วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ดัจญาล



ดัจญาลคือใคร????


สัญลักษณ์หนึ่งก่อนการมาปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) อิมามคนสุดท้ายแห่งวงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) คือการปรากฏตัวของ "ดัจญาล" เขาจะมาสร้างความปั่นป่วนและความหายนะบนหน้าแผ่นดินนี้ในยุคสุดท้ายของมนุษยชาติ ท่านอะมีรุ้ลมุอ์มินีนอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าว่า "ก่อนวันสิ้นโลก (กิยามัต) จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นสิบเรื่องราว ซึ่งการปรากฏกายของสุฟยานีย์ และดัญญาลนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน"


ในมุสลิมพี่น้องสุนนะฮ์ ก็มีบันทึกเรื่องการมาปรากฏกายของดัจญาลเอาไว้เช่นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกับมุสลิมชีอะฮ์ ตรงที่พี่น้องสุนนะฮ์เชื่อว่าการมาปรากฏกายของดัจญาลนั้น เป็นสัญลักษณ์ของวันกิยามัต (วันสิ้นโลก) และพี่น้องชีอะฮ์เชื่อว่าการมาปรากฏกายของดัจญาล เป็นสัญลักษณ์ของการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) แต่ก็ถือว่าไม่ต่างอะไรกัน เพราะการมาปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั้น ก็เป็นสัญลักษณ์ของวันสิ้นโลกเช่นเดียวกัน


แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า "ดัจญาล" คือใคร? คืออะไร? และมีคุณลักษณะอย่างไร? ซึ่งเราควรที่จะทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ต่อแก่นแท้ของดัญญาล ตามรายงานต่างๆ ที่มี "ดัจญาล" คือบุคคลหนึ่งซึ่งจะมาปรากฏกายในยุคสุดท้ายของมนุษยชาติ ก่อนการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ดัจญาลจะออกมาสร้างความปั่นป่วน และความหายนะอย่างมากมายโดยการลวงล่อมนุษยชาติให้หันเหออกจากแนวทางที่เที่ยงตรง


"ดัจญาล" ไม่ใช่นามของบุคคลที่ถูกเฉพาะเจาะจง แต่ทว่าเป็นนามของบุคคลซึ่งที่มักจะกล่าวอ้างสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ ไร้ความน่าเชื่อถือ และเขาจะมีแต่เล่ห์เพทุบาย ในการหลอกลวงประชาชน ดังนั้นมนุษย์คนใดก็ตามที่มีคุณลักษณะเช่นนี้เขาผู้นั้นคือ "ดัจญาล" ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งตามรายงานอย่างมากมายได้ตอกย้ำถึงคุณลักษณะนี้เอาไว้อย่างชัดเจน


ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้มีวจนะเอาไว้ว่า "วันสิ้นโลกจะไม่บังเกิดขึ้น จนกว่ามะฮ์ดีจากวงศ์วานของฉันจะมาปรากฏกาย และมะฮ์ดีก็จะยังคงไม่ปรากฏกายจนกว่าจะมีผู้โกหก 60 คน จะปรากกฏขึ้น และทุกคนเหล่านั้นจะกล่าวว่า ฉันคือศาสดา"
ดัจญาล มีรากศัพย์มาจากคำว่า "ดาญาลา" หมายถึง "การโกหกชนิดเขี้ยวลากดิน" ในรายงานต่างๆอย่างมากมายที่ได้ให้ความหมายของดัจญาล ในนามของผู้โกหก ผู้หลอกลวง ผู้ชั่วร้าย ผู้ปกปิด ฯลฯ ซึ่งสามารถที่จะสรุปได้ว่าบุคคลใดก็ตามที่เป็นผู้ที่โกหกชนิดเขี้ยวลากดิน และในแต่ละวันอยู่แต่กับการโกหกหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาคือดัจญาลในวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) และหากวันใดที่หน้าแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยบุคคลเหล่านี้ วันนั้นคือวันซึ่งอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตัวแทนแห่งพระผู้เป็นเจ้าคนสุดท้ายจากวงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) จะมาปรากฏกายในไม่ช้า


ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังได้กล่าวไว้อีกครั้งหนึ่งว่า "ก่อนการปรากฏของดัญญาล จะมีมากกว่าเจ็ดสิบดัจญาลปรากฏขึ้นก่อน" หรือ "ก่อนวันสิ้นโลก ดัจญาลจะปรากฏขึ้น และก่อนการปรากฏดัจญาล จะปรากฏผู้พูดปดสามสิบคนหรือมากกว่า" ดังนั้นแสดงว่า ดัจญาลมีสองประเภท ประเภทหนึ่งคือดัจญาลตัวจริง และอีกประเภทคือบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่พูดจาโกหกปลิ้นปล้อน หลอกลวงประชาชนให้ไปสู่ความหลงผิด ก็คือดัจญาล เช่นกัน


เมื่อพิจารณาถึงความหมายทางหลักภาษาของดัจญาล และพิจารณารายงานต่างๆ ดัจญาลจึงไม่ใช่บุคคลที่ถูกเฉพาะไว้ แต่หมายถึงมนุษย์ทุกคนที่อยู่กับการหลอกลวงประชาชนอยู่ตลอดเวลาเป็นนิจสิน หรือใครก็ตามที่คอยเกลี้ยกล่อมเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไปสู่ความหลงผิด ผู้นั้นคือดัจญาล
ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวของดัจญาล คือสิ่งที่มาอรรถธาธิบาย บรรดาผู้ที่อยู่กับการลวงหลอกผู้อื่น และหน้าไหว้หลังหลอกนั่นเอง บุคคลเหล่านี้จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนำมนุษยชาติกลับไปสู่ยุคแห่งความป่าเถื่อน ด้วยวิธีต่างๆนานา ทั้งในเรื่องความคิด ความเชื่อ สังคม และหันเหความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ที่มุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของดัจญาลจึงเป็นสิ่งที่อันตรายยิ่งสำหรับมนุษย์ทุกคน และคงมีแต่ความศรัทธาที่มั่นคง และความตื่นตัวเท่านั้นที่จะทำให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายของดัจญาลได้


ในการปฏิวัติโลกของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ซึ่งเป็นการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แน่นอนการหลอกลวงของดัจญาลก็มีมาก และยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ดัจญาลเหล่านั้นไม่ว่าจะอยู่ในคราบของมุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิมจะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อทำลายจิตวิญญาณของมนุษยชาติ เพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่น และความศรัทธาของมนุษย์ ที่รอคอยการปฏิวัติโลกของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)


ด้วยเหตุนี้เองบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์วงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) จึงได้บอกข่าวการมาของดัจญาลพร้อมคุณลักษณะต่างๆ ให้ประชาชาติได้รับรู้ เพื่อที่จะได้ตื่นตัวและเตรียมพร้อม ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อแห่งการลวงล่อของดัจญาล ซึ่งในรายงานมีมากมายที่ได้เน้นย้ำถึงเรื่องนี้ อาธิเช่น ในทุกๆศาสดาของพระองค์ จะมีการบอกข่าวถึงความชั่วร้ายของดัจญาลแก่ประชาชาติในทุกยุคนั้น เพราะดัจญาลคือศัตรูของบรรดาศาสดาในทุกยุคทุกสมัย จนมาถึงยุคปัจจุบัน


สมควรที่จะกล่าวเช่นเดียวกันว่า เรื่องดัจญาลก็มีปรากฏอยู่ในคำภีร์อินญีลของชาวคริสเตียนอีกด้วย ซึ่งมีปรากฏหลายครั้งด้วยกัน ชาวคริสเตียนเชื่อว่าดัจญาลคือผู้ที่ปฏิเสธท่านมะซีฮ์ (ศาสดาอีซา) หรือปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร คำว่า "ดัจญาล" มีบันทึกอยู่ในคำภีร์ และในหนังสือวิชาการของชาวคริสเตียนที่เป็นภาษาอังกฤษว่า "แอนตี้ไครส์" หมายถึงผู้โกหกมดเท็จ ผู้หลอกลวง
ดัจญาล อีกความหมายหนึ่งคือ อุปมาอุปมัยของการลวงโลก และการมีอำนาจทางวัฒนธรรม ทางวัตถุเหนือประชาคมโลกของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ความหยิ่งผยองในรูปลักษณ์ภายนอกเพื่อลวงหลอกประชาคมโลกโดยเฉพาะต่อบรรดามุสลิม ด้วยการนำเสนอสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในการครอบครองเช่นอำนาจด้านวัตถุ ด้านอุตสาหกรรม ด้านเศษรฐกิจ ด้านเทคโนโลยี เพื่อให้มุสลิมได้มีความเกรงกลัว ไม่กล้าที่เป็นปฏิปักษ์กับพวกเขาได้


ดังนั้นความหมายของดัจญาลที่ได้กล่าวไปจึงมีความเป็นไปได้สูงด้วยคุณสมบัติและคุณลักษณะและอำนาจต่างๆ ที่พวกคนเหล่านั้นมีในขณะนี้ นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของดัจญาลเช่นนั้น เนื่องจากคุณลักษณะของดัจญาลที่มีตามรายงานต่างๆ อย่างมากมายตรงกับมหาอำนาจในยุคปัจจุบันยิ่งนัก เช่นดัจญาลจะเดินทางไปในทุกๆ ที่บนโลกนี้ นั่นหมายถึงเทคโนโลยีที่มหาอำนาจเหล่านั้นมีอยู่ในครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่างๆทุกชนิดที่มีความซับซ้อนมากมาย ดาวเทียมต่างๆ ที่สามารถมองทะลุเข้าไปในบ้านผู้ใดก็ได้ ฯลฯ การครอบงำประชาคมโลกด้วยสื่อโฆษนาชวนเชื่อนานาชนิด ข้ออ้างการปกป้องสิทธิมนุษยชน สันติภาพ ความมั่นคง การให้ความช่วยเหลือที่มีนัยยะแอบแฝงของมหาอำนาจเหล่านี้คือ ความหมายที่แท้จริงของ "ดัจญาล"


เขาถือว่าความยิ่งใหญ่ของพวกเขาสามารถปกครองประชาคมโลกได้ โดยการยึดเอาความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี ความมั่งมีที่พวกเขามี ล่วงล้ำอาณาธิปไตยของประเทศอื่น และจะบุกหรือยึดครองที่ไหนก็ได้ให้อยู่ใต้อาณัติของพวกเขาตามอำเภอใจ ด้วยข้ออ้างต่างๆนานา


ดังนั้นความหมายที่แท้จริงของดัจญาล ในวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) คือผู้ที่เป็นศัตรูกับศาสนาของพระองค์ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในอุดมการณ์ของมุฮัมมัด ผู้ที่กดขี่ผู้อื่น ผู้ที่ไม่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ที่หน้าไหว้หลังหลอก และแน่นอนยิ่งดัจญาลคือผู้ที่จะสร้างความหายนะบนหน้าแผ่นดินนี้ และเมื่อนั้นอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ชี้นำแนวทางที่เที่ยงตรงจะมาทำสงครามกับ "ดัจญาล" เป็นการทำสงครามกันระหว่าง รัศมีแห่งพระผู้เป็นเจ้า กับความมืดมนแห่งความชั่วร้าย และรัศมีแห่งพระผู้เป็นก็จะมีชัยชนะเหนือดัจญาล เมื่อนั้นโลกใบนี้ก็จะมีแต่ความยุติธรรมในทุกๆ หนแห่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม