วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ตายแค่ 900 เอง

http://wbns.oas.psu.ac.th/shownews.php?news_id=100094
มท.3 "ถาวร" ตอบกระทู้ในสภา ไฟใต้ยุคอภิสิทธิ์ตายแค่ 900 ศพ สมัยทักษิณตายมากกว่ากันเยอะ หลังเพื่อไทยถามแก้ปัญหาล้มเหลว ละเลงงบไปเกินแสนล้าน สูญเสียไปแล้วกว่า 4 พันศพ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแจงกมธ.ทหาร ยอมรับข้อผิดพลาดฐานทหารโดนถล่ม ระบุปืนถูกปล้นไป 60 กระบอก กมธ.ทหารแฉมีข่าวลือสะพัดเป็นศึกทหาร-ตำรวจ "มาร์ค"ยอมรับมีปมไส้ศึก แต่ผลสอบยังมาไม่ถึง

"มาร์ค"ยังไม่ได้รับรายงาน"ไส้ศึก"

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร ฉก. นราธิวาส ที่ผ่านมาว่า ยังไม่มีรายงานอย่างนั้นมาถึง เพราะอยู่ระหว่างสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้เวลาสอบสวนนานแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ให้ทำไปตามความเป็นจริง แต่อยากเร่งรัดอยู่แล้ว ส่วนเจ้าหน้า ที่ต้องมุ่งปรับปรุงอุดช่องโหว่มากกว่า เมื่อถามว่าปัญหาการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ นอกจากมุ่งให้เป็นประเด็นในการประชุมองค์กรมุสลิมโลก (โอไอซี) แล้ว ยังมีเรื่องอื่นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นหลัก เพราะประเมินก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ต้องยอมรับว่าเรื่องของฐานปฏิบัติการนั้น ส่วนหนึ่ง เพราะเรากระจายกำลังค่อนข้างมาก เพื่อระวังดูแลประชาชนหรือการก่อวินาศ กรรม แต่ในวันที่มีการโจมตีดังกล่าว เป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ลงไปมอบนโยบายแก่ทหารในพื้นที่และกำลังจะปรับเปลี่ยน เมื่อถามว่ามีข่าวว่าหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงอยากให้นายกฯ ทบทวนการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะแนวทางตรงกันหมด

ต่อข้อถามว่าดูเหมือนยังตามหลังผู้ก่อความไม่สงบ นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติก่อนว่าฝ่ายหนึ่งเลือกโจมตี หรือสร้างความวุ่นวายที่ใดก็ได้ อีกฝ่ายต้องพยายามป้องกันไม่ให้เกิด จึงมีสภาพเช่นนี้ แต่เราพยายามปลดเงื่อนไข ทั้งนี้หัวใจสำคัญที่สุดคือพื้นที่ใดเมื่อเจ้าหน้า ที่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านส่วนใหญ่ ฝ่ายผู้ก่อการจะปฏิบัติการได้ยาก ซึ่งเป็นหัวใจหลักของยุทธศาสตร์ที่จะเดินหน้าต่อไป คิดว่าต้องดูภาพรวมและแนวโน้มของสถานการณ์ ถ้าเป็นปัญหาจริง ต้องทบทวน แต่ตอนนี้สภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้หลุดออกนอกกรอบที่วิเคราะห์และติดตาม

แจงปมโยงสู่องค์กรมุสลิม

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย กล่าวถึงกรณีผู้แทนโอไอซีเข้าพบ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ว่า ผู้แทนคนดังกล่าวเป็นผู้แทนคนแรกประจำประเทศไทย เมื่อถามว่าหารือถึงสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า การหารือวันนี้ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการค้าขาย เพราะเขาต้องการเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า และเขาต้องการเชิญให้เราไปชมการทำการค้าในประเทศมุสลิม ทั้ง 47 ประเทศ หรือให้เลือกว่าเราต้องการที่จะไปประเทศได้ เขายินดีที่จะให้การต้อนรับ

นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุที่นายกฯ ระบุว่าคนร้ายโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร เพราะต้องการให้ที่ประชุมโอไอซี นำไปเป็นประ เด็น เนื่องจากก่อนหน้านี้ปี 2550 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยพยายามเสนอประเด็นความไม่สงบในภาคใต้ของไทย เข้าสู่ที่ประชุมโอไอซี ที่กรุงการาจี ประเทศปากีสถาน อ้างถึงกรณีองค์การสห ประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกรณีติมอร์ตะวันออกขอแยกตัวออกจากประเทศอินโดนีเซีย

นายสมัย กล่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์เรียก เลขาธิการโอไอซีมาชี้แจง เป็นเหตุให้แม้จะแจกเอกสารเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว แต่ไม่มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม และไม่มีการหยิบขึ้นมา หรือต่อมาในการประชุมโอไอซี ปี 2552 ที่กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เนื่องจากเป็นที่นายตวนกู บีรอ กอตอนีรอ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในภาคใต้หนีไปกบดาน เป็นเหตุให้กระทรวงการต่างประเทศ ส่งนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศขณะนั้น ไปประสานงานเป็นเหตุให้ไม่มีการหารือเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมโอไอซี

"คนร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทั้ง 1.พวกที่คิดจะแบ่งแยกดินแดน 2.ฝ่ายที่ต้องการข่มขู่เจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปหาประ โยชน์เรื่องค้าของเถื่อน บ่อน หรือยาเสพติด และ 3.แนวร่วมที่โกรธแค้น เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนคงหวังจะให้โอไอซีหยิบประเด็นภาคใต้ของไทยไปหารือ เพื่อนำไปสู่การลงประชามติ เพื่อแยกดินแดนเช่นเดียวกับติมอร์ตะวันออก หรืออย่างน้อยก็สร้างกระแสเพื่อของบประมาณจากองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ" นายสมัย กล่าว

นายสมัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำจากนี้ไป คือทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อถือ และมั่นใจในข้อมูลภาครัฐ เพราะที่ผ่านมาในบางพื้นที่ ชาวบ้านเชื่อถือข่าวลือมากกว่าข้อมูลจากภาครัฐ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียเปรียบในการปฏิบัติงาน เช่นบอกว่าเจ้าหน้าที่ยิงชาวบ้าน สร้างความโกรธแค้น ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงอยากให้รัฐบาลเร่งทำงานด้านจิตวิทยา โดยต้องให้คนดี อย่างผู้นำศาสนา โต๊ะครู ปอเนาะ ฯลฯ เข้าร่วม เรื่องนี้รัฐบาลต้องทำเพื่อชิงมวลชน เพราะที่ผ่านมางานด้านนี้อ่อนแอมาก

พท.กระทู้ถามแก้ไฟใต้เหลว

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนฯ เป็นประธานประชุม พิจารณากระทู้ถามสดนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามนายกฯ ซึ่งมอบหมายนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เป็นผู้ชี้แจงแทน

นายจตุพรถามว่า รัฐบาลนี้บริหารประ เทศมา 2 ปีเศษ แต่ปัญหาเกิดขึ้นไม่เว้นวัน สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านชอบแสดงตัวเป็นผู้รู้ และโทษว่าเป็นความผิดรัฐบาลทักษิณ แต่พอได้เป็นรัฐบาลก็บอกว่าจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ได้ 99 วัน แต่ขณะนี้ทำบุญ 100 วันไม่รู้กี่ชีวิตก็ยังแก้ไม่ได้สักที เหตุการณ์ที่ผ่านมา 7 ปีมีทั้งหมด 11,525 คดี มีคนเสียชีวิต 4,383 ราย ทหาร 295 ตำรวจ 254 และประชาชน 3,834 ราย ใช้งบประมาณทั้งหมด 140,000 กว่าล้านบาท ถือเป็นงบลงภาคใต้มากที่สุด รัฐบาลนี้มีส.ส.ภาคใต้มากที่สุดแต่คนตายไม่เว้นแต่ละวัน จึงอยากถามว่าตั้งแต่ตั้งครม.ใต้ และตั้งกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาภาคใต้หลายชุด มีการประชุมกี่ครั้ง ทำไมไฟใต้ยังไม่ดับ แถมเหตุการณ์รุนแรงขึ้นกว่าเดิม

ยุคอภิสิทธิ์ตายแค่ 900 

นายถาวรชี้แจงว่า สาเหตุของปัญหาเกิดจากยุครัฐบาลทักษิณตั้งแต่ยกเลิกศอ.บต. หรือการตีโจทย์ผิดว่าเป็นโจรกระจอก ส่วนที่บอกว่ามีประชาชนตายเกือบ 4 พันคนขอชี้แจงว่ามีคนตายในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ 900 คน นอกนั้นไปคิดเอาเองว่าตายในยุคทักษิณเท่าไหร่ ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาใช้รูปแบบบูรณาการเน้นการประกอบอาชีพ การเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ ส่วนที่ถามว่าเอาสมองที่ไหนมาคิดก็เอามาจากตน นายกฯ และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และที่ระบุว่า 99 วันไม่ได้ทำอะไรเลยนั้นขอชี้แจงว่าได้ตั้งศอ.บต.ขึ้นมา แต่การแก้ปัญหายุ่งยากและต้องใช้เวลา และดำเนินการตามยุทธศาสตร์พระราชทาน คือเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นรายวันเป็นปัญหาเชิงยุทธวิธี

นายจตุพรถามต่อว่า ดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้รอบรู้ ทำไมการแก้ไขปัญหาของประเทศจึงไม่จบ เพราะพื้นที่ชายแดนใต้ไม่ต่างอะไรกับบ่อน้ำมัน มีการจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษกว่าพื้นที่อื่น ผลประโยชน์ของนักการเมือง แต่ชะตากรรมไปตกอยู่ที่ประชาชน ตำรวจ ทหารที่ได้รับเพียงเศษเงิน จึงอยากถามว่าทำไมเบี้ยเลี้ยงที่จ่ายให้กับทหารที่มาปราบประชาชนในกทม.จึง สูงกว่าทหารที่อยู่เสี่ยงภัยในภาคใต้ 

นายถาวรชี้แจงว่า ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้ และถ้าจะเอาให้มันขอท้าให้ไปยื่นป.ป.ช. หรือยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้กันดีกว่า อย่ามาตั้งกระทู้ถามสดแค่ในสภา และขอชี้แจงว่าการจัดสรรงบให้ 2,073 หมู่บ้านผ่านการทำประชาคมทุกครั้ง ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างในพื้นที่ก็ยึดตามระเบียบสำนักนายกฯ ถ้าหาหน่วยงานที่มาทำงานไม่ทันก็จะใช้กำลังทหาร รวมทั้งขณะนี้การจัดซื้อจัดจ้างไม่มีปัญหากำลังดำเนินการไปอย่างราบรื่น ขอยืนยันว่าการจัดทำงบไม่ได้ทำตามอำเภอใจ

"ทหารและตำรวจปฏิบัติหน้าที่จุดไหนก็มีความเสี่ยงเท่ากัน ขณะรัฐสภาที่ว่าไม่เสี่ยง พูดเอามันสนุกจริงๆ เมื่อมีการสูญเสียมีการเยียวยา ส่วนที่กล่าวหานายกฯและรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไปพื้นที่ภาคใต้น้อยนั้น ก็ไปมากกว่าทักษิณ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เอาใจปัญหาภาคใต้ไม่ได้ย่อหย่อน และปัญหาดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่รัฐบาลฝ่ายเดียวที่ต้องดูแล แต่เป็นหน้าที่ของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา แต่ถ้าฝ่ายค้านไม่พอใจ ขอเชิญนายจตุพรไปภาคใต้วันที่ 28 ม.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาและทำงานเต็มที่ และเชื่อว่ารัฐบาลมาถูกทางแน่" นายถาวร กล่าว

กอ.รมน.ภาค 4 แจงกมธ.

ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนฯ ประชุมวาระพิจารณา กรณีคนร้ายกว่า 40 คน พร้อมอาวุธบุกโจมตีฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ ฉก.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 7 ราย มีพ.ต.ท.สมชาย เพศ ประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประธานกมธ. เป็นประธาน โดยเชิญพล.ต. สกล ชื่นตระกูล รองผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจง

พล.ต.สกลชี้แจงว่า ที่บ้านมะรือโบตก เป็นฐานการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.15121 ฉก. นราธิวาส มาตั้งแต่ปี 2549 ก่อนวันเกิดเหตุได้รับข่าวสารมาตามลำดับว่ามีการเคลื่อนไหวของกองกำลังติด อาวุธรอบๆ ที่ตั้ง 2 ก.ม.เป็นครั้งราว โดยประชาชนให้ความร่วมมือแจ้งเตือน เราประเมินว่าช่วงปีใหม่น่าจะมีปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง สุดท้ายก็เกิดวันที่ 19 ม.ค. วันนั้นที่ฐานกำลัง 36 นาย โดยช่วงเย็นแบ่งกำลังไปอาบน้ำบ้าง ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามวางแผนเตรียมกำลังมาชัดเจน ทราบภายหลังว่าเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาบูโด 20 ช.ม. โดยยึดฐานด้านตะวันตก และจัดทีมเข้ามาคลังอาวุธ ใช้เวลาปฏิบัติการ 20 นาที การเกิดเหตุครั้งนี้ยอมรับว่ามีความบกพร่องการจัดเวรยาม เรื่องนี้จะหาทางแก้ไข นอกจากนี้ ฐานก็ตั้งมานานอาจเสื่อมสภาพได้ ส่วนเรื่องไส้ศึกอาจมีความเป็นไปได้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องไส้ศึกไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

"หลังเกิดเหตุทหารอากาศขึ้นไปถ่ายภาพ เก็บข้อมูล และมีเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของตำรวจ เข้าไปเก็บรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนย้ายอาวุธ ปลอกกระสุน ก้นบุหรี่ โทรโข่ง รวมถึงตรวจสอบตามเส้นทางที่ผู้ก่อการร้ายหนี พบขวดน้ำ ผ้าพันคอ จึงนำมาตรวจดีเอ็นเอ จนตรวจพบชื่อผู้ปฏิบัติ การจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างเชิญผู้ต้องสงสัยมาชี้แจงเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยตั้งคณะกรรมการตรวจพื้นที่ล่อแหลมแล้ว ซึ่งในพื้นที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ 290 กว่าฐาน ยังมีฐานที่ล่อแหลมอยู่" พล.ต.สกล ชี้แจง

พล.ต.สกล ชี้แจงอีกว่า พื้นที่ฐานปฏิบัติการ มีชุมชนห่างจากฐาน 300-400 ร้อยเมตร เดิมตกอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ก่อการร้าย แต่การปฏิบัติงานด้านมวลชนยึดหลักการ เมืองนำการทหาร เข้าหาชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็ดีกับเราเสมอ แต่โอกาสแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถบอกได้ เพียงแต่บอกให้ระวังตัวเท่านั้น เพราะชาวบ้านก็คงไม่ทราบว่าผู้ก่อการร้ายจะปฏบัติการเมื่อไหร่ ชาวบ้านยังหวาดกลัวและอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ก่อการร้าย

แฉข่าวกระหึ่มศึก"ตร.-ทหาร"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีการซักถามอย่างกว้างขวาง โดยพล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี และพ.ต.ท.สมชาย ในฐานะกมธ. แสดงความคิดเห็นเชิงตำหนิว่า การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ผิดพลาดหละหลวม ผู้ก่อการร้ายใช้เวลาโจมตีเพียง 20 นาที ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ อยากทราบยอดจริงๆ ว่าทหารมีเท่าไหร่ อาวุธหายเท่าไหร่ ทำไมผิดพลาดขนาดนี้ เสียดายและเห็นใจกำลังพลที่เสียชีวิต 

ขณะที่นายเชน เทือกสุบรรณ กมธ. กล่าวว่า เวลานี้งบทุ่มเทไปในส่วนนี้มากเป็นแสนๆ ล้าน ถ้าเอาชนะไม่ได้จะไม่คุ้มค่ากับภาษีอากรที่ประชาชนเสียมา และอาจมีข้อครหาได้ ด้านนายยุทธนา วานิชอังกูร ที่ปรึกษากมธ. กล่าวว่า มีคนในพื้นที่บอกว่ามีข่าวลือทุกโรงเรียนปอเนาะว่า งานนี้ที่เสียชีวิตเพราะทหารทะเลาะกับตำรวจ ตรงนี้จึงต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้

รองผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปืนที่หายไปทั้งหมดโดยยังไม่ได้จำแนกรายละเอียดคือ 60 กระบอก กำลังพลวันนั้นมี 36 นายที่ปฏิบัติหน้าที่ และทุกคนยืนยันว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หาทางปรับปรุงแก้ไข เปลี่ยนแปรสภาพแวดล้อมเพื่อปฏิบัติการให้ได้ และยังคงมีขวัญกำลังใจอยู่ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการติดตามจับกุม กลุ่มคนร้ายลอบโจมตีฐานทหาร ฉก.นราธิ วาส นั้น วันเดียวกันนี้ขณะทหาร ฉก.นราธิ วาส 36 ตรวจค้นบนถนนหน้าฐานปฏิบัติการ บริเวณเกาะสวาท ต.ไพรวัณ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 9923 ยะลา ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบบัตรประชาชน พบว่า 1 ใน 6 คนที่โดยสารมา คือนายมาหะมะ มูโน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 ม.8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีหมายจับ สภ.ระแงะ ปี 2549 จึงควบคุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 6 คนส่ง สภ.ตากใบ สอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยมีโทรศัทพ์มือถือ และคลิปเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดหลายเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวทั้งหมดไปที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เพื่อสอบขยายผลต่อไป

ชาวบ้านบุกฐานให้กำลังใจทหาร

เมื่อเวลา 10.30 น.ตัวแทนชาวบ้านใน 9 หมู่บ้านของ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นรา ธิวาส ประมาณ 400 คน เดินทางมายังฐานปฏิบัติการทหารพระองค์ดำ ฉก.นราธิวาส ที่เพิ่งถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกถล่มและปล้นปืน โดยมีร.ท.ภูริ เพิกโสภณ รักษาราชการแทน ผบ.ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 และทหารภายในฐานให้การต้อนรับ โดยกลุ่มตัวแทนชาวบ้านนำดอกไม้และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ มามอบเป็นกำลังใจให้กับทหาร

เมื่อเวลา 08.05 น.ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบนถนนสายท่าสาป-สนามบิน หมู่ 1 บ.ท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย จึงแจ้งพ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เมืองยะลา ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และฝ่ายต่างๆ เข้าตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุโดยรอบ พบรถกระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลข ปพ 5079 กทม. ของทางราชการ จอดอยู่โดยในสภาพด้านข้างซ้ายเสียหายจากแรงระเบิด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งร.พ.ศูนย์ยะลา 5 ราย คือ นายวิเชียร สายดวง หัวหน้าชุดอส. นายอับดุลรอแม มะเซ็งบางี นายมะหาดี ดือรานิง นายณัฐศักดิ์ นวล จันทร์ นายรัดกมล แซ่ว่อง เจ้าหน้าที่อส. นอกจากนี้ยังพบเสาไฟฟ้าถูกแรงระเบิดเสียหายหัก 1 ต้น เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3-5 ก.ก. บรรจุในกล่องเหล็กผูกติดอยู่กับเสาไฟฟ้าริมถนน

สำหรับเจ้าหน้าที่ อส.ทั้ง 5 นายอยู่ระหว่างกลับจากการรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านท่าสาป

ยิงทพ.หญิงต่อหน้าลูก 2 ขวบ

เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม รอง ผกก.สส. รักษาราชการแทน ผกก. สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุยิงชาวบ้านบนถนนชลประทานสายคอกกระ บือ-บ้านปากช่อง ม.3 บ้านปากช่อง มีผู้เสียชีวิตชื่อนายมะสาวี มะสาและ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231/3 ม.4 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยปืนอาก้าเข้าศีรษะและลำตัว มีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งร.พ. ปะนาเระ ชื่อ นายรอเซะ เจ๊ะเม็ง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.5 ต.บ้านกลาง อ.ปะนา เระ ถูกยิงลำตัวอาการสาหัส ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า 17 ปลอก และเอ็ม 16 จำนวน 23 ปลอก

เวลา 17.45 น. พ.ต.ท.โกวิทย์ รัตนโชติ รอง ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนทางหลวงสาย 42 ปัตตานี-ยะหริ่ง บ้านบาลาดูวอ ต.บางปู มีผู้เสียชีวิตรุดไปตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทราบชื่อ อส.ทพ. หญิง ปันฑรีย์ พุกเจริญผล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 327 ม.1 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง ถูกยิงด้วยปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด เข้าศีรษะ และลำตัว สอบสวนทราบว่าผู้ตายขับขี่รถจักร ยานยนต์กลับจากศูนย์วิทยุจังหวัดปัตตานีมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีด.ญ.ฐิติกาญจน์ ลูกสาว วัย 2 ขวบนั่งมาด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้าย 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงหลายนัด ก่อนชิงกระเป๋าหลบหนีไปด้วย ส่วนลูกสาวปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บจากล้มรถเล็กน้อย

โหมแรง - เจ้า หน้าที่ตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดถล่มรถปิกอัพทหารชุดคุ้มครองครู บนถนนสายท่าสาป-สนามบิน อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เมื่อ 27 ม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม