เผยโจรถล่มนราธิวาส
เคยตีฐานพระองค์ดำ
ล่า"วีโก้-ซีวิค"อีก2คัน
จ่อคาร์บอมบ์ป่วนเมือง
เหยื่อบึ้มนอนรพ.12ราย
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบ"คาร์บอมบ์"หน้าร้านดาวพระจันทร์นวดแผนโบราณและยิงปืนเอ็ม16 ใส่ร้านมายาคาราโอเกะและสาวเลยคาราโอเกะในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากสถานบันเทิงทุกแห่งและร้านคาราโอเกะกว่า 60ร้าน ในเขตเทศบาลนราธิวาส ประกาศปิดให้บริการทันที เนื่องจากเกิดเหตุพร้อมกัน 3จุด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นำกำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
ยันป่วนราฯ3จุดแก๊งเดียวกัน
เวลา 07.00น.พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.นราธิวาส นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังร้านสาวเลยคาราโอเกะ ซึ่งถูกคนร้ายใช้ปืนเอ็ม79 ยิงใส่ร้าน จากการตรวจสอบวิถีกระสุนพบว่า คนร้ายได้อาศัยลานสนามของโรงน้ำแข็งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามเป็นจุดยิง คาดว่าเปนกลุ่มคนร้ายชุดเดียวกับที่ก่อเหตุยิงถล่มร้านมายาคาราโอเกะและวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านดาวพระจันทร์นวดแผนโบราณ
หัวหมอต่อวงจรระเบิด2แบบ
สำหรับความคืบหน้ากรณีคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้านดาวพระจันทร์ฯทำให้มีผู้ได้บาดเจ็บ 20คนนั้น จากการตรวจสอบหาหลักฐานอย่างละเอียดพบว่า คนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นแลนเซอร์ สีเลือดหมู เป็นพาหนะซุกซ่อนระเบิดและสวมเป็นทะเบียนปลอม โดยมีการเจียร์หมายเลขคลัชซีทิ้ง คนร้ายก่อเหตุเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ ขณะไปตรวจสอบร้านมายาคาราโอเกะซึ่งพบว่ากลุ่มคนร้ายมีความชำนาญในการวางระเบิด ด้วยการต่อวงจรจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ไว้ 2ระบบ คือ จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือและจุดชนวนระเบิดด้วยระบบตั้งเวลา
นอนโรงพยาบาล12ราย-สาหัส1
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สมชาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าร้านดาวพระจันทร์ฯ ซึ่งเป็นจุดที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกความเคลื่อนของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้ชัดเจนที่สุด แต่ขึ้นอยู่ว่า กล้องตัวดังกล่าวใช้การได้หรือไม่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงถล่มร้านมายาคาราโอเกะและวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านดาวพระจันทร์ฯ จำนวน 20คนนั้น ล่าสุด จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาส จำนวน 12คน แยกเป็นรักษาตัวที่ห้องไอซียู 1คน คือ น.ส.ชนิตา จอบุตรตะและนอนรักษาตัวที่ตึกศัลยกรรมอีก 11คน
วงจรปิดมัด2ชายมือคาร์บอมบ์
พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายนำรถเก๋งมิตซูบิชิแลนเซอร์ สีแดง ที่ดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์มาจอดหน้าร้านดาวพระจันทร์ฯ ซึ่งติดป้ายทะเบียนปลอมและยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นรถใคร เมื่อดูกล้องวงจรปิดพบว่า เวลา 16.10น.คนร้ายเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อยืดสีดำ ขับรถกระบะสีบรอนซ์เงิน มาจอดริมฟุตบาทหน้าร้านดาวพระจันทร์ฯ จนถึงเวลา 16.23น.คนร้ายอีกคนหนึ่ง เป็นชายรูปร่างสูง สวมเสื้อยืดสีเหลืองขับรถเก๋งมิตชูบิชิซุกระเบิดบรรจุในถังแก๊สน้ำหนัก 16กิโลกรัมไว้ด้านหลังที่นั่งคนขับเข้า มาจอดจ่อท้ายและเปิดไฟเลี้ยวเป็นสัญญาณ
M16ตรงกับตีฐานพระองค์ดำ
จากนั้น คนร้ายที่สวมเสื้อยืดสีดำ ขับรถยนต์กระบะออกไป เพื่อให้คนร้ายที่สวมเสื้อยืดสีเหลืองขับรถเก๋งที่ซุกระเบิดเข้ามาจอดเสียบแทนที่ เมื่อจอดรถเสร็จ คนร้ายที่สวมเสื้อยืดสีเหลืองได้เดินเท้าเข้าไปในตลาดนัดเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งอยู่ทางขวามือของร้านดาวพระจันทร์ฯ ส่วนภาพขณะเกิดเหตุระเบิดขึ้นนั้น กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ส่วนจุดที่คนร้ายใช้ปืนเอ็ม16 กราดยิงใส่ร้านมายาคาราโอเกะ พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 ตกอยู่ริมถนน 11ปลอก ผลตรวจสอบพบว่า หมายเลขที่ท้ายปลอกกระสุนปืนนั้น เป็นกระสุนปืนที่ผลิตขึ้นล็อตเดียวเดียวกับกระสุนปืนที่คนร้ายใช้บุกโจมตีฐานทหารพระองค์ดำ ร้อยร.15121 ฉก.นราธิวาส38 ทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย15121และทหารเสียชีวิต 4นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19มกราคมที่ผ่านมา
แม่ทัพ4สั่งเน้นด้านการข่าว
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่4 กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงในชายแดนภาคใต้ ที่คนร้ายยังคงลอบก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยยังคงพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ขณะนี้ภาพรวมเหลือเฉพาะปัญหาการลอบวางระเบิดที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องเน้นด้านการข่าวให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จับกุมแกนนำและเครือข่ายผู้ก่อเหตุ ขณะเดียวกันต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปตามสถานการณ์ เพื่อลดช่องโหว่และจุดอ่อนให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะที่เหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านดาวพระจันทร์ฯ ก็พอจะทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
ล่า"วีโก้-ซีวิค"อีก2คาร์บอมบ์
หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่รายหนึ่งแจ้งว่า จากการติดตามความเคลื่อนของกลุ่มความไม่สงบพบว่า คนร้ายได้ประกอบคาร์บอมบ์เพื่อใช้ก่อเหตุอีก 2คัน เป็นรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบป้ายทะเบียนและรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีแดง ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งล่าสุด คนร้ายได้เคลื่อนย้ายยานพาหนะดังกล่าวไปในพื้นที่ อ.เจาะไอร้องและอ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ผู้การนราฯกำชับ13อำเภอรับมือ
ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส สั่งการไปยังโรงพักในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เน้นตั้งด่านจุดตรวจเพื่อตรวจค้นรถยนต์เป้าหมายต้องสงสัย พร้อมให้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง สนธิกำลังทำการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมายที่คาดว่า คนร้ายจะใช้เป็นพื้นที่กบดานและตรวจค้นหาวัตถุระเบิด หรืออาวุธสงครามที่คนร้ายซุกซ่อน ซึ่งอาจนำมาก่อเหตุทำลายชีวิตและทรัพย์สินประชาชน นอกจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงไปยังประชาชน โดยเฉพาะย่านชุมชนและแหล่งการค้าของคนไทยพุทธ เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมายที่คนร้ายจะก่อเหตุ เพื่อสร้างสถานการณ์ความแตกแยก
กอ.รมน.ปัดมุสลิมหญิงฝึกอาวุธ
ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงแจกจ่ายรูปภาพเด็กเยาวชนหญิงมุสลิม ถืออาวุธปืนสงครามลักษณะเป็นการฝึกอาวุธไปตามหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบว่า รูปเยาวชนที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้น เป็นเยาวชนในพื้นที่หรือไม่ หลังพบข่าวการฝึกกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่เพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้น ที่ผ่านมาไม่ปรากฏในรายงานข้อมูลด้านการข่าวของหน่วยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีการฝึกอาวุธให้เยาวชนสตรีมุสลิมเพื่อใช้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด เพราะภาพดังกล่าวไม่ได้แจ้งว่า เป็นภาพเหตุการณ์เมื่อใดและไม่ได้ระบุสถานที่ว่า เป็นประเทศใด หรือพื้นที่ใด จึงอาจเป็นภาพที่ถูกจัดฉากให้เห็นเสมือนจริง แล้วกล่าวอ้างว่า เป็นการฝึกเยาวชนสตรีมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
ย้ำไทยปฎิบัติตามอนุสัญญาUN
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศภาคีภายใต้พิธีสารเลือกรับแห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งทางอาวุธ ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งมีกลไกในการคุ้มครองเด็ก โดยประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศนี้มาอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ละเลยปล่อยให้มีการละเมิด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่รายหนึ่งแจ้งว่า จากการติดตามความเคลื่อนของกลุ่มความไม่สงบพบว่า คนร้ายได้ประกอบคาร์บอมบ์เพื่อใช้ก่อเหตุอีก 2คัน เป็นรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบป้ายทะเบียนและรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีแดง ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งล่าสุด คนร้ายได้เคลื่อนย้ายยานพาหนะดังกล่าวไปในพื้นที่ อ.เจาะไอร้องและอ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ผู้การนราฯกำชับ13อำเภอรับมือ
ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส สั่งการไปยังโรงพักในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เน้นตั้งด่านจุดตรวจเพื่อตรวจค้นรถยนต์เป้าหมายต้องสงสัย พร้อมให้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง สนธิกำลังทำการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมายที่คาดว่า คนร้ายจะใช้เป็นพื้นที่กบดานและตรวจค้นหาวัตถุระเบิด หรืออาวุธสงครามที่คนร้ายซุกซ่อน ซึ่งอาจนำมาก่อเหตุทำลายชีวิตและทรัพย์สินประชาชน นอกจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงไปยังประชาชน โดยเฉพาะย่านชุมชนและแหล่งการค้าของคนไทยพุทธ เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมายที่คนร้ายจะก่อเหตุ เพื่อสร้างสถานการณ์ความแตกแยก
กอ.รมน.ปัดมุสลิมหญิงฝึกอาวุธ
ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงแจกจ่ายรูปภาพเด็กเยาวชนหญิงมุสลิม ถืออาวุธปืนสงครามลักษณะเป็นการฝึกอาวุธไปตามหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบว่า รูปเยาวชนที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้น เป็นเยาวชนในพื้นที่หรือไม่ หลังพบข่าวการฝึกกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่เพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้น ที่ผ่านมาไม่ปรากฏในรายงานข้อมูลด้านการข่าวของหน่วยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีการฝึกอาวุธให้เยาวชนสตรีมุสลิมเพื่อใช้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด เพราะภาพดังกล่าวไม่ได้แจ้งว่า เป็นภาพเหตุการณ์เมื่อใดและไม่ได้ระบุสถานที่ว่า เป็นประเทศใด หรือพื้นที่ใด จึงอาจเป็นภาพที่ถูกจัดฉากให้เห็นเสมือนจริง แล้วกล่าวอ้างว่า เป็นการฝึกเยาวชนสตรีมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
ย้ำไทยปฎิบัติตามอนุสัญญาUN
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศภาคีภายใต้พิธีสารเลือกรับแห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งทางอาวุธ ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งมีกลไกในการคุ้มครองเด็ก โดยประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศนี้มาอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ละเลยปล่อยให้มีการละเมิด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น