ผมมีเป้าหมาย 4 ประการคือ
1) ขับไล่ชาวอเมริกันออกจากสังคมมุสลิม
2) ทำลายอิสราเอลในฐานะรัฐต่างหากของชาวยิวลงแล้วสร้างประเทศปาเลสไตน์อันเสรีที่ซึ่งชาวยิวอยู่ได้ในฐานะชนกลุ่มน้อยที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
3) ขับโค่นสมุนฉ้อฉลของอเมริกาในสังคมมุสลิมและปรับโครงสร้างสังคมเหล่านั้นเสียใหม่ตามหลักการอิสลามที่แท้จริง และประการสุดท้าย
4) ฟื้นฟูความรุ่งโรจน์แต่กาลก่อนของอิสลามโดยผนึกชุมชนอิสลามทั้งมวล (umma) เข้าด้วยกันเป็นเอกภาพและประกันให้มุสลิมได้ปกครองประเทศมุสลิมแต่กาลก่อนเช่นปาเลสไตน์, บูคารา, เลบานอน, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, ชาด, เอริเทรีย, โซมาเลีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, เยเมนใต้, ทัชเคนต์ และแอนดาลูเซีย
ความรุนแรงเป็นหนทางเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้เพราะมันเป็นภาษาเดียวที่สหรัฐอเมริกาเข้าใจ
ความรุนแรงของเราจำต้องอาศัยการก่อการร้ายเป็นฐานเพราะชาวมุสลิมที่ด้อยอาวุธยุทธภัณฑ์ย่อมไม่อาจทัดเทียมแสนยานุภาพอเมริกันได้หากรบกันซึ่งหน้า ถึงแม้ความรุนแรงในการก่อการร้ายของเราจะพุ่งเป้าใส่ "สัญลักษณ์แห่งอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา" เป็นอันดับแรก แต่จะให้เราละเอียดลออละเมียดละไมเสียจนไม่โดนพลเรือนเลยก็คงไม่ได้ อย่าลืมว่าสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่เคยละเว้นพลเรือนเวลาทำสงครามกับเรา เด็กชาวอิรักเกือบ 500,000 คนต้องล้มตายก็เพราะการแซงก์ชั่นที่สหรัฐอเมริกาคอยให้ท้าย พลเมืองสหรัฐเองเป็นผู้เลือกรัฐบาลของตนโดยเสรี มักจะสนับสนุนนโยบายรัฐบาล (หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้ประท้วงคัดค้านและปลีกตัวออกจากนโยบายเหล่านั้นในจำนวนมากมาย) และฉะนั้นจึงต้องถือว่าสมรู้ร่วมคิดกับเวรกรรมที่รัฐบาลตนก่อไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
ผมอยากจะชี้แจงเพิ่มเติมอีกสองประเด็น
ประเด็นแรก การก่อการร้ายของเราเป็นปฏิกิริยาคืนสนอง เราแค่กำลังตอบโต้ความรุนแรงในการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกาเท่านั้นเอง ชาวอเมริกาปล้นชิงทรัพย์สินและน้ำมันของเรา โจมตีศาสนาของเรา เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเรา ทำกับเราเหมือนเบี้ยในเกมหมากรุกระดับโลกของมัน แล้วยังบังอาจถือดีมาเรียกเราว่าผู้ก่อการร้ายอีก ทั้งๆ ที่เราแค่กำลังป้องกันตัวเองจากการก่อการร้ายของมันเท่านั้น
ประการที่สอง ผมแยกแยะระหว่างการก่อการร้าย "ที่น่าสรรเสริญ" กับ "ที่พึงประณาม" การก่อการร้ายเพื่อล้มล้างระบอบทรราช, การครอบงำของต่างชาติ, ผู้ปกครองทุจริตฉ้อฉลและผู้ทรยศจัดเป็นประเภทแรก
ส่วนการก่อการร้ายที่ยัดเยียดหรือค้ำยันสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ให้ยืนนานออกไปจัดเป็นประเภทหลัง พลพรรคของผมไม่เคยฆ่าเยี่ยงคนขลาดหรือหาประโยชน์ใส่ตัวจากปฏิบัติการของพวกเขา พวกเขาเสียสละความสุขสบายอาชีพการงานครอบครัวกระทั่งชีวิตปกติของตนและแสดงให้ประจักษ์ด้วยการพลีชีพว่าพวกเขาได้รับการชักนำด้วยแรงจูงใจอันสูงส่งสุดยอดการก่อการร้ายของเราชอบด้วยศีลธรรมและศาสนา หาได้มีธาตุแท้เป็นอาชญากรรมดังที่นักวิจารณ์ชาวตะวันตกกล่าวอ้างไม่ นโนธรรมสำนึกของเราแจ่มกระจ่าง
และผมขอกล่าวต่อเพื่อนชาวมุสลิมของผมว่าการฆ่าชาวอเมริกันและพันธมิตรไม่ว่าพลเรือนหรือทหารถือเป็นหน้าที่
ประจำตัวของมุสลิมทุกคน
1) ขับไล่ชาวอเมริกันออกจากสังคมมุสลิม
2) ทำลายอิสราเอลในฐานะรัฐต่างหากของชาวยิวลงแล้วสร้างประเทศปาเลสไตน์อันเสรีที่ซึ่งชาวยิวอยู่ได้ในฐานะชนกลุ่มน้อยที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
3) ขับโค่นสมุนฉ้อฉลของอเมริกาในสังคมมุสลิมและปรับโครงสร้างสังคมเหล่านั้นเสียใหม่ตามหลักการอิสลามที่แท้จริง และประการสุดท้าย
4) ฟื้นฟูความรุ่งโรจน์แต่กาลก่อนของอิสลามโดยผนึกชุมชนอิสลามทั้งมวล (umma) เข้าด้วยกันเป็นเอกภาพและประกันให้มุสลิมได้ปกครองประเทศมุสลิมแต่กาลก่อนเช่นปาเลสไตน์, บูคารา, เลบานอน, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, ชาด, เอริเทรีย, โซมาเลีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, เยเมนใต้, ทัชเคนต์ และแอนดาลูเซีย
ความรุนแรงเป็นหนทางเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้เพราะมันเป็นภาษาเดียวที่สหรัฐอเมริกาเข้าใจ
ความรุนแรงของเราจำต้องอาศัยการก่อการร้ายเป็นฐานเพราะชาวมุสลิมที่ด้อยอาวุธยุทธภัณฑ์ย่อมไม่อาจทัดเทียมแสนยานุภาพอเมริกันได้หากรบกันซึ่งหน้า ถึงแม้ความรุนแรงในการก่อการร้ายของเราจะพุ่งเป้าใส่ "สัญลักษณ์แห่งอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา" เป็นอันดับแรก แต่จะให้เราละเอียดลออละเมียดละไมเสียจนไม่โดนพลเรือนเลยก็คงไม่ได้ อย่าลืมว่าสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่เคยละเว้นพลเรือนเวลาทำสงครามกับเรา เด็กชาวอิรักเกือบ 500,000 คนต้องล้มตายก็เพราะการแซงก์ชั่นที่สหรัฐอเมริกาคอยให้ท้าย พลเมืองสหรัฐเองเป็นผู้เลือกรัฐบาลของตนโดยเสรี มักจะสนับสนุนนโยบายรัฐบาล (หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้ประท้วงคัดค้านและปลีกตัวออกจากนโยบายเหล่านั้นในจำนวนมากมาย) และฉะนั้นจึงต้องถือว่าสมรู้ร่วมคิดกับเวรกรรมที่รัฐบาลตนก่อไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
ผมอยากจะชี้แจงเพิ่มเติมอีกสองประเด็น
ประเด็นแรก การก่อการร้ายของเราเป็นปฏิกิริยาคืนสนอง เราแค่กำลังตอบโต้ความรุนแรงในการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกาเท่านั้นเอง ชาวอเมริกาปล้นชิงทรัพย์สินและน้ำมันของเรา โจมตีศาสนาของเรา เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเรา ทำกับเราเหมือนเบี้ยในเกมหมากรุกระดับโลกของมัน แล้วยังบังอาจถือดีมาเรียกเราว่าผู้ก่อการร้ายอีก ทั้งๆ ที่เราแค่กำลังป้องกันตัวเองจากการก่อการร้ายของมันเท่านั้น
ประการที่สอง ผมแยกแยะระหว่างการก่อการร้าย "ที่น่าสรรเสริญ" กับ "ที่พึงประณาม" การก่อการร้ายเพื่อล้มล้างระบอบทรราช, การครอบงำของต่างชาติ, ผู้ปกครองทุจริตฉ้อฉลและผู้ทรยศจัดเป็นประเภทแรก
ส่วนการก่อการร้ายที่ยัดเยียดหรือค้ำยันสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ให้ยืนนานออกไปจัดเป็นประเภทหลัง พลพรรคของผมไม่เคยฆ่าเยี่ยงคนขลาดหรือหาประโยชน์ใส่ตัวจากปฏิบัติการของพวกเขา พวกเขาเสียสละความสุขสบายอาชีพการงานครอบครัวกระทั่งชีวิตปกติของตนและแสดงให้ประจักษ์ด้วยการพลีชีพว่าพวกเขาได้รับการชักนำด้วยแรงจูงใจอันสูงส่งสุดยอดการก่อการร้ายของเราชอบด้วยศีลธรรมและศาสนา หาได้มีธาตุแท้เป็นอาชญากรรมดังที่นักวิจารณ์ชาวตะวันตกกล่าวอ้างไม่ นโนธรรมสำนึกของเราแจ่มกระจ่าง
และผมขอกล่าวต่อเพื่อนชาวมุสลิมของผมว่าการฆ่าชาวอเมริกันและพันธมิตรไม่ว่าพลเรือนหรือทหารถือเป็นหน้าที่
ประจำตัวของมุสลิมทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น