วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

บทที่ 14


เปิดโปงขบวนการรัฐปัตตานี
โดย..สอาด จันทร์ดี

          

บทที่ 14 
ย้อนอดีต คลำหาปม

 
การค้นหาตัวเหตุและปัจจัยว่า อะไรคือตัวแก่นในที่ทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ก็ต้องย้อนกลับไปสู่อดีต
1. เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2022 เจ้าอินทิรา เปลี่ยนศาสนา หันไปนับถืออิสลาม
2. ปี พ.ศ. 2351 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1
ทรงแบ่งการปกครองหัวเมืองออกจากอำนาจของปัตตานีออกเป็น 7 หัวเมือง
3. ปี พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงให้ยกเลิกระบบเจ้าพระยามหานครแล้วนำระบบใหม่มาใช้ เรียกว่า มณฑลเทศาภิบาล เพี่อการเก็บภาษีอากร ส่งตรงเข้าวังหลวง โดยไม่ผ่านปัตตานีเหมือนเก่าก่อน (ระบบนี้ได้พัฒนาเป็นเทศบาลถึงปัจจุบัน
4. ปี พ.ศ. 2445 อับดุลกาเดร์ หรือ "พระยาวิชิตภักดี" ได้ก่อกบฏต่อเมืองหลวง
5. ปี พ.ศ. 2453 โต๊ะแต มือขวาของพระยาวิชิตภักดี หรือ "อับดุลเกเดร์" ยกกำลังเข้าผาอำเภอยะลา จังหวัดยะลา ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คือ อับดุลกาเดร์
6. ปี พ.ศ. 2454 หะยีบูละ ก่อจลาจลขึ้นที่ จันสตาวา อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
7. ปี พ.ศ. 2465 เปาะจิกา เปิดแนวรบทั่ว ๓ จังหวัด ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง รัฐบาลจึงปราบปรามอย่างหนัก เปาะจิกาตายในรังปืน
8. ปี พ.ศ. 2476 อับดุลกาเดร์ หรือ "พระยาวิชิตภักดี" ถึงแก่กรรมที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ก่อนตายได้ฝากอุดมการณ์เอาไว้ว่า ขอให้ลูกหลานอย่าเลิกการต่อสู้ ให้เสียสละชีวิตแลกเอาปัตตานี กลับมาเป็นประเทศเอกราชให้ได้ นับแต่นั้นมาก็ได้มีเริ่มนับวันเวลากำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมาย
9. ในปีเดียวกันนี้ (2476) ได้มีตัวตายตัวแทนอับดุลกาเดร์ปรากฏตัวขึ้น แล้วประกาศสืบทอดเจตนารมณ์รับหน้าที่เป็นหัวหน้าโจรปัตตานี คนที่ 1 ท่านผู้นั้นมีชื่อว่า "ตวนกู มะหมุด มะไฮยีดิน"
10. ปี พ.ศ. 2477 ตวนกู มะหมุด มะไฮยีดิน ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ เพิ่มการต่อสู้ทางการเมือง จึงสร้างมือขวาของตน คือ "ตวนกู อับดุลยะลา" หรือ นายอดุลย์ ณ สายบุรี ให้ลงพื้นที่คลุกคลีกับชาวบ้าน ใช้เวลาเปิดตัวอยู่หลายปี จึงได้มีโอกาสสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร นายอดุลย์ ได้รับชัยชนะลอยสำเข้าสภา
11. ปี พ.ศ. 2487 นายอดุลย์ ณ สายบุรี หรือ "ตวนกู อับดุลยะลา" ผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายในสภาว่า ประเทศไทยข่มเหงรังแกพี่น้องอิสลาม ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่อยากเป็นคนไทย เพราะเป็นแล้วเสียเปรียบ แล้วกล่าวตู่ประเทศไทยล่าเอาปัตตานีมาเป็นเมืองขึ้น
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายอดุลย์ ณ  สายบุรี ถึงแม้จอมพล ป.พิบูลสงคราม จะปฏิเสธอย่างไร แต่คำประกาศของ นายอดุลย์ ณ สายบุรีก็ได้ปรากฏขึ้นในรัฐสภาแล้ว
12. ในช่วงเดียวกันนี้ ได้เกิดปรากฏการณ์ มีหัวหน้าโจรปัตตานี ถึง 3 ตวนกู
(1) ตวนกูมะหมุด มะไฮมะยีดิน
(2) ตวนกูอับดุลยะลา หรือ นายอดุลย์ ณ สายบุรี
(3) ตวนกูมัดตารอ
13. ปี พ.ศ. 2490 เกิดปรากฏการณ์ หัวหน้าโจรแบ่งแยกดินแดนใหม่ แทนพวกตวนกูทั้งสาม คนผู้นั้น คือ "หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์" ซึ่งเป็นเชื้อสายที่แท้จริงของพระยาวิชิตภักดี หรือ "อับดุลกาเดร์" หะยีสุหลง อัปดุลกาเดร์ ได้กระทำเยี่ยงกบฏต่อแผ่นดิน จึงถูกจับกุมตัว ถูกตัดสินให้จองจำ 7 ปี ที่นครศรีธรรมราช แต่ได้รับการพระราชอภัยโทษ ปล่อยออกมาจากเรือนจำ หลังจากถูกขังอยู่ 3 ปี 6 เดือน
14. ปี พ.ศ. 2491 หัวหน้าโจรปัตตานีตัวแทนหะยีสุหลง ชื่อ "หะยีดือราแม" ได้ก่อ
กบฏขึ้น ที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เรียกว่า กบฏ "ดุชงญอ"
15. ปี พ.ศ.2494 หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ถูกจับถ่วงน้ำที่เกาะหนู-เกาะแมว จังหวัดสงขลา สร้างความโกรธแค้นชิงชังให้เกิดขึ้นในหมู่อิสลาม อย่างไม่เคยมีมาก่อน
16. ปี พ.ศ.2500 นักการเมืองภาคใต้ 5 จังหวัด ประกาศนโยบายตรงกันหมดว่า ถ้าชนะการเลือกตั้ง จะแยกดินแดนออกมาเป็นประเทศปัตตานี ปรากฏว่าผู้สมัครที่ประกาศนโยบายแบ่งแยกดินแดน ชนะการเลือกตั้งครบ 5 จังหวัด แต่ไม่ทันได้อภิปรายในสภา จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัตน์ ได้ทำการปฏิวัติจอมพล ป. พิบูลสงครามเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500
เรื่องราวที่มีความต่อเนื่องเป็นประหนึ่ง "นิยายเก่าแก่ปรัมปรา" เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่เป็นจริง จากชีวิตจริงได้เกิดปัญหาเข่นฆ่าราวีติดต่อกันยาวนาน ในแผ่นดินสยาม โดยที่ประเทศสยาม หรือ ประเทศไทย ไม่ได้แก้ไขมาแต่ต้น ทำให้เกิดการกล่าวตู่ มีการต่อสู้อย่างยอมถวายชีวิต มีการปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นต่อมาเข้าใจผิด คิดว่าการกระทำของตนเองเป็นสิ่งถูกต้องทั้งหมดนี้คือ การคลำหาปมเงื่อนว่าอะไรคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
ผมได้นำประวัติศาสตร์โดยย่อ ตั้งแต่ปี 2022 ฉายให้ท่านได้เห็น "ทางเดิน" ของตัวละครมาจนถึงฉากหลังสุดคือสิ้นสุดลงที่ปี พ.ศ.2500 รวมเวลา 478 ปี พอจะทำให้มองเห็นภาพว่า โจรปัตตานีนั้นมีความพยายามหนักหน่วงเพียงใดเมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะทำให้ปัญหายุติเพียงแค่สมานฉันท์ หรือการกล่าวขอโทษ มันย่อม "เป็นไปไม่ได้เลย"
ประโยคนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดของประเทศสยาม หรือ ประเทศไทยอย่างใหญ่หลวงแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาผู้บริหารประเทศว่า ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในปัญหา ความไม่มั่นคงของประเทศไทย ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่
          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม