แฉแผนโจรใต้ถล่มฐานทหารดับ4เพื่อปล้นปืน ปูนบำเหน็จ “ร.อ.”หลาน“ธรรมรักษ์” เป็นพล.อ. ล็อค5ต้องสงสัยสอบ
เมื่อ วันที่ 21 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และคณะทีมงานของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการณ์พระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ ช่วงบริเวณบ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่มฐานทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย คือ 1. ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ หน.ฐาน 2. ส.ท.อับดุลเลาะห์ ตาหยี 3. ส.อ.เทวรัตน์ กาวา พลฯประวิทย์ ชูกลิ่น และได้รับบาดเจ็บ 13 นาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น.ของคืนวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเดินทางไปเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า โรงเรือนแบบน็อคดาวและเพิงพักของทหารถูกคนร้ายวางเพลิงได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถ จยย.ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่บริเวณโรงเรือนแบบน็อคดาวที่ได้ดัดแปลงใช้เป็นสถานที่เก็บคลัง อาวุธประจำฐาน ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูและขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด นอกจากนี้บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐาน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ 3 เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานในการวิ่งกรู่เข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัว และเจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 เอ็ม.60 อาก้า.ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด
แฉแผนถล่มฐานทหาร เพื่อปล้นปืน
แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ได้ประเมินว่า การปฏิบัติการณ์ของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 30 คน และมีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดีและมีระบบกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่ กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพลและความเคลื่อนไหวภายในฐาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์และอาศัยอยู่น้อย จึงได้มีการบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์เคยร่วมบุกปล้นปืนด้วย โยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธเพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นายพร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่น ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน และเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายหลังจากปฏิบัติการณ์ถล่มฐานทหารแล้ว เสร็จ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่องรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่ มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขา ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร และคาดว่ากลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามโรงพยาบาลและสถานอนามัย เกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านเดินทางไปรักษาอาการบาดเจ็บ
“ร.อ.” ผู้กล้า หลานชาย “ธรรมรักษ์”
ส่วนประวัติโดยย่อของ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ หัวหน้าฐานปฏิบัติการณ์พระองค์ดำ เป็นหลานชายของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร (นตท.) รุ่น 38 รุ่นเดียวกับ ผู้กองแคน ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข
ปูนบำเหน็จ”ร.อ.”เป็นพลเอก
ที่ ศาลาอเนกประสงค์ วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ประกอบด้วย ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร 15121 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 ฉก.นราธิวาส 38 ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ตำแหน่ง หัวหน้าชุด ร้อย ร 15121 และพลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น ตำแหน่ง พลเปล ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายประมาณ 20-30 คน บุกยิงถล่มเสียชีวิตภายในฐานปฏิบัติการณ์พระองค์ดำ ร้อย ร 15121 ฉก.นราธิวาส 38 ตั้งอยู่ ม.1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ
โดยพิธีรดน้ำศพมี นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทหารตำรวจและฝ่ายปกครอง ข้าราชการและกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ต.มะรือโบตก รวมกว่า 1,000 คนเข้าร่วมไว้อาลัยและสดุดีในวีรกรรมของทหารชุดดังกล่าวนี้ ซึ่ง ร.อ.กฤช รวมทั้งลูกน้องได้เคยสร้างมวลชนกับชาวบ้านไว้เป็นการวางรากฐานที่ดีตลอดมา ตั้งแต่ปี 2548 จนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิมในพื้นที่
ทั้ง นี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เป็นตัวแทนวางพวงหรีดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รวมทั้งผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก่อนที่จะมอบเหรียญบางระจันสัญลักษณ์ของผู้กล้าแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นาย โดย ร.อ.กฤช เป็นบุตรของ พล.ท.สุนทรและนางสุมนมาศ มารดาที่เดินทางมาร่วมรับศพบุตรชายด้วยน้ำตานองหน้า ส่วน ส.อ.เทวรัตน์ มีนางจุฑามาศ ภรรยาและบุตรวัย 5 ขวบและ 2 ขวบมารอรับศพ สำหรับพลทหารประวิทย์ นายประพันธ์และนางจิราวรรณ บิดามารดามารอรับศพด้วยความโศกเศร้าไม่ต่างกัน
ขณะที่ได้มีการมอบ เงินช่วยเหลือเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจของครอบครัวทั้ง 3 รายๆละกว่า 1 ล้านบาท ในส่วนของการปูนบำเหน็จรวม 9 ชั้นยศ โดย ร.อ.กฤชเป็น พล.อ. ส่วน ส.อ.เทวรัตน์ เป็น พ.อ.และพลทหารประวิทย์เป็น ร.อ.ส่วนการเคลื่อนศพทั้ง 3 นายจะมีพิธีในวันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 10.00 น.ที่หมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ กองทัพเรือ จ.นราธิวาส โดย ร.อ.กฤชถูกส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.บางโขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วน ส.อ.เทวรัตน์กลับไป จ.กาญจนบุรีและพลทหารประวิทย์กลับไปที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
ล็อค 5 ผู้ต้องสงสัยเค้นสอบถล่มฐาน
ล่า สุดเจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่เขตรอยต่อ ต.มะรือโบตก และ ต.เฉลิม อ.ระแงะไว้ได้จำนวน 5 ราย ขณะที่ชุดคลี่คลายคดีซึ่งลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวพบเบาะแสของกลุ่มคนร้าย ที่คาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจากการตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุและ จะออกหมายจับได้ภายใน 2-3 วันนี้
สำหรับการลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจ และเหี้ยมโหดในครั้งนี้ เป็นการฉลองวันครบรอบการเปลี่ยนชื่อของกลุ่มขบวนการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2530 จากขบวนการแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติปัตตานี หรือ BNPP เป็นแนวร่วมอิสลามปลดปล่อยปัตตานี หรือ BIP
ยอมรับพิดพลาดเปิดช่องโจรใต้บุก
ที่ ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายเดชรัตน์ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อย ร 15121 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 38 จำนวน 6 นาย ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มภายในฐานปฏิบัติการณ์ร้อย ร 15121 ที่ตั้งอยู่ริมถนนในพื้นที่ หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ ทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร 15121 ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี และ พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น เสียชีวิต
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ซักถามถึงอาการบาดเจ็บจากแพทย์ของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 6 นาย มีอาการสาหัส 2 นาย โดยนอนรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ที่ห้องไอซียู คือ ส.อ.สุคน ชูศรี อายุ 28 ปี ที่ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณก้น และช่วงล่าง รวมทั้งพลทหารธันวา ยอดแก้ว อายุ 22 ปี ซึ่งถูกกระสุนเข้าที่ปอดเฉี่ยวขั้วหัวใจ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินเยียวยาสภาพจิตใจของทหารทั้ง 6 นาย
“สุเทพ” เสียใจครอบครัว 4 ทหาร
ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณียิงถล่มฐานทหารว่า คิดว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการท้าทายกรณีที่ตนและ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ เพราะตนไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่และรับฟังปัญหาของประชาชน สำหรับสถานการณ์ในภาคใต้นั้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมถึงประชาชนด้วยที่ต้องการให้ทุกอย่างดีขึ้น และทาง ผบ.ทบ.ได้แสดงความห่วงใยหน่วยที่เป็นฐานที่แยกตัวออกไปดูแลให้ความคุ้มครอง ประชาชน เพราะเมื่อมีการใช้กำลังทำงานหลายภารกิจจึงต้องการผลัดกันพักบ้าง และคนร้ายก็เลือกลงมือในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ต้องมีการกำชับว่าต้องจัดกำลังให้เพียงพอที่จะดูแลป้องกันตัวเองและ ประชาชนได้
“ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและต้องยกย่องว่าทำ งานได้ดีมาก เราต้องดูแลคนที่อยู่ข้างหลังต่อไป คิดว่าสาเหตุของเหตุการณ์คือเมื่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เริ่มมีผลใน ทางที่เป็นบวกมากขึ้น ประชาชนหันมาให้การสนับสนุนฝ่ายรัฐมากขึ้น ฝ่ายก่อการร้ายจึงต้องพยายามแสดงอำนาจ แสดงอิทธิพล ดังนั้นครั้งนี้จึงระดมคนประมาณ 30-40 คน พร้อมอาวุธเอ็ม 16 เอ็ม 79 และอาก้า ลงมาจากเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีขนาดใหญ่ เข้าไปล้อมโจมตี แต่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นกลุ่มไหน ซึ่งจะพยายามติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีให้ได้ ตนไม่สามารถอธิบายในรายละเอียดได้ในเรื่องเส้นทาง แต่เมื่อคืนที่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่คาดว่าลักษณะการเข้าโจมตีในลักษณะนี้คน ร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาในหมู่บ้านหรือมาจากที่อื่นแล้วจู่โจมแบบฉับพลัน” นายสุเทพ กล่าว
ลอบวางระเบิด ตชด.ชุดรบพิเศษ
พ.ต.อ.สุวัฒน์ วงศ์ไพบูลย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากฐานปฏิบัติการ ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดรบพิเศษเฉพาะกิจที่ 4 บ้านหาดทราย ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ตชด. ลาดตระเวนเส้นทาง แต่ไร้คนเจ็บบนถนนสายภายในหมู่บ้านทรายแก้ว-หาดทราย ก่อนถึงมัสยิดบ้านหาดทรายประมาณ 200 เมตร พื้นที่หมู่ 3 บ้านหาดทราย ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดขนาดลึก 50 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร มีเศษดิน หิน ชิ้นส่วนเศษเหล็กตัดเป็นชิ้นเล็ก และ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเก็บเป็นหลักฐานในการหาร่องรอยนิ้วมือแฝงจากชิ้น ส่วนที่เก็บได้เพื่อหาตัวคนร้ายต่อไป ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบรถปิกอัพยี่ห้อฮีซูซุ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน จอดอยู่โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนทราบว่าขณะที่ ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดรบพิเศษเฉพาะกิจที่ 4 จำนวน 7นาย นำโดย ด.ต.วิชัย แตงอ่อน หัวหน้าชุด ขับรถยนต์คันดังกล่าว ลาดตระเวนเส้นทางตามปกติ เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิด แต่ระเบิดทำงานล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้รถยนต์ผ่านไปก่อน จึงเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าเป็นการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อ ความไม่สงบ ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ที่ต้องการแสดงศักยภาพของกลุ่ม
ลอบวางบึ้มทหารโชคดีไร้คนเจ็บ
พ.ต.ท.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ รองผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้ รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้น บริเวณหัวสะพานหมู่ 4 บ้านต้นมะขาม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง รุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจทหาร ปรากฏว่า พบหลุมระเบิด ขนาดเล็ก และพบ สะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วถนน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ร้อย ร 8022 ฉก 21 ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน 4 คน ลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนบนถนนสายดังกล่าว ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3 กก. จุดชนวนด้วยรัโมท นำมาวางไว้ที่หัวสะพานก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อทหารลาดตระเวนขับผ่านจุดที่วางระเบิดประมาณประมาณ 5 เมตร คนร้ายได้กดรีโมทเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว เจ้าหน้าที่ได้ทำเป็นล้มลงและหาที่กำบัง เมื่อสิ้นเสียงระเบิด ปรากฏว่าไม่มีใครบาดเจ็บ จึงเข้าไปตรวจสอบดังกล่าวและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จยย.บอมบ์บาเจาะ ทหารเจ็บ 2 นาย
ถัดมาเวลา 09.20 น. พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สว.เวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิด จยย.บอมบ์ ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน บาเจาะ ช่วงบริเวณบ้านบือเร๊ะ ต.บาเร๊ะใต้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบซากรถ จยย.ยี่ห้อยามฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งคนร้ายใช้เป็นพาหนะในการแฝงตัวนำระเบิดไปผูกไว้ที่บริเวณตะแกรงด้านบน ของตัวเครื่อง ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ และพบซากชิ้นส่วนของระเบิดระเบิดเครื่องที่คนร้ายนำไปประกอบใส่ไว้ในท่อ เหล็กทรงกลม หนัก 10 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกบริเวณถนนและพงหญ้าริมทางอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ต่อมาจึงได้เดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล ทราบชื่อ คือ 1. จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนซ้าย 2. จ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัวสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต. พงศธร เฟื่องปาง หน.ชุด ได้นำกำลังจำนวน 5 นาย นั่งรถยนต์กระบะและรถ จยย. 2 คัน ออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดอุไรฯ เพื่อเดินทางไปทำมวลชนและพบปะชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวน ระเบิด ที่นำไปผูกไว้บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องรถ จยย. ซึ่งคนร้ายนำไปจอดไว้ริมถนน และเกิดระเบิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารขับและขี่รถ จยย.ผ่าน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่งคอปเตอร์ไล่ล่าโจรใต้
ที่กรมทหารราบที่ 11รักษาพระองค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวหลังเป็นประธานในวันสถาปนากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถึงกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบยิง เอ็ม79ถล่มฐานทหารที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จนทำให้มีผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บรวมทั้งอาวุธหลายชนิดหายไป ว่า เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายเราก็พยายามระมัดระวังโดยที่สุด เพราะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราได้เพิ่มความเข้มข้นในเรื่องของการตรวจค้น ปิดล้อม และการดำเนินการในเรื่องของการจับกุมตามหมายจับคดีความอาญาที่มีอยู่ และประชาชนก็มีส่วนร่วมในการเข้ามาช่วยในการแก้ปัญหามากขึ้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะเป็นการต่อสู้ซึ่งกันและกัน และอีกฝ่ายก็ต้องมุ่งหวังเพื่อให้เกิดความน่ากลัวเพื่อต้องการให้ ประชาชนกลับไปสนับสนุนฝ่ายของเขา จึงต้องใช้ความรุนแรง ทั้งหมดนี้คือความจำเป็นที่จะต้องมีกำลังทหารและกฎหมายบางกฎหมายที่จะให้ เจ้าหน้าที่สามรถทำงานได้สะดวก หากเราไม่มีมาตรการที่พิเศษการปฏิบัติการในลักษณะสถานการณ์กฏหมายปกติ ฝ่ายผู้ก่อเหตุก็สามารถที่จะหลบซ่อนตัวได้อย่างรวดเร็วและสามารถซ่องซุ่ม กำลังได้อย่างกว้างขวาง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนขอเรียนว่า ไม่ใช่สถานการณ์จะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่เป็นเรื่องธรรมดาว่าฝ่ายหนึ่งเฝ้าระวัง อีกฝ่ายจ้องที่จะปฏิบัติการ ก็แน่นอนว่าต้องมีจังหวะและเวลาที่การระมัดระวังจะย่อหย่อนลงไปบ้าง จนทำให้เกิดปัญหา เราก็ถือว่าเป็นบทเรียน ทั้งนี้ตนได้สั่งกำชับไปแล้วว่า ต้องพยายามอย่าให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกโดยเด็ดขาดและต้องพยายามติดตาม ปิดล้อมจับกุมตรวจค้น และนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆรวมทั้งผู้ก่อคดีกลับมาดำเนินคดีให้ได้ตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้ความรุนแรงอย่างไร แต่เราก็ต้องใช้กฏหมายในการเข้าไปปฏิบัติการ เพราะการแก้ปัญหาในภาคใต้สิ่งที่มีความแตกต่างคือเราไม่สามารถที่จะใช้ความ รุนแรงได้ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน
ดังนั้นการใช้ความรุนแรงเพียงอย่างเดียวในการแก้ปัญหาจะไม่ประสบความสำเร็จ แน่นอน เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ายังมีความไม่เข้าใจอยู่ว่าการที่มีการปิดล้อม ตรวจค้น มีการปะทะกันก็อาจจะมีการปล่อยข่าวว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่สร้าง สถานการณ์เพื่อต้องการต่อ พรก.ฉุกเฉิน และให้ประชาชนมาให้ความร่วมมือกับฝ่ายราชการหรือเป็นการสร้างความรุนแรง เพื่อต้องการงบประมาณต่างๆ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงขึ้น เพราะคนพวกนี้มีอยู่แล้วขึ้นอยู่กับว่าเขาจะรวมกลุ่มกันเมื่อไหร่และเข้าไป ปฏิบัติในเวลาที่เราเผลอย้อหย่อนความระมัดระวังลงไป
“วันนี้ตนได้สั่งให้ใช้เฮลิคอปเตอร์ติดกล้องในการตรวจค้น พิสูจน์ทราบบริเวณที่เป็นเทือกเขาตะเว เพราะเข้าใจว่ามีการซ่องสุมกำลังอยู่บริเวณพื้นที่ป่าภูเขาด้วย ซึ่งทางด้านการข่าวก็รายงานมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังตรวจค้นไม่พบ และต้องเริ่มดำเนินการโดยใช้กำลังขนาดใหญ่เข้าไปปฏิบัติ จึงอยากเรียนไปถึงประชาชนว่าถ้าสถานการณ์ยังมีความรุนแรงในลักษณะนี้เกิด ขึ้นอยู่ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการดูแล ไม่ว่าจะเป็น การตั้งจุดตรวจสกัด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
“มาร์ค”ระบุคนร้ายเป็นกลุ่มเดิม
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าหลังเรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผบ.ทบ. เข้าพบเพื่อรายงานเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า เราเสียใจกับผู้สูญเสียและครอบครัว ซึ่งขณะนี้กองทัพดำเนินการปรับแนวทางในบางเรื่อง ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆขณะนี้มีการสอบอยู่ ซึ่งการวางกำลังของเราในขณะนี้ค่อนข้างจะมีการกระจาย อาจจะเป็นการเปิดช่องให้เกิดเหตุ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้น กลุ่มที่มีเป้าหมายจะเป็นทางการเมืองหรือก่อความไม่สงบก็ยังเป็นกลุ่มเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงสร้างไป ซึ่งจะต่างจากรุ่นเก่าๆ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวที่ว่ามีอาวุธปืนหายไป และกระสุนปืน 5,000 นัด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้สรุปอย่างนั้นกำลังติดตามกันอยู่ กำลังมีการตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่าทำไมจึงมีการกระทำที่อุกอาจมาก ขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุโดยสภาพของภูมิประเทศ ต้องยอมรับว่าเป็นพื้นที่ที่ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง อีกทั้งเราพอคาดการณ์ได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับช่วงที่จะมีการประชุมองค์การการ ประชุมอิสลามโลก(โอไอซี) ก็จะมีความพยายามก่อเหตุหรือยั่วยุให้เกิดการตอบโต้แนวทางของรัฐบาลในเรื่อง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อนำไปใช้เป็นเงื่อนไข เมื่อถามต่อว่าคิดว่าเป็นเพราะเกลือเป็นหนอนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังมีการสอบสวนอยู่
ยันไม่เกี่ยวปรับลดกำลังพล
ต่อ ข้อถามว่าแนวร่วมของผู้ก่อความไม่สงบ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอย่างนั้น เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อนโยบายปรับลดกำลังทหารและงบประมาณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เพราะมันจะสะท้อนสภาพความเป็นจริงของภาพรวมและความเป็นจริงแต่ละพื้นที่ ฉะนั้นยังมั่นใจว่าในภาพรวมสามารถลดได้ แต่การดูแลพื้นที่ในบางพื้นที่ยังไม่สามารถลดได้ ก็จะแยกแยะกันไป ซึ่งผบ.ทบ.ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายตรงข้ามอาจจะมีเจตนายั่วยุ ก็ได้มีการกำชับว่าลักษณะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จะต้องยึดกรอบกฎหมายอย่าง เคร่งครัด ไม่ตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุวงจรของความรุนแรงแล้วเอาไปเป็นเงื่อนไข โดยเฉพาะไปขยายผลในเวทีต่างประเทศด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น