที่ว่าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี และคิดว่าสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เริ่มมีผลในทางบวก เพราะมีประชาชนให้การสนับสนุนมากขึ้น ทำให้ฝ่ายก่อการร้ายพยายามแสดงอำนาจ อิทธิพล จึงระดมคนพร้อมอาวุธครบมือลงมาจากเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ บุกเข้าปิดล้อมโจมตี แต่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นกลุ่มไหน และจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ไม่สามารถอธิบายในรายละเอียดในเรื่องเส้นทางได้ ทราบเพียงว่าเป็นการบุกโจมตีลงมาจากเทือกเขา แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คงจะต้องปรับกระบวนการปฏิบัติงานให้มากขึ้น
ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ และประณามกลุ่มโจรใต้ที่บุกถล่มฐานทหาร จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก จึงสั่งกำชับให้เร่งไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีพร้อมติดตามอาวุธ กลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ติดกล้องออกสำรวจตามเทือกเขา สถานที่แหล่งซ่องสุมของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อย่างไรก็ดี อย่ามองว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อต้องการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของทหารกล้าที่เสียสละต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อ เหตุรุนแรง ปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาค ใต้ สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มของนายแวอาลี คอปเตอร์ วาจิ ที่มีสมาชิกกลุ่ม ประมาณ 30 คน ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และเคลื่อนไหวในบริเวณเทือกเขาบูโด และเคยเคลื่อนไหวหลบซ่อนตัว บนเทือกเขาตะแว และจากการเข้าไปตรวจค้นพบที่พักชั่วคราว จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะเข้าไปหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นเขตรอยต่อในหลาย ๆ อำเภอ ของจ.นราธิวาส และปัตตานี
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวต่อว่า ในส่วนการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้น ทางราชการจะช่วยเหลือดูแลครอบครัวตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ ในทุกส่วนราชการ ตั้งแต่สำนักนายกรัฐมนตรี กอ.รมน.ภาค 4 สน. ส่วนราชการที่เป็นต้นสังกัด รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ จะได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับผู้บาดเจ็บจะดูแลในการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว จะมีเงินชดเชย และเงินค่าเยียวยาตามเกณฑ์ของแต่ละส่วนราชการต่อไป
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญ ให้กำลังใจทหารที่บาดเจ็บ ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ทางด้าน ดร.สมัคร เจียมบุรเศรษฐ์ ประธานมูลนิธิรักษ์สามัคคี ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตของทหารหาญและผู้บาดเจ็บ โดยจะนำคณะลงพื้นที่ไปเยี่ยมปลอบขวัญและหาทางช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ต่อไป
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เสียใจกับผู้สูญเสียและครอบครัว และขณะนี้กองทัพดำเนินการปรับแนวทางในบางเรื่อง ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตต่าง ๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุทราบว่ายังเป็นกลุ่มเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงสร้างไปจากรุ่นเก่า ๆ ส่วนอาวุธปืน และกระสุนที่หายไป อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะเดียวกันนี้ มีรายงานว่า คนร้ายก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง โดยเวลา 09.20 น. คนร้ายใช้จยย.บอมบ์ ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ ช่วงบริเวณบ้าน บือเร๊ะ ต.บาเร๊ะใต้ ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนซ้าย และจ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว ต่อมาเวลา 10.55 น. เกิดเหตุระเบิดที่ถนนสายตะบิงตีงี-ศรีสาคร หมู่ 3 บ้านทรายแก้ว ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้มีตำรวจตระเวนชายแดนของร้อยเฉพาะกิจรบพิเศษ 4 (ร้อย ฉก.รพศ.4) 7 นาย มีอาการจุก และหูอื้อ อีกราย เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหัวสะพาน หมู่ 4 บ้านต้นมะขาม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เวลา 17.40 น. พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ศรีอาราม สวญ.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อม พ.ท.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา 12 สนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบชันสูตรศพนายมะซอเร ดอเลาะบาแซ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 5 ต.เกะรอ ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านอูแตบาโงย หมู่ 7 ต.เกะรอ กระสุนเจาะศีรษะ พบว่ามีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกและแขนซ้ายขวา รวม 5 นัด นอนตายจมกองเลือดข้างรถจยย.ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขขพ 147 นราธิวาส ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจสันติบาลได้รายงานสถานการณ์ด้านความมั่นคงให้หน่วยข่าวในพื้นที่ทราบ ว่า ขณะนี้มีกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบราว 100 คน เพิ่งสำเร็จการฝึกอบรม จึงลงมือก่อเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ และชิงอาวุธปืน เพื่อนำไปก่อเหตุร้ายรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ มีรายงานด้วยว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ส่งจดหมายและโทรศัพท์ข่มขู่ จะเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ และระหว่างเกิดเหตุคนร้ายบุกถล่มฐานปฏิบัติการ และไล่ล่า ร.อ.กฤช เพราะตกเป็นเป้าหมายเอาชีวิต เนื่องจากได้นำกำลังออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มแนวร่วมอย่างจริงจังและต่อ เนื่อง
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่บริเวณกุโบร์ (สุสาน) บ้านจันเรียน หมู่ 2 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รอง ผวจ.ยะลา เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทาน วางบนหลุมฝังศพ อส.ทพ.สุทธิพร กันสุริ อายุ 29 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4113 กรมทหารพรานที่ 41 ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเสียชีวิต ที่ถนนสายยะลา-รามัน หมู่ 2 บ้านบือแน ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา สร้างความปลาบปลื้มปีติให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น